รถบรรทุกถังแก๊สหุงต้มยางแตกเสียหลักชนรถกระบะตกคูน้ำข้างทางไมีมีใครบาดเจ็บ-เสียชีวิต แต่ทำให้รถขนแก๊สพลิกคว่ำระเบิดไฟลุกท่วมรถเสียหายทั้งคัน ตำรวจควบคุมตัวโชเฟอร์รถบรรทุกสอบ พร้อมเรียกเจ้าของมาสอบปากคำมีใบอนุญาตดัดแปลงรถบรรทุกถังแก๊สหรือไม่
เมื่อเวลา 07.40 น.วันนี้ (28 พ.ค.) พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ศรีสมัย พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.แสมดำ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกถังแก๊สหุงต้มพลิกคว่ำและเกิดระเบิดบนถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า ใกล้กับปากซอยพระราม 2 ซอย 84 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน จึงประสานรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 2 คัน แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม ร.ต.ท.นพดล สินศิริ รอง สว.จร.สน.แสมดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.แสมดำ
ที่เกิดเหตุอยู่บนช่องทางด่วน เจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ถจ-7406 กทม. กระบะหลังดัดแปลงสำหรับบรรทุกถังแก๊สหุงต้มพลิกหงายท้องอยู่กลางถนน มีถังแก๊สขนาด 15 กิโลกรัม และ ขนาด 48 กิโลกรัม รวม 30 ใบ ตกกระจายเกลื่อนพื้น โดยมีถังแก๊ส 5 ถัง เกิดระเบิดจนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้รถคันดังกล่าวจนเสียหายหมดทั้งคัน และประชาชนที่ขับรถอยู่บริเวณดังกล่าวต้องกลับรถวิ่งสวนเลนหนีตายกันจ้าละหวั่น จนการจราจรติดขัดยาวเหยียด เจ้าหน้าที่ต้องรีบฉีดน้ำดับเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที เพลิงจึงสงบและเปิดเส้นทางการจราจรให้ใช้งานได้ตามปกติ
ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ถล-6656 กทม. จอดอยู่ในสภาพถูกเฉี่ยวชนจนตกไปในคูน้ำข้างทาง แต่จากการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วไม่พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายประวิตร สุตลาวดี อายุ 32 ปี โชเฟอร์รถบรรทุกถังแก๊สไปสอบปากคำที่ สน.แสมดำ
จากการสอบสวนนายประวิตรให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถบรรทุกออกจากโรงงานบรรจุแก๊สหุงต้มย่านมหาชัย จ.สมุทรสาคร เพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่ถนนเจริญกรุง ย่านวัดพระยาไกร แต่เมื่อพอมาถึงจุดเกิดเหตุ ยางล้อหลังเกิดระเบิดขึ้นทำให้รถเสียหลักไปเฉี่ยวชนกับรถกระบะอีซูซุคู่กรณีจนตกข้างทางไป ส่วนรถตนก็พลิกคว่ำครูดไปกับถนนจนถังแก๊สระเบิดและถูกไฟไหม้จนเสียหายไปทั้งคัน ถือว่าโชคดีที่ตนหนีเอาตัวรอดออดมาได้ทัน
ด้าน พ.ต.ท.วีระศักดิ์กล่าวว่า หลังจากนี้จะทำการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้เกิดเพลิงไหม้และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้อื่น เป็นเหตุให้รถผู้อื่นได้รับความเสียหายกับนายประวิตร เอาไว้ก่อน จากนั้นจะเรียกตัวเจ้าของโรงงานมาสอบปากคำว่ามีใบอนุญาตดัดแปลงรถบรรทุกถังแก๊สหรือไม่ หากไม่มีก็ต้องดำเนินคดีด้วย
เมื่อเวลา 07.40 น.วันนี้ (28 พ.ค.) พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ศรีสมัย พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.แสมดำ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกถังแก๊สหุงต้มพลิกคว่ำและเกิดระเบิดบนถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า ใกล้กับปากซอยพระราม 2 ซอย 84 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน จึงประสานรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 2 คัน แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม ร.ต.ท.นพดล สินศิริ รอง สว.จร.สน.แสมดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.แสมดำ
ที่เกิดเหตุอยู่บนช่องทางด่วน เจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ถจ-7406 กทม. กระบะหลังดัดแปลงสำหรับบรรทุกถังแก๊สหุงต้มพลิกหงายท้องอยู่กลางถนน มีถังแก๊สขนาด 15 กิโลกรัม และ ขนาด 48 กิโลกรัม รวม 30 ใบ ตกกระจายเกลื่อนพื้น โดยมีถังแก๊ส 5 ถัง เกิดระเบิดจนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้รถคันดังกล่าวจนเสียหายหมดทั้งคัน และประชาชนที่ขับรถอยู่บริเวณดังกล่าวต้องกลับรถวิ่งสวนเลนหนีตายกันจ้าละหวั่น จนการจราจรติดขัดยาวเหยียด เจ้าหน้าที่ต้องรีบฉีดน้ำดับเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที เพลิงจึงสงบและเปิดเส้นทางการจราจรให้ใช้งานได้ตามปกติ
ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ถล-6656 กทม. จอดอยู่ในสภาพถูกเฉี่ยวชนจนตกไปในคูน้ำข้างทาง แต่จากการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วไม่พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายประวิตร สุตลาวดี อายุ 32 ปี โชเฟอร์รถบรรทุกถังแก๊สไปสอบปากคำที่ สน.แสมดำ
จากการสอบสวนนายประวิตรให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถบรรทุกออกจากโรงงานบรรจุแก๊สหุงต้มย่านมหาชัย จ.สมุทรสาคร เพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่ถนนเจริญกรุง ย่านวัดพระยาไกร แต่เมื่อพอมาถึงจุดเกิดเหตุ ยางล้อหลังเกิดระเบิดขึ้นทำให้รถเสียหลักไปเฉี่ยวชนกับรถกระบะอีซูซุคู่กรณีจนตกข้างทางไป ส่วนรถตนก็พลิกคว่ำครูดไปกับถนนจนถังแก๊สระเบิดและถูกไฟไหม้จนเสียหายไปทั้งคัน ถือว่าโชคดีที่ตนหนีเอาตัวรอดออดมาได้ทัน
ด้าน พ.ต.ท.วีระศักดิ์กล่าวว่า หลังจากนี้จะทำการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้เกิดเพลิงไหม้และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้อื่น เป็นเหตุให้รถผู้อื่นได้รับความเสียหายกับนายประวิตร เอาไว้ก่อน จากนั้นจะเรียกตัวเจ้าของโรงงานมาสอบปากคำว่ามีใบอนุญาตดัดแปลงรถบรรทุกถังแก๊สหรือไม่ หากไม่มีก็ต้องดำเนินคดีด้วย