รพ.พระมงกุฎฯ มอบกะโหลกเทียมให้หมอมุก โดยทีมศัลยแพทย์จะผ่าตัดปิดโพรงศีรษะที่ยุบในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) ชี้ กะโหลกเทียมเป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุด รพ.ใช้ผ่าตัดเปลี่ยนกะโหลกผู้ป่วยมาแล้ว 100 ราย เผย อาการโดยรวมดีวันดีคืน ขณะที่แม่หมอมุก ขอบคุณทีมแพทย์ และรู้สึกดีใจลูกได้รับกะโหลกใหม่ ส่วนเรื่องคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทหาร
วันนี้ (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ ที่หอผู้ป่วยศัลยกรรมพิเศษ 14/2 พ.อ.นพ.กฤษณ์ กาญจนฤกษ์ รอง ผอ.รพ.พระมงกุฎเกล้า พร้อมด้วย พ.อ.นพ.ธีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชการฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฎเกล้า มอบอุปกรณ์สำหรับผ่าตัดปิดกะโหลกศีรษะให้กับ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก เพื่อทำการผ่าตัดใส่กะโหลกศีรษะเทียมให้กับหมอมุกในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) โดยมี พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดาหมอมุก ร่วมเป็นตัวแทนรับด้วย
พ.อ.นพ.กฤษณ์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้แพทย์ รพ.พระมงกุฎฯ ได้ดูแลรักษาอาการของหมอมุกมาเป็นอย่างดี จนสามารถฟื้นตัวได้ดีวันดีคืน โดยทางแพทย์ได้มีความเห็นว่าสามารถให้ทีมศัลยแพทย์สามารถทำการผ่าตัด เพื่อปิดโพรงศีรษะที่ยุบไปได้ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) โดยอุปกรณ์ที่ใช้ทำกะโหลกเทียมให้กับหมอมุกเป็นอุปกรณ์ที่มีความทันสมัย และสามารถผลิตได้ในประเทศไทย โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ หรือ เอ็มเทค ที่ใช้คอมพิวเตอร์วัดขนาดกะโหลกและหล่อแบบ เพื่อหมอมุกโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาที่ใช้ในการผ่าตัดลงเหลือเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง ลดการติดเชื้อจากการผ่าตัดได้ดี โดยใช้เวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดประมาณ 1 สัปดาห์
สำหรับกะโหลกศีรษะเทียมดังกล่าวมีการใช้ผ่าตัดเปลี่ยนกะโหลกผู้ป่วยอื่นๆ มาประมาณ 100 รายแล้ว ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุดที่ไทยสามารถผลิตได้ในขณะนี้ และราคาไม่สูงมากประมาณ 35,000 บาท ซึ่งทางโรงพยาบาลพระมงกุฎฯก็พิจารณาแล้วว่าควรมอบกะโหลกเทียมนี้ให้ เนื่องจากหมอมุกเป็นข้าราชการทหารที่เสียสละ และได้รับอุบัติเหตุเช่นนี้เป็นกรณีที่น่าเห็นใจ
ด้าน พ.อ.นพ.ธีระพล กล่าวถึงอาการหมอมุก ว่า อาการโดยทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ โดยสามารถสื่อสารได้ แต่การพูดต้องให้มีผู้พูดนำ จึงสามารถพูดตามได้เป็นคำๆ ส่วนความจำนั้นยังต้องรอการฟื้นฟูของสมอง เนื่องจากยังไม่สามารถนึกเหตุการณ์ที่เพิ่งทำไปได้ รวมถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่การพัฒนาด้านความจำก็ดีขึ้นตามลำดับ โดยคาดว่า หลังจากทีมศัลยแพทย์ได้ทำการผ่าตัดปิดกะโหลกการพัฒนาของสมองก็จะดีขึ้นอีก เนื่องจากจะทำให้สมองถูกแรงกดโดยตรงจากบรรยากาศลดลง
พญ.พรรณกร ได้กล่าวขอบคุณทีมแพทย์ รพ.พระมงกุฎฯ แทนหมอมุก พร้อมกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับกะโหลกใหม่ ซึ่งคาดว่า หลังผ่าตัดแล้วหมอมุกจะดูดีขึ้น และแม้หมอมุกจะยังพูดไม่ค่อยได้ แต่ก็ทราบเรื่องนี้ และบอกว่าดีใจ ส่วนเรื่องคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทหาร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมา คงต้องรอผลการพิจารณาของศาลทหารก่อนจะดำเนินการต่อไป
วันนี้ (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ ที่หอผู้ป่วยศัลยกรรมพิเศษ 14/2 พ.อ.นพ.กฤษณ์ กาญจนฤกษ์ รอง ผอ.รพ.พระมงกุฎเกล้า พร้อมด้วย พ.อ.นพ.ธีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชการฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฎเกล้า มอบอุปกรณ์สำหรับผ่าตัดปิดกะโหลกศีรษะให้กับ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก เพื่อทำการผ่าตัดใส่กะโหลกศีรษะเทียมให้กับหมอมุกในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) โดยมี พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดาหมอมุก ร่วมเป็นตัวแทนรับด้วย
พ.อ.นพ.กฤษณ์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้แพทย์ รพ.พระมงกุฎฯ ได้ดูแลรักษาอาการของหมอมุกมาเป็นอย่างดี จนสามารถฟื้นตัวได้ดีวันดีคืน โดยทางแพทย์ได้มีความเห็นว่าสามารถให้ทีมศัลยแพทย์สามารถทำการผ่าตัด เพื่อปิดโพรงศีรษะที่ยุบไปได้ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) โดยอุปกรณ์ที่ใช้ทำกะโหลกเทียมให้กับหมอมุกเป็นอุปกรณ์ที่มีความทันสมัย และสามารถผลิตได้ในประเทศไทย โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ หรือ เอ็มเทค ที่ใช้คอมพิวเตอร์วัดขนาดกะโหลกและหล่อแบบ เพื่อหมอมุกโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาที่ใช้ในการผ่าตัดลงเหลือเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง ลดการติดเชื้อจากการผ่าตัดได้ดี โดยใช้เวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดประมาณ 1 สัปดาห์
สำหรับกะโหลกศีรษะเทียมดังกล่าวมีการใช้ผ่าตัดเปลี่ยนกะโหลกผู้ป่วยอื่นๆ มาประมาณ 100 รายแล้ว ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุดที่ไทยสามารถผลิตได้ในขณะนี้ และราคาไม่สูงมากประมาณ 35,000 บาท ซึ่งทางโรงพยาบาลพระมงกุฎฯก็พิจารณาแล้วว่าควรมอบกะโหลกเทียมนี้ให้ เนื่องจากหมอมุกเป็นข้าราชการทหารที่เสียสละ และได้รับอุบัติเหตุเช่นนี้เป็นกรณีที่น่าเห็นใจ
ด้าน พ.อ.นพ.ธีระพล กล่าวถึงอาการหมอมุก ว่า อาการโดยทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ โดยสามารถสื่อสารได้ แต่การพูดต้องให้มีผู้พูดนำ จึงสามารถพูดตามได้เป็นคำๆ ส่วนความจำนั้นยังต้องรอการฟื้นฟูของสมอง เนื่องจากยังไม่สามารถนึกเหตุการณ์ที่เพิ่งทำไปได้ รวมถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่การพัฒนาด้านความจำก็ดีขึ้นตามลำดับ โดยคาดว่า หลังจากทีมศัลยแพทย์ได้ทำการผ่าตัดปิดกะโหลกการพัฒนาของสมองก็จะดีขึ้นอีก เนื่องจากจะทำให้สมองถูกแรงกดโดยตรงจากบรรยากาศลดลง
พญ.พรรณกร ได้กล่าวขอบคุณทีมแพทย์ รพ.พระมงกุฎฯ แทนหมอมุก พร้อมกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับกะโหลกใหม่ ซึ่งคาดว่า หลังผ่าตัดแล้วหมอมุกจะดูดีขึ้น และแม้หมอมุกจะยังพูดไม่ค่อยได้ แต่ก็ทราบเรื่องนี้ และบอกว่าดีใจ ส่วนเรื่องคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทหาร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมา คงต้องรอผลการพิจารณาของศาลทหารก่อนจะดำเนินการต่อไป