อดีตรองอธิบดีดีเอสไอ ขึ้นเบิกความคดีอุ้มฆ่า “อัลรูไวลี” นักธุรกิจชาวซาอุฯ เผย ไม่มีพยานรู้เห็น ตร.อุ้ม อัลรูไวลี ศาลนัดสืบพยานโจทก์อีกครั้งวันที่ 9 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
วันนี้ (7 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ในคดีหมายเลขดำ อ.119/2553 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือ สมชาย จูสนิท พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ และเพื่อปกปิดการกระทำความผิดอื่นของตน และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา
จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 12-15 ก.พ.2533 จำเลยทั้ง 5 คน ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ฆ่านักการทูตซาอุดีอาระเบีย จำเลยทั้งห้ากับพวกร่วมกันลักพาตัว นายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งประกอบธุรกิจจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากจำเลยทั้งห้า เข้าใจว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนักการทูตซาอุดีอาระเบีย จำเลยทั้งห้ามีเจตนาฆ่าให้ถึงแก่ความตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อปกปิดความผิดของตน และเป็นเหตุให้ นายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี ถูกหน่วงเหนี่ยว ถูกกักขัง หรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายจนถึงแก่ความตาย และร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพโดยนำศพไปเผาทำลายที่ไร่ในท้องที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เหตุเกิดที่แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตยานนาวา, แขวงบางกะปิ เขตบางกะปิ, แขวงคลองตัน เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร และที่ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
วันนี้อัยการโจทก์ นำตัว พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อดีตรองอธิบดีดีเอสไอ เบิกความเกี่ยวกับแหวนทองคำของนายอัลรูไวลี ว่า หลังจากที่เข้ามาเป็นสืบสวนเรื่องดังกล่าว พ.ต.ท.สุวิชัย แก้วผนึก ได้บอกว่า มีวัตถุพยานของนายอัลรูไวลี จะนำมาให้ ซึ่งพยานไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นแหวนทองคำ
โดยพยานตอบการซักค้านของทนายความจำเลย ยอมรับว่า ไม่ทราบว่า ศาสนาอิสลามห้ามผู้ชายนำทองคำมาเป็นเครื่องประดับ แต่สิ่งสำคัญที่พนักงานสอบสวนต้องการพิสูจน์ คือ แหวนดังกล่าวเป็นของ นายอัลรูไวลี หรือไม่ ซึ่งท้ายที่สุดการสั่งฟ้องก็ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดว่าแหวนดังกล่าวเป็นของนายอัลรูไวลี และเมื่อนำแหวนทองคำไปให้ญาติของนายอัลรูไวลี ดู ก็ไม่มีญาติรายใด ยืนยันว่า แหวนดังกล่าวเป็นของนายอัลรูไวลี
นอกจากนี้ ทนายจำเลย ยังได้ซักค้านในประเด็นการหายตัวไปของนายอัลรูไวลี โดย พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า เอกสารจากสถานทูตซาอุฯ ระบุข้อมูลที่จำเลยทั้ง 5 เข้าไปเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายอัลรูไวลี แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยทั้ง 5 เข้าไปเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปดังกล่าว แม้ พ.ต.ท.สุวิชัย เคยให้การว่าเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพานายอัลรูไวลี มาเค้นสอบความจริง และมีการทำร้ายร่างกาย แต่การสอบสวนของดีเอสไอก็ไม่มีพยานรู้เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอุ้มนายอัลรูไวลี มาที่โรงแรมใน จ.ชลบุรี และไม่พบพยานหลักฐานการเผาทำลายศพ สำหรับการกลับคำให้การของ พ.ต.ท.สุวิชัย พยานได้สอบถามสาเหตุทราบว่า คำให้การในปี 2533 เป็นการแต่งเรื่องขึ้น มีทั้งข้อมูลที่เป็นจริงและเท็จปะปนกัน เพื่อหาทางลงในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ หลังสืบพยานเสร็จ ศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งต่อไป วันที่ 9 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.