นักข่าวช่อง 7 ลั่นไม่ยอมความ พร้อมเดินหน้าเอาผิดมือดีส่งอีเมลข่มขู่ ยกให้เป็นกรณีตัวอย่าง ขณะที่ ตร.เตรียมออกหมายเรียกประธานกลุ่มคนเสื้อแดงเพชรบุรีสอบปากคำ หากเจ้าตัวยอมรับทำจริงจะแจ้งข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวทันที
จากกรณี น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร อายุ 42 ปี ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ถูกส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ลูกโซ่ข่มขู่ ด้วยการโพสต์ภาพถ่าย และระบุข้อมูลส่วนตัว ทั้งชื่อและนามสกุล ว่าเป็นผู้ซักถามนายกรัฐมนตรีจนต้องเดินหนี จนภายหลังนางพรทิพย์ ปักษานนท์ ประธานกลุ่มคนเสื้อแดงเพชรบุรี เป็นผู้ออกมายอมรับว่าเป็นผู้ส่งจดหมายดังกล่าวเอง พร้อมทั้งระบุว่าจะเดินทางมาขอโทษ น.ส.สมจิตต์ เพราะไม่มีเจตนาที่จะข่มขู่นั้น
วันนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ สน.ดุสิต น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร อายุ 42 ปี ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อภิชาติ นาคสุข พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ดุสิต เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีพร้อมให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีดังกล่าว พร้อมกับเปิดเผยว่า หลังจากนางพรทิพย์ออกมายอมรับว่าเป็นคนส่งอีเมลดังกล่าว อีกทั้งระบุว่าไม่ได้มีเจตนาข่มขู่นั้น แต่สิ่งที่อีกฝ่ายทำลงไปส่งผลกระทบกับตนแล้ว เนื่องจากมีคนโทรศัพท์มาด่า โดยที่ไม่รู้ว่าไปเอาเบอร์โทรศัพท์มือถือตนมาจากไหน และเบอร์ที่โทร.เข้ามาก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะขึ้นว่าเบอร์ส่วนตัว
น.ส.สมจิตต์กล่าวต่อว่า สำหรับอีเมล์ดังกล่าวที่ถูกส่งไปในวันแรก คือ วันที่ 23 ส.ค. มีส่งไปให้ผู้รับถึง 47 คน ซึ่งคนที่ได้รับก็ต้องกระจายกันส่งต่อไปอีกแน่นอน จนถึงวันนี้อาจจะเป็น 1,000 คนแล้วก็ได้ แม้คนส่งคนแรกจะออกมาบอกว่ารู้สึกผิดและไม่ได้ตั้งใจข่มขู่ แต่ตนไม่แน่ใจว่า คนอื่นๆ ที่ได้รับอีเมลนี้จะทำอะไรตามข้อความในอีเมลระบุว่า “เจอหน้าที่ไหนช่วยกันจัดให้หน่อยนะครับ” หรือไม่ ซึ่งตนจะทำหนังสือประสานไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อขอให้มีการตรวจสอบต้นตอเรื่องนี้ รวมทั้งยับยั้งการเผยแพร่อีเมลนี้ต่อไปด้วย
น.ส.สมจิตต์กล่าวด้วยว่า แม้คดีนี้จะเป็นความผิดลหุโทษ มีโทษจำคุกแค่ 1 เดือน หรือปรับแค่ 1,000 บาท หรือขึ้นศาลแล้วศาลอาจจะให้รอลงอาญา แต่ยืนยันที่จะดำเนินคดีตามเดิม เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่าง เพราะเรื่องแบบนี้ง่ายที่จะออกมาพูดว่าเสียใจ หรือขอโทษ แต่หากคนทำมีสำนึก มีสติยั้งคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นผิดกฎหมายหรือละเมิดสิทธิของคนอื่นหรือไม่ ซึ่งเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น
ด้าน พ.ต.ท.อภิชาติกล่าวว่า เมื่อผู้เสียหายยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้ส่งอีเมลดังกล่าว หลังจากนี้จะทำการออกหมายเรียกไปยังนางพรทิพย์ที่ออกมายอมรับว่าเป็นคนส่งอีเมลตามข่าวให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นคนส่งอีเมล์จริงหรือไม่ และวัตถุประสงค์อะไรในการส่งอีเมล์นั้น หากเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นคนส่งอีเมล์จริงจะแจ้งข้อหา ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยการขู่เข็ญ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนนำตัวส่งฟ้องศาลต่อไป
