กองบัญชาการสอบสวนกลาง เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมพื้นที่ภาคกลาง นำสิ่งของแจกจ่ายไปยังพื้นที่ต่างๆ พร้อมส่งตำรวจทางหลวงดูแลเส้นทางจราจร ส่งเรือดันน้ำ เรือยาง เข้าอพยพประชาชนจากจุดเสี่ยง รวมถึงตำรวจกองปราบฯ เน้นดูแลจับพวกขโมยทรัพย์สิน ขู่ ตำรวจนายใดทำงานบกพร่อง ถ้ามีรายงานให้ทราบ จะส่งผลถึงการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งปลายปีด้วย
วันที่ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม บช.ก.ว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.ก.ดูแล และสั่งให้ผู้บังคับบัญชาทั้งหมดของหน่วยงานช่วยกันทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว โดยจะส่งอุปกรณ์เวชภัณฑ์ อาหาร น้ำดื่ม ข้าวสาร เสื้อชูชีพ และ เงินสด ลงไปช่วยเหลือในส่วนของพื้นที่ของภาคกลางที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนทันที เช่น พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ จนกระทั่งถึงภาคเหนือ ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการวางแผนและเตรียมการมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว อีกทั้งได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่าหมื่นนาย เข้าให้การช่วยเหลือ ซึ่งได้มีการคาดการณ์ว่า จะเกิดภัยพิบัติขึ้นใน 2-3 วัน แต่ก็เกิดภัยพิบัติดังกล่าวขึ้นเมื่อคืนนี้ จึงทำให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวกว่าแสนรายได้รับผลกระทบ
“จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจทางหลวงลงไปดูแลเรื่องเกี่ยวกับเส้นทาง จัดรถยก และเปิดช่องทางพิเศษ รวมทั้งได้ส่งกำลังของกองบังคับการตำรวจน้ำนำเรือดันน้ำ และเรือยางกว่า 50 ลำ ร่วมกันลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือในการอพยพประชาชนออกจากจุดเสี่ยง รวมทั้งให้กองบังคับการกองปราบปรามดูแลในเรื่องของการขโมยทรัพย์สิน โดยส่งสายตรวจนอกเครื่องแบบลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้ หากเจ้าหน้าตำรวจนายใดปฏิบัติหน้าที่บกพร่องโดยไม่มีการรายงานเข้ามา จะทำให้ส่งผลถึงการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งปลายปีที่จะนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา” ผบช.ก.กล่าว
เมื่อถามถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรหนาแน่นบริเวณถนนสายเอเชียนั้น พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า ตนได้เดินทางลงไปดูในพื้นที่ดังกล่าวมาแล้ว ส่วนมากพบว่าถนนสายหลักที่เสียหายอยู่บริเวณ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งถนนที่แยกย่อยออกมาเป็นทางตัดผ่านไปยังหมู่บ้านต่างๆ บางทีเสียหายทางขาด เพื่อมุ่งหน้าไปยังภาคเหนือ เบื้องต้นได้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนแล้ว โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงร่วมกันลงพื้นที่ พร้อมทั้งประสานทางผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้ช่วยดูแลในเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์น้ำท่วมเส้นทางหลวงเส้นทางหลวงหมายเลข 1-3 หลักถูกท่วม โดยเฉพาะบริเวณทางเขตพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทางหลวงหมายเลข 32 หรือสายเอเชีย ขาออก กม.ที่ 21-23 หน้าตลาดกลางเกษตร ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีระดับน้ำสูงถึง 20-30 ซม.ยาวประมาณ 1 กม.รถผ่านได้เพียงช่องทางขวา 1 ช่องทาง และทางหลวง 341 หรือปทุมธานี-บางปะหัน กม.ที่36-39 ต.บ้านลี่และต.บ้านแจ้ง อ.บางปะหัน มีระดับน้ำสูง 30-60 ซม.ยาวประมาณ 3 กม. เปิดช่องทางพิเศษให้รถวิ่งสวนทาง นอกจากนี้ ตำรวจทางหลวงได้ติดป้ายเตือนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ถูกน้ำท่วม โดยสามารถสอบถามเส้นทางและประสานเพื่อจะมอบเงินหรือสิ่งของเพื่อบริจาคได้ที่ 1193 ได้ตลอด 24 ชม.
วันที่ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม บช.ก.ว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.ก.ดูแล และสั่งให้ผู้บังคับบัญชาทั้งหมดของหน่วยงานช่วยกันทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว โดยจะส่งอุปกรณ์เวชภัณฑ์ อาหาร น้ำดื่ม ข้าวสาร เสื้อชูชีพ และ เงินสด ลงไปช่วยเหลือในส่วนของพื้นที่ของภาคกลางที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนทันที เช่น พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ จนกระทั่งถึงภาคเหนือ ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการวางแผนและเตรียมการมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว อีกทั้งได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่าหมื่นนาย เข้าให้การช่วยเหลือ ซึ่งได้มีการคาดการณ์ว่า จะเกิดภัยพิบัติขึ้นใน 2-3 วัน แต่ก็เกิดภัยพิบัติดังกล่าวขึ้นเมื่อคืนนี้ จึงทำให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวกว่าแสนรายได้รับผลกระทบ
“จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจทางหลวงลงไปดูแลเรื่องเกี่ยวกับเส้นทาง จัดรถยก และเปิดช่องทางพิเศษ รวมทั้งได้ส่งกำลังของกองบังคับการตำรวจน้ำนำเรือดันน้ำ และเรือยางกว่า 50 ลำ ร่วมกันลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือในการอพยพประชาชนออกจากจุดเสี่ยง รวมทั้งให้กองบังคับการกองปราบปรามดูแลในเรื่องของการขโมยทรัพย์สิน โดยส่งสายตรวจนอกเครื่องแบบลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้ หากเจ้าหน้าตำรวจนายใดปฏิบัติหน้าที่บกพร่องโดยไม่มีการรายงานเข้ามา จะทำให้ส่งผลถึงการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งปลายปีที่จะนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา” ผบช.ก.กล่าว
เมื่อถามถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรหนาแน่นบริเวณถนนสายเอเชียนั้น พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า ตนได้เดินทางลงไปดูในพื้นที่ดังกล่าวมาแล้ว ส่วนมากพบว่าถนนสายหลักที่เสียหายอยู่บริเวณ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งถนนที่แยกย่อยออกมาเป็นทางตัดผ่านไปยังหมู่บ้านต่างๆ บางทีเสียหายทางขาด เพื่อมุ่งหน้าไปยังภาคเหนือ เบื้องต้นได้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนแล้ว โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงร่วมกันลงพื้นที่ พร้อมทั้งประสานทางผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้ช่วยดูแลในเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์น้ำท่วมเส้นทางหลวงเส้นทางหลวงหมายเลข 1-3 หลักถูกท่วม โดยเฉพาะบริเวณทางเขตพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทางหลวงหมายเลข 32 หรือสายเอเชีย ขาออก กม.ที่ 21-23 หน้าตลาดกลางเกษตร ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีระดับน้ำสูงถึง 20-30 ซม.ยาวประมาณ 1 กม.รถผ่านได้เพียงช่องทางขวา 1 ช่องทาง และทางหลวง 341 หรือปทุมธานี-บางปะหัน กม.ที่36-39 ต.บ้านลี่และต.บ้านแจ้ง อ.บางปะหัน มีระดับน้ำสูง 30-60 ซม.ยาวประมาณ 3 กม. เปิดช่องทางพิเศษให้รถวิ่งสวนทาง นอกจากนี้ ตำรวจทางหลวงได้ติดป้ายเตือนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ถูกน้ำท่วม โดยสามารถสอบถามเส้นทางและประสานเพื่อจะมอบเงินหรือสิ่งของเพื่อบริจาคได้ที่ 1193 ได้ตลอด 24 ชม.