“ฮาเวิร์ด หวัง” เข้ารับข้อกล่าวหาตบบ้องหูสาวแม็กซิม

“ฮาเวิร์ด หวัง” เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตบบ้องหูอดีตแฟนสาวจนหูอื้อไม่หาย ขณะที่อดีตหวานใจย้ำหลังถูกตบ “ฮาเวิร์ด” ไม่เคยโทร.ขอโทษ ยอมรับแม่ฝ่ายชายโทร.เคลียร์เรื่องเงิน 1 แสนบาท โดยจะคืนให้แต่ขอให้ตนเองยอมความ ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

วันนี้ (4 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สน.ห้วยขวาง นายฮาร์เวิร์ด หวัง และนางจูลี่ ชู มารดา เดินทางด้วยรถตู้สีดำยี่ห้อฮุนได หมายเลขทะเบียน ฮธ 9689 เข้าพบ ร.ต.อ.พงษ์พิทักษ์ โมงขุนทด พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว น.ส.พิลาวรรณ หรือหมวย อารีรอบ อายุ 28 ปี อดีตผู้เข้าประกวดสาวแม็กซิม ปี 2010 อดีตแฟนสาวตามที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ภายหลังรับทราบข้อกล่าวหา นายฮาร์เวิร์ดกล่าวว่า มารับทราบข้อกล่าวหาตามที่ถูกแจ้งความไว้ โดยได้นัดกับพนักงานสอบสวนไว้ เวลา 09.00 น. แต่แม่ติดธุระจึงต้องเลื่อนมาช่วงบ่าย ส่วนกรณีที่ น.ส.พิลาวรรณได้บอกกับสื่อมวลชนว่า หลังจากเกิดเหตุตนไม่ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยหรือขอโทษเลยนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากหลังจากเกิดเรื่องตนก็ได้โทร.ไปขอโทษภายในวันนั้นทันที ซึ่งหลังจากมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ตนจะกลับไปปรึกษาทนายความว่าจะดำเนินการเช่นไรต่อไป

ด้าน นางจูลี่กล่าวยอมรับว่า ผู้เสียหายได้ให้เงินจำนวน 1 แสนบาทมาจริง ซึ่งทางตนไม่ได้ต้องการเพราะเกรงใจ แต่ทาง น.ส.พิลาวรรณยืนยันว่ายินดีที่จะช่วยเหลือ จนกระทั่งวันที่มีปากเสียงกับลูกชายของตน น.ส.พิลาวรรณได้นำกระดาษมาให้ลูกชายตนเขียนว่าถ้าคดีสิ้นสุดจะคืนเงินจำนวน 1 แสนบาทให้ โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (3 ต.ค.) ตนพร้อมทนายได้นัด น.ส.พิลาวรรณมาเจรจาว่าจะนำเงินมาคืนและขอให้ยอมความ โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ทาง น.ส.พิลาวรรณไม่ยอมจึงได้ถามว่าต้องการอะไร แต่ไม่ได้รับคำตอบจากอดีตแฟนของลูกชาย

“เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ฉันและลูกชายเครียดมาก โดยหลังจากคดีเสร็จสิ้นลูกชายเตรียมตัวจะบวช แต่ต้องรอเคลียร์คิวงานให้เรียบร้อยก่อน ส่วนเรื่องเงินดังกล่าวยืนยันว่าจะชดใช้คืนให้อย่างแน่นอน” นางจูลี่กล่าว

ด้าน ร.ต.อ.พงษ์พิทักษ์กล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำนายฮาเวิร์ด ซึ่งยังให้การภาคเสธ โดยหลังจากนี้จะขอไปปรึกษากับทนายก่อน พร้อมนัดให้นำหลักฐานมาให้และสอบปากคำเพิ่มเติม

ทั้งนี้ พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานตามขั้นตอน รวมทั้งได้ทำการสอบปากคำ น.ส.พิลาวรรณ ในฐานะผู้กล่าวหา รวมทั้งนางจูลี่ ชู มารดาของนายฮาเวิร์ด ซึ่งอยู่ในบ้านขณะเกิดเหตุด้วย โดยเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายฮาเวิร์ดให้เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ ในข้อหาทำร้ายร่างกายแต่ไม่ถึงกับสาหัส เนื่องจากแพทย์ยืนยันระยะเวลาการรักษาว่าไม่เกิน 20 วัน

ด้าน น.ส.พิลาวรรณเปิดเผยว่า ขณะนี้อาการบาดเจ็บบริเวณใบหูข้างซ้ายยังมีอาการปวดและหูอื้ออยู่ ซึ่งตนจะเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้แพทย์ได้ระบุว่าตนสูญเสียการได้ยินระดับกลาง เช่น เสียงโทรศัพท์ตนจะไม่ค่อยได้ยิน รวมทั้งแผลยังไม่ปิดสนิท อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคดีความเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) นางจูลี่ ชู มารดาของนายฮาเวิร์ดได้นัดพบตนเพื่อเจรจาคืนเงินให้เพื่อแลกกับการยอมความ ซึ่งตนไม่ยอม เพราะตั้งแต่เกิดเหตุมาทางอดีตแฟนหนุ่มไม่เคยโทรศัพท์มาสอบถามอาการแต่อย่างใด รวมทั้งคำขอโทษสักคำก็ไม่มีออกจากปากผู้ชายคนนี้ ซึ่งตนได้ปรึกษากับทางครอบครัวยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด