พระวัดบางขุนเทียนนอก แจ้งความดำเนินคดีพระลูกวัดเดียวกัน อ้างเป็นอดีตตำรวจ 2 รูป ชกหน้า ชักปืนขู่ยิง เหตุต้องการออกบิณฑบาตในเส้นทางเดียวกัน โดยตามราวีไม่เลิกรา ถูกให้คนมาพาตัวขึ้นรถไปทั้งที่ยังเดินบิณฑบาตอยู่ และยังไม่ได้ฉันข้าวเช้า หรือฉันเพล เมื่อถูกคุกคามหนักต้องหนีไปจำวัดแถวมหาชัย สมุทรสาคร
วันนี้ (21 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองปราบปราม พระจิรวัฒน์ ปสฺนโน อายุ 44 ปี พระลูกวัดบางขุนเทียนนอก ตั้งอยู่เลขที่ 1 ถนนวัจนะ หมู่ 7 แขวงและเขตจอมทอง กทม. เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ พนักงานสอบสวน (สบ1) กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับพระลูกวัดเดียวกัน 2 รูป ในข้อหาทำร้ายร่างกาย และข่มขู่โดยใช้อาวุธปืนทำให้เกิดความตกใจกลัว
พระจิรวัฒน์ให้การว่า บวชและจำวัดอยู่ที่วัดแห่งนี้มาประมาณ 3 ปี ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับพระรูปใดในวัดเลย กระทั่งมี พระอ้วน อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งไม่ทราบชื่อและฉายา แต่ทราบเพียงว่าเป็นอดีตตำรวจเข้ามาจำวัดอยู่ด้วยเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นก็เริ่มมีปัญหากัน โดยพระรูปนี้ต้องการจะออกบิณฑบาตในเส้นทางเลียบถนนวัจนะ ไปทะลุออกบริเวณศาลเจ้าแม่งู ถนนพระราม 2 ซึ่งพระจิรวัฒน์จะเดินรับบิณฑบาตจากญาติโยมทุกเช้าเป็นประจำ และมีญาติโยมต้องการใส่บาตรหลายคน เนื่องจากเห็นว่าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง นอกจากนี้ เส้นทางดังกล่าวก็มีญาติโยมถวายปัจจัยให้อย่างสม่ำเสมอทุกวัน จะได้ปัจจัยระหว่าง 300-600 บาท หากเป็นวันพระอาจได้เพิ่มมากถึงนับ 1,000 บาท
พระจิรวัฒน์ให้การอีกว่า ต่อมาเมื่อช่วงสายวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา หลังจากกลับออกบิณฑบาตและกลับมาถึงวัดแล้ว พระอ้วน พร้อมกับพระโจ้ ซึ่งเป็นพระบวชใหม่อีกรูปหนึ่ง ได้ตรงเข้ามาหาเรื่อง และต่อว่า ก่อนจะชกเข้าที่ใบหน้า ซึ่งพระจิรวัฒน์ได้ต่อว่ากลับไปว่าทำไมต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน และเมื่อบอกว่าจะนำเรื่องไปฟ้องเจ้าอาวาส และร้องเรียนต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระคู่กรณี จึงถูกข่มขู่โดยพระอ้วน บอกว่า “พูดมากนักเดี๋ยวยิงซะเลย” พร้อมกันนั้นก็ชักปืนออกมา ทำให้พระจิรวัฒน์และพระลูกวัดที่เห็นเหตุการณ์ตกใจรีบเข้าห้าม
“นับตั้งแต่เกิดเหตุ เมื่ออาตมาออกบิณฑบาตก็ถูกพระอ้วนตามราวีไม่เลิกรา แถมขู่ด้วยว่ารู้จักกับตำรวจทุกโรงพักในละแวกนั้นไม่ต้องไปแจ้งความให้เสียเวลา นอกจากนี้ยังถูกให้คนมาพาตัวขึ้นรถไปทั้งที่ๆ อาตมายังเดินบิณฑบาตอยู่ และยังไม่ได้ฉันข้าวเช้า หรือฉันเพล จึงอยากให้เห็นใจบ้าง อาตมาหิวก็หิวแถมยังถูกเขาคุกคามจนทุกวันนี้ต้องหนีไปจำวัดอีกแห่งหนึ่งที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร และแม้จะเข้าแจ้งความกับตำรวจท้องที่ ทางพนักงานสอบสวนก็ไม่รับแจ้ง” พระจิรวัฒน์กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.พัฒนพงศ์กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องทุกข์ไว้แล้ว ก่อนนำเรื่องเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาส่งสำนวนคดีกลับไปให้ตำรวจท้องที่เกิดเหตุดำเนินการต่อไป ส่วนความผิดที่เกิดขึ้นอาจเข้าข่ายความผิดฐาน ทำร้ายร่ากายและข่มขู่ให้เกิดความตกใจกลัว ส่วนความผิดอื่นๆ นั้น คงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงประกอบ เช่น ที่มาของอาวุธปืน เจตนาการใช้อาวุธประกอบกับพฤติกรรมของพระคู่กรณี ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุในการดำเนินการต่อไป
วันนี้ (21 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองปราบปราม พระจิรวัฒน์ ปสฺนโน อายุ 44 ปี พระลูกวัดบางขุนเทียนนอก ตั้งอยู่เลขที่ 1 ถนนวัจนะ หมู่ 7 แขวงและเขตจอมทอง กทม. เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ พนักงานสอบสวน (สบ1) กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับพระลูกวัดเดียวกัน 2 รูป ในข้อหาทำร้ายร่างกาย และข่มขู่โดยใช้อาวุธปืนทำให้เกิดความตกใจกลัว
พระจิรวัฒน์ให้การว่า บวชและจำวัดอยู่ที่วัดแห่งนี้มาประมาณ 3 ปี ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับพระรูปใดในวัดเลย กระทั่งมี พระอ้วน อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งไม่ทราบชื่อและฉายา แต่ทราบเพียงว่าเป็นอดีตตำรวจเข้ามาจำวัดอยู่ด้วยเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นก็เริ่มมีปัญหากัน โดยพระรูปนี้ต้องการจะออกบิณฑบาตในเส้นทางเลียบถนนวัจนะ ไปทะลุออกบริเวณศาลเจ้าแม่งู ถนนพระราม 2 ซึ่งพระจิรวัฒน์จะเดินรับบิณฑบาตจากญาติโยมทุกเช้าเป็นประจำ และมีญาติโยมต้องการใส่บาตรหลายคน เนื่องจากเห็นว่าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง นอกจากนี้ เส้นทางดังกล่าวก็มีญาติโยมถวายปัจจัยให้อย่างสม่ำเสมอทุกวัน จะได้ปัจจัยระหว่าง 300-600 บาท หากเป็นวันพระอาจได้เพิ่มมากถึงนับ 1,000 บาท
พระจิรวัฒน์ให้การอีกว่า ต่อมาเมื่อช่วงสายวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา หลังจากกลับออกบิณฑบาตและกลับมาถึงวัดแล้ว พระอ้วน พร้อมกับพระโจ้ ซึ่งเป็นพระบวชใหม่อีกรูปหนึ่ง ได้ตรงเข้ามาหาเรื่อง และต่อว่า ก่อนจะชกเข้าที่ใบหน้า ซึ่งพระจิรวัฒน์ได้ต่อว่ากลับไปว่าทำไมต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน และเมื่อบอกว่าจะนำเรื่องไปฟ้องเจ้าอาวาส และร้องเรียนต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระคู่กรณี จึงถูกข่มขู่โดยพระอ้วน บอกว่า “พูดมากนักเดี๋ยวยิงซะเลย” พร้อมกันนั้นก็ชักปืนออกมา ทำให้พระจิรวัฒน์และพระลูกวัดที่เห็นเหตุการณ์ตกใจรีบเข้าห้าม
“นับตั้งแต่เกิดเหตุ เมื่ออาตมาออกบิณฑบาตก็ถูกพระอ้วนตามราวีไม่เลิกรา แถมขู่ด้วยว่ารู้จักกับตำรวจทุกโรงพักในละแวกนั้นไม่ต้องไปแจ้งความให้เสียเวลา นอกจากนี้ยังถูกให้คนมาพาตัวขึ้นรถไปทั้งที่ๆ อาตมายังเดินบิณฑบาตอยู่ และยังไม่ได้ฉันข้าวเช้า หรือฉันเพล จึงอยากให้เห็นใจบ้าง อาตมาหิวก็หิวแถมยังถูกเขาคุกคามจนทุกวันนี้ต้องหนีไปจำวัดอีกแห่งหนึ่งที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร และแม้จะเข้าแจ้งความกับตำรวจท้องที่ ทางพนักงานสอบสวนก็ไม่รับแจ้ง” พระจิรวัฒน์กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.พัฒนพงศ์กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องทุกข์ไว้แล้ว ก่อนนำเรื่องเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาส่งสำนวนคดีกลับไปให้ตำรวจท้องที่เกิดเหตุดำเนินการต่อไป ส่วนความผิดที่เกิดขึ้นอาจเข้าข่ายความผิดฐาน ทำร้ายร่ากายและข่มขู่ให้เกิดความตกใจกลัว ส่วนความผิดอื่นๆ นั้น คงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงประกอบ เช่น ที่มาของอาวุธปืน เจตนาการใช้อาวุธประกอบกับพฤติกรรมของพระคู่กรณี ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุในการดำเนินการต่อไป