ตำรวจกว่า 80 นาย นำหมายค้นชั้น 8 คอนโดฯปิ่นเกล้า โดยเดินเท้าขึ้นบันได เพราะมีลิฟต์เพียงตัวเดียว ต้องงัดประตูเหล็กหนากว่า 6 นิ้ว ที่ปิดล็อกแน่นหนาอยู่ชั้น 2 เพื่อขึ้นไปตรวจค้น เมื่อถึงชั้น 8 พบห้องโถงใหญ่ 2 ห้อง ห้องเล็ก 1 ห้อง พอจะเข้าตรวจค้นผู้ดูแลอ้างไม่มีกุญแจ จึงทำได้แค่มองจากภายนอก พบห้องโถงเปล่ามีเพียงอุปกรณ์โต๊ะพับเก็บกองไว้ ทั้ง 3 ห้อง แต่ไม่พบอุปกรณ์การเล่นการพนัน
วันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ชลิต ประสพศิลป พ.ต.อ.อดิศักดิ์ คุณพันธ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน พ.ต.ท.เชษฐา สว่างสุข รองผกก.ปป.สน.บางยี่ขัน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจากกองกำกับการสืบสวนนครบาล 7 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ (พลร่ม ค่ายนเรศวร) รวมกว่า 80 นาย พร้อมอุปกรณ์สำหรับทุบ งัด ทำลาย นำหมายค้นศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ ค 132/2554 ลงวันที่ 23 ก.ย. 2554 เข้าตรวจค้นภายในห้องโถงใหญ่ชั้นที่ 8 อาคารคอนโดมิเนียมปิ่นเกล้า เลขที่ 117-122/127 ถ.บรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย หลังจากสงสัยว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน อาคารดังกล่าวเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น บริเวณประตูทางเข้ามีรั้วเหล็กสูงกว่า 6 เมตร ปิดล้อมไว้อย่างมิดชิด โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 นาย คอยดูแลอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหมายค้นเพื่อขอเข้าตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณด้านในอาคารเจ้าหน้าที่ต้องใช้การเดินเท้าด้วยบันได เนื่องจากมีลิฟต์อยู่เพียงตัวเดียว ระหว่างทางขึ้นชั้นที่ 2 พบว่า มีประตูเหล็กกล้าหนากว่า 6 นิ้ว ปิดล็อกอย่าแน่นหนา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอให้ผู้ดูแลเปิดแต่ผู้ดูแลอ้างว่าไม่มีกุญแจและอนุญาตให้เจ้าหน้างัดเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมางัดเข้าไปภายในโดยใช้เวลากว่า 3 นาที
จากการตรวจสอบบริเวณชั้นที่ 8 พบว่า มีห้องโถงใหญ่ 2 ห้อง และห้องโถงเล็ก 1 ห้องใช้ดัดแปลงเป็นห้องครัว โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานเพื่อให้ผู้ดูแลอาคารเปิด แต่ผู้ดูแลอ้างว่าไม่มีกุญแจและเมื่อเจ้าหน้าที่จะใช้อุปกณ์เปิดเข้าภายใน ผู้ดูแลได้แจ้งว่า ถ้ามีอุปกรณ์เสียหายก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกลับ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบได้เพียงภายนอก แต่จากการมองเข้าไปภายในพบว่าเป็นห้องขนาด 16 × 8 เมตร ซึ่งเป็นห้องโถงเปล่ามีเพียงอุปกรณ์โต๊ะพับเก็บกองไว้ ส่วนภายในห้องครัวพบเพียงอุปกรณ์ทำอาหารลักษณะยังมีการใช้งานอยู่ แต่ทั้ง 3 ห้องไม่พบอุปกรณ์การเล่นการพนันแต่อย่างใด
ด้านผู้ดูแลอาคาร ซึ่งไม่ยอมเปิดเผยชื่อ กล่าวว่า ที่นี่เคยมีบ่อนจริง แต่หลังจากนั้นในสมัยยุคของ พล.ต.อ.พิศุทธ์ เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร.ได้เข้ามาจับกุมพร้อมได้นักพนันกว่า 400 ราย หลังจากนั้นก็ไม่เคยเห็นมีเปิดอีก ส่วนตัวตนนั้นไปๆ มาๆ ไม่ได้อยู่เป็นที่อาคารเป็นประจำ ซึ่งหลังจากมีการจับบ่อนไปแล้วนั้นทางอาคารก็พยายามจะเปิดเป็นฟิตเนตแต่ก็ไม่ได้เปิด จึงได้เปิดเป็นห้องจัดเลี้ยง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเข้าตรวจค้นบ่อยครั้งทำให้ผู้ที่จะมาจัดเลี้ยงไม่ได้รับความสะดวกจนไม่มีผู้มาเช่าสถานที่ ส่วนคนในคอนโดฯ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นคราวก่อนที่มีการจับกุม ก็ได้ย้ายออกกันเป็นจำนวนมาก ส่วนที่เป็นบ่อนในตอนนั้นเกิดจากก่อนหน้าคนที่เช่าเปิดบ่อนนั้นอ้างว่าจะมาเช่าเป็นสำนักงาน แต่ก็มาลักลอบเปิดเป็นบ่อนการพนันซึ่งตอนหลังมาทราบเรื่อง จึงได้ทำการยกเลิกสัญญาไป ส่วนตนก็ไม่ได้เป็นผู้ดูแลโดยตรง ซึ่งมาเพื่อช่วยดูแลอาคารบ้าง เนื่องจากเจ้าของรู้จักกันและเคยเป็นผู้มีพระคุณ
ด้าน พ.ต.ท.เชษฐา เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขอหมายค้นจากศาลตลิ่งชัน เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าจะมีการลักลอบเล่นการพนัน เนื่องจากการข่าวในอดีตที่มีการลักลอบเล่นการพนัน ประกอบกับประตูด้านหน้าก็มีการปิดๆ เปิดๆ ทำให้เกิดข้อสงสัย แต่จากการตรวจค้นก็ไม่พบอุปกรณ์หรือการลักลอบเล่นการพนัน ซึ่งพบเพียงโต๊ะ เก้าอี้ ซึ่งถ้าจะคิดก็คิดได้ว่ามีการลักลอบเล่น แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีความผิด
วันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ชลิต ประสพศิลป พ.ต.อ.อดิศักดิ์ คุณพันธ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน พ.ต.ท.เชษฐา สว่างสุข รองผกก.ปป.สน.บางยี่ขัน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจากกองกำกับการสืบสวนนครบาล 7 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ (พลร่ม ค่ายนเรศวร) รวมกว่า 80 นาย พร้อมอุปกรณ์สำหรับทุบ งัด ทำลาย นำหมายค้นศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ ค 132/2554 ลงวันที่ 23 ก.ย. 2554 เข้าตรวจค้นภายในห้องโถงใหญ่ชั้นที่ 8 อาคารคอนโดมิเนียมปิ่นเกล้า เลขที่ 117-122/127 ถ.บรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย หลังจากสงสัยว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน อาคารดังกล่าวเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น บริเวณประตูทางเข้ามีรั้วเหล็กสูงกว่า 6 เมตร ปิดล้อมไว้อย่างมิดชิด โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 นาย คอยดูแลอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหมายค้นเพื่อขอเข้าตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณด้านในอาคารเจ้าหน้าที่ต้องใช้การเดินเท้าด้วยบันได เนื่องจากมีลิฟต์อยู่เพียงตัวเดียว ระหว่างทางขึ้นชั้นที่ 2 พบว่า มีประตูเหล็กกล้าหนากว่า 6 นิ้ว ปิดล็อกอย่าแน่นหนา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอให้ผู้ดูแลเปิดแต่ผู้ดูแลอ้างว่าไม่มีกุญแจและอนุญาตให้เจ้าหน้างัดเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมางัดเข้าไปภายในโดยใช้เวลากว่า 3 นาที
จากการตรวจสอบบริเวณชั้นที่ 8 พบว่า มีห้องโถงใหญ่ 2 ห้อง และห้องโถงเล็ก 1 ห้องใช้ดัดแปลงเป็นห้องครัว โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานเพื่อให้ผู้ดูแลอาคารเปิด แต่ผู้ดูแลอ้างว่าไม่มีกุญแจและเมื่อเจ้าหน้าที่จะใช้อุปกณ์เปิดเข้าภายใน ผู้ดูแลได้แจ้งว่า ถ้ามีอุปกรณ์เสียหายก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกลับ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบได้เพียงภายนอก แต่จากการมองเข้าไปภายในพบว่าเป็นห้องขนาด 16 × 8 เมตร ซึ่งเป็นห้องโถงเปล่ามีเพียงอุปกรณ์โต๊ะพับเก็บกองไว้ ส่วนภายในห้องครัวพบเพียงอุปกรณ์ทำอาหารลักษณะยังมีการใช้งานอยู่ แต่ทั้ง 3 ห้องไม่พบอุปกรณ์การเล่นการพนันแต่อย่างใด
ด้านผู้ดูแลอาคาร ซึ่งไม่ยอมเปิดเผยชื่อ กล่าวว่า ที่นี่เคยมีบ่อนจริง แต่หลังจากนั้นในสมัยยุคของ พล.ต.อ.พิศุทธ์ เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร.ได้เข้ามาจับกุมพร้อมได้นักพนันกว่า 400 ราย หลังจากนั้นก็ไม่เคยเห็นมีเปิดอีก ส่วนตัวตนนั้นไปๆ มาๆ ไม่ได้อยู่เป็นที่อาคารเป็นประจำ ซึ่งหลังจากมีการจับบ่อนไปแล้วนั้นทางอาคารก็พยายามจะเปิดเป็นฟิตเนตแต่ก็ไม่ได้เปิด จึงได้เปิดเป็นห้องจัดเลี้ยง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเข้าตรวจค้นบ่อยครั้งทำให้ผู้ที่จะมาจัดเลี้ยงไม่ได้รับความสะดวกจนไม่มีผู้มาเช่าสถานที่ ส่วนคนในคอนโดฯ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นคราวก่อนที่มีการจับกุม ก็ได้ย้ายออกกันเป็นจำนวนมาก ส่วนที่เป็นบ่อนในตอนนั้นเกิดจากก่อนหน้าคนที่เช่าเปิดบ่อนนั้นอ้างว่าจะมาเช่าเป็นสำนักงาน แต่ก็มาลักลอบเปิดเป็นบ่อนการพนันซึ่งตอนหลังมาทราบเรื่อง จึงได้ทำการยกเลิกสัญญาไป ส่วนตนก็ไม่ได้เป็นผู้ดูแลโดยตรง ซึ่งมาเพื่อช่วยดูแลอาคารบ้าง เนื่องจากเจ้าของรู้จักกันและเคยเป็นผู้มีพระคุณ
ด้าน พ.ต.ท.เชษฐา เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขอหมายค้นจากศาลตลิ่งชัน เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าจะมีการลักลอบเล่นการพนัน เนื่องจากการข่าวในอดีตที่มีการลักลอบเล่นการพนัน ประกอบกับประตูด้านหน้าก็มีการปิดๆ เปิดๆ ทำให้เกิดข้อสงสัย แต่จากการตรวจค้นก็ไม่พบอุปกรณ์หรือการลักลอบเล่นการพนัน ซึ่งพบเพียงโต๊ะ เก้าอี้ ซึ่งถ้าจะคิดก็คิดได้ว่ามีการลักลอบเล่น แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีความผิด
