คนงานแค้นนายจ้างโดนให้ออก ย้อนกลับมาแก้แค้นบุกงัดร้านเข้าโจรกรรมพระพุทธรูปสีทอง 5 องค์ แต่กลัวคนเห็นเอาคลุมเสื้อแล้วซุกไว้ในพงหญ้า โชคดีมีคนมาพบแล้วโทร.แจ้ง ตร.ขณะที่เจ้าของร้านเชื่อเป็นฝีมือของอดีตลูกน้องเก่าที่เพิ่งให้ออกเมื่อ 2-3 วัน เพราะเสื้อที่คลุมองค์พระเป็นของลูกน้องเก่า
วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.ประสพ รัตนารามิก ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุพบพระพุทธรูปถูกโจรกรรมแล้วนำมาทิ้งไว้ในพงหญ้าหน้าหมู่บ้านเกื้อกูลนิเวศน์ ถ.ติวานนท์ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผกก. พ.ต.ท.วีระพล วงศาสตร์สาย สวป. พ.ต.ท.วิทิต จันทร์เอี่ยม สว.สส.รีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุในป่าหญ้าดังกล่าวมีพระพุทธรูปสีทองอร่ามจำนวน 5 องค์ ถูกซุกทิ้งไว้ โดยมีเสื้อยึดสีดำคลุมปิดองค์พระเอาไว้ จึงให้เจ้าหน้าที่สายสืบนำขึ้นมาตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าเป็นพระพุทธชินราช พระอู่ทอง พระหลวงพ่อโสธร 2 องค์ และพระหลวงพ่อทวด
ต่อมา นายอุดม เจนศิริผล อายุ 65 ปี เจ้าของร้าน “แพร่มอเตอร์” เลขที่ 95/236 ซึ่งเปิดเป็นร้านซ่อมและทำสีรถ จยย.ห่างจุดเกิดเหตุราวครึ่งกิโล ได้เดินทางมาดูของกลาง พร้อมยืนยันว่า พระพุทธรูปทั้งหมดเป็นของตนเองที่ถูกโจรกรรมมา นายอุดม ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาคนร้ายได้งัดประตูเหล็กด้านหลังซึ่งเป็นตึกแถว 4 ชั้น 2 คูหา แล้วเข้ามาที่ห้องทำงานก่อนที่จะลักพระพุทธรูปจำนวนมากทั้งองค์เล็กองค์ใหญ่หลบหนีไป ส่วนเสื้อยึดที่พบตนเองจำได้ว่าเป็นเสื้อของ นายปอนค์ อายุ 18 ปี คนงานที่ร้านที่เพิ่งให้ออกไปเมื่อ 2-3 วันก่อน
เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายน่าจะเป็นนายปอนด์พาพวกมาลักพระพุทธรูปนายจ้างเพื่อแก้แค้น แต่พระที่ถูกซุกไว้ในพงหญ้ามีน้ำหนักมากกลัวคนเห็นเลยทิ้งไว้ก่อนๆที่จะหวนกลับมาเอาในตอนหลังแต่มีคนผ่านมาเห็นเสียก่อนเลยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ จะได้ตามตัว นายปอนด์เพื่อมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.ประสพ รัตนารามิก ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุพบพระพุทธรูปถูกโจรกรรมแล้วนำมาทิ้งไว้ในพงหญ้าหน้าหมู่บ้านเกื้อกูลนิเวศน์ ถ.ติวานนท์ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผกก. พ.ต.ท.วีระพล วงศาสตร์สาย สวป. พ.ต.ท.วิทิต จันทร์เอี่ยม สว.สส.รีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุในป่าหญ้าดังกล่าวมีพระพุทธรูปสีทองอร่ามจำนวน 5 องค์ ถูกซุกทิ้งไว้ โดยมีเสื้อยึดสีดำคลุมปิดองค์พระเอาไว้ จึงให้เจ้าหน้าที่สายสืบนำขึ้นมาตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าเป็นพระพุทธชินราช พระอู่ทอง พระหลวงพ่อโสธร 2 องค์ และพระหลวงพ่อทวด
ต่อมา นายอุดม เจนศิริผล อายุ 65 ปี เจ้าของร้าน “แพร่มอเตอร์” เลขที่ 95/236 ซึ่งเปิดเป็นร้านซ่อมและทำสีรถ จยย.ห่างจุดเกิดเหตุราวครึ่งกิโล ได้เดินทางมาดูของกลาง พร้อมยืนยันว่า พระพุทธรูปทั้งหมดเป็นของตนเองที่ถูกโจรกรรมมา นายอุดม ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาคนร้ายได้งัดประตูเหล็กด้านหลังซึ่งเป็นตึกแถว 4 ชั้น 2 คูหา แล้วเข้ามาที่ห้องทำงานก่อนที่จะลักพระพุทธรูปจำนวนมากทั้งองค์เล็กองค์ใหญ่หลบหนีไป ส่วนเสื้อยึดที่พบตนเองจำได้ว่าเป็นเสื้อของ นายปอนค์ อายุ 18 ปี คนงานที่ร้านที่เพิ่งให้ออกไปเมื่อ 2-3 วันก่อน
เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายน่าจะเป็นนายปอนด์พาพวกมาลักพระพุทธรูปนายจ้างเพื่อแก้แค้น แต่พระที่ถูกซุกไว้ในพงหญ้ามีน้ำหนักมากกลัวคนเห็นเลยทิ้งไว้ก่อนๆที่จะหวนกลับมาเอาในตอนหลังแต่มีคนผ่านมาเห็นเสียก่อนเลยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ จะได้ตามตัว นายปอนด์เพื่อมาดำเนินคดีต่อไป
