ทำเอาฟ้าผ่ากลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)เพียงแค่ประเดิมวันแรกของการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ของรัฐบาลภายใต้การนำ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อ "นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์" ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และฐานะหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้เปิดประเด็นร้อน เกี่ยวกับบ่อนการพนันใหญ่ย่านรัชดาฯ ทำให้ฮือฮากันทั้งรัฐสภา และประชาชนทั่วประเทศ จนโพลยกให้"ชูวิทย์" เป็นดาวเด่นจอมแฉ
ประเด็นบ่อนการพนัน นับจากวันนั้นเป็นต้นมาได้มีการกล่าวขานถึงว่า "ชีวิตจริงประเทศไทย" วันนี้ มีบ่อนการพนันมีอยู่จริงหรือไม่ และมีอยู่ประมาณกี่บ่อน เปิดแล้วปิด หรือ เปิดๆปิดๆมีอยู่กี่บ่อน
ลายแทงบ่อนการพนัน ที่ถูกนำมาตีแผ่ในทุกครั้งของการปราบปราม และถือว่า เป็นบ่อนที่มีอยู่ในบัญชีของตำรวจ เริ่มจาก
**บ่อนโชคชัย 4 **
บ่อนแห่งนี้ เปิดเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 54 โดยมีคู่ขัดแย้งของชูวิทย์ คือ "โกลักษณ์"เป็นเจ้าของ มี"เจ๊ฮุ้ง"อดีตนายบ่อนพระราม 9 คือผู้ร่วมหุ้น
โดยที่จากอดีตโกลักษณ์ เคยประกอบอาชีพอาบอบนวด ต่อมาเปลี่ยนอาชีพเปิดบ่อนการพนัน เป็นบ่อนในรูปแบบเปิด มีการปรับรูปโฉมบ่อนการพนันยุคใหม่ ซึ่งจะเป็นการเลียนแบบสถานคาสิโนที่มีมาตรฐานสากล เช่น โต๊ะไพ่ จะมีจอมอนิเตอร์ มีโปรแกรมซอฟแวร์ ขึ้นสกอร์ทันที ไม่ต้องนั่งเหมือนบ่อนแบบเก่าที่ต้องจดลงกระดาษ จดสกอร์ด้วยตัวเอง ซึ่งจะทำให้ดึงดูดลูกค้าที่เดินผ่านโต๊ะเมื่อชอบใจก็แทงพนันได้เลย
**บ่อนเตาปูน-สน.บางซื่อ**
"บ่อนเตาปูน" ตั้งอยู่ที่เขตบางซื่อ เป็นบ่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีเงิน หมุนเวียนมากที่สุดเช่นเดียวกัน บ่อนอยู่ในทำเลที่มีชุมชนแออัดล้อมไว้ทุกด้าน ทำให้ตำรวจเข้าถึงได้ยากที่สุด วิธีการเดียวที่จะเข้าถึงได้คือใช้เฮลิคอปเตอร์ ซึ่ง "บ่อนเตาปูน" ตอนนี้เหมือนท้าทายกันเลย ต่างฝ่ายต่างมีเหลี่ยมคมทางการเมืองเช่นกัน ซึ่งต่างคนต่างเก๊า แบล็กก็ใหญ่ ไม่ธรรมดา ก็รู้กันอยู่ ซึ่งถ้าจะเข้าไปในบ่อนก็มีความระมัดระวัง โทรศัพท์มือถือเก็บหมด มีเครื่องตรวจเหมือนเวลาเราเข้าไปในสนามบิน ซึ่งระมัดระวังเข้มงวด มีการออกบัตรสมาชิกให้ด้วย ต้องบันทึกเข้าซอฟแวซ์ เพื่อยืนยันเป็นลูกค้าจริงหรือไม่
บ่อนนี้ถือว่าเปิดมานานกว่า 20 ปี มีการปรับตัวโดยมีการนำระบบจังเก็ตมาใช้ ทำให้ลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวและนักการพนันจากต่างประเทศเข้ามาใช้บริการบ่อน ใช้โรงแรมระดับห้าดาวในกรุงเทพฯเป็นที่พำนักสำหรับให้บริการแก่ลูกค้าจากต่างประเทศ โดยที่บ่อนแห่งนี้ เคยถูกบุกทลายมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเปิดรับผีพนัน
**บ่อนลอยฟ้า**
"บ่อนลอยฟ้า" เป็นของจ่ามนัส ตั้งอยู่บริเวณถนนบรมราชชนนี ก่อนถึงสถานีขนส่งสายใต้จะมีศูนย์รถยนต์นิสสันอยู่ซ้ายมือเข้าไปตามถนนรุ่งประชา เลยไปจนถึงโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ถึงอาคารคอนโดมิเนียมจะพบประตูเหล็กปิดกั้นตลอดเวลา บุคคลที่ผ่านออกได้ต้องอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้หรือนักพนันที่รู้จักกันเท่านั้น หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่พาขึ้นลิฟต์ไปชั้น 8 แล้วเดินขึ้นไปชั้น 9 ซึ่งเป็นดาดฟ้าที่ถูกดัดแปลงเป็นโต๊ะพนัน ซึ่งจ่ามนัสเจ้าของเคยเป็นตำรวจกองปราบฯ เคยอยู่กับตำรวจ เมื่อกระแสบ่อนแรงมาก็เบา ถ้าไม่มีอะไรก็เปิดบ่อนปกติ จะปิด ๆ เปิด ๆ อยู่อย่างนี้ตามสถานการณ์ ซึ่งจ่ามนัส เปิดบ่อนเค้าไม่ได้กินใช้คนเดียว แต่ดูแลทั่วถึง จะรู้ก่อนหากมีระดับใหญ่ไปบ่อน ซึ่งจะได้เปรียบหากมีการจับกุม ซึ่งถ้าจะจับกันจริงต้องมีรถเครนสูงขึ้นไป หรือเอาเฮลิคอปเตอร์ไปจับ แต่คงลงไม่ได้ เพราะเป็นคอนโดฯมันแคบ
**บ่อนบางนา**
เปิดมานานกว่า 20 ปี ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 101/1 เข้าไปในซอยวชิรธรรมสาธิต ซอย 36 หรือซอย 38 ซึ่งในระหว่าง 2 ซอยนี้สามารถจอดรถได้ถึงกันหมด เมื่อจอดรถในลานจอดแห่งนี้แล้วจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการผ่านการตรวจถึง 2 ชั้น หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่พากันเล่นเดินผ่านสลัมเข้าไปในบ่อนการพนันที่มีประตูเหล็กอีกหลายชั้น โดยบ่อนแห่งนี้ ล่าสุดได้เปลี่ยนเจ้าของ จากหวิน มาเป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่น โดยเป็นลูกน้องของนักการเมืองใหญ่คับฟ้าย่านบางบอนคุ้มครองอยู่
**บ่อนเสี่ยถ่อ-สน.ทุ่งมหาเมฆ**
บ่อนเสี่ยถ่อร่วมกับเสี่ยแข็งอยู่ที่ถนนพระรามที่ 3 อยู่ในเขตท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ทำเลการตั้งบ่อนจะเน้นมวลชนคอยเป็นเกราะกำบังตำรวจจู่โจม ด้านหลังติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทางเข้าติดกับถนนพระรามที่ 3 ทางเข้าซอยโรงสี เข้าซอยประมาณ 100 เมตร เมื่อเข้าไปลานจอดรถจะมีคนนำทางเดินผ่านสลัมเข้าไปโดยมีกล้องทีวีวงจรปิดตรวจดูตลอดเส้นทางจนถึงประตูเหล็กผ่านเข้าสู่ประตูด้านในอีก 2-36 ชั้น ผ่านโกดังร้างจึงจะเข้าไปถึงบ่อนได้ โดยล่าสุดพบว่า บ่อนแห่งนี้ ได้ปิดกิจการลงชั่วคราว โดยเสี่ยถ่อ ไปรวมกับ "เจ๊ฮุ้ง" กับ "น้าโยชน์" ที่พระรามเก้า รัชดาฯ
**บ่อนตี๋พจน์ขาใหญ่ฝั่งธนคุม**
อดีตอยู่ที่ซอยเอกมัย 30 เปิดมานานกว่า 3 ปี อยู่ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ตั้งอยู่บนถนนเอกมัย เข้าไปในซอย 30 ใช้กลยุทธ์ให้เช่าสถานที่สำหรับผู้ที่ไม่มีสถานที่เล่นการพนัน ลูกค้าสามารถมาขอเช่าโต๊ะเล่นการพนันในสถานที่แห่งนี้ได้ในราคาโต๊ะละ 70,000 บาท แต่ปัจจุบันพบว่า "บ่อนตี๋พจน์" ย้ายจาก พื้นที่ของ ส.น.ทองหล่อ ไปเปิดใหม่ที่่พระราม 3 ซึ่งบ่อนนี้จะเป็นที่รู้กันว่าเจ้าของบ่อนจะใกล้ชิดกับนักการเมืองใหญ่ย่านบางบอน แต่ตอนนี้ก็หยุดรอสัญญาณเปิด ซึ่งเม็ดเงินที่หมุนเวียนในบ่อนจะมาจากต่างประเทศ จากพวกฮ่องกง จีน มาเก๊า
**บ่อนตี๋ใหญ่-บ่อนพานทอง เยาวราช**
เปิดมานานประมาณ 6-7 ปี เดิมทีตั้งอยู่บนถนนประชาสงเคราะห์ ซอย 16 เข้าซอยติดกับปั๊ม เอสโซ่ผ่านสถาบันราชภัฏไปประมาณ 100 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไป ทั้งสองข้างถนนจะพบตึกร้างหลายตึก แต่ละตึกจะมีคนคอยดูต้นทางให้ตลอดเวลา เมื่อเลี้ยวซ้ายอีกครั้งจะเป็นตึกร้างสูง 5 ชั้น ถูกดัดแปลงเป็นอาคารจอดรถที่อยู่กับอาคารบ้านพักอาศัยของประชาชน ซึ่งส่วนมากจะมีรายได้จากบ่อนของตี๋ใหญ่ เมื่อนักพนันจอดรถเรียบร้อยแล้วจะมีพนักงานดูแลบ่อนออกมารับรองตรวจตราคัดเลือกเอาแต่คนรู้จักเข้าไปเล่นในบ่อนเท่านั้น รอบๆ บ่อนจะมีตาข่ายสีเขียวสลับลวดหนามคลุมอย่างมิดชิด ตัวบ่อนดัดแปลงมาจากโกดังเก็บของ มีการติดเครื่องปรับอากาศอย่างดี โดยล่าสุดพบว่า"บ่อนตี๋ใหญ่" ย้ายไปอยู่เยาวราช กับ"จุงใช้" เพราะบ่อนตี๋ใหญ่สถานภาพส่วนตัวไม่ค่อยดี
สำหรับพื้นที่เยาวราช ยังพบว่ามี"บ่อนพานทอง " หรือบ่อน 369 เปิดกิจการที่เข้าขั้นบ่อนใหญ่อยู่อีก 1 แห่ง โดยนักพนันจะสลับเล่นแล้วแต่ความสะดวก หรือ ดวงจะเฮ็งบ่อนใด
**บ่อนเจ๊ง้อ-สน.ยานนาวา**
เปิดมานาน 10 ปี อยู่ในพื้นที่ สน.ยานนาวา ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุงเยื้องกับซอยเจริญกรุง 46 ปากซอยมีร้านขายยาวินเภสัช เข้าไปในซอยแคบๆ ประมาณ 150 เมตรก่อนถึงศาลเจ้าจีนประมาณ 30 เมตร ด้านซ้ายมือจะเป็นซอยบ่อนเจ๊ง้อ และรับแต่นักเล่นขาประจำเท่านั้น
**บ่อนอ๊อตโต้**
อยู่ที่พัฒนาการ 30 ถนนพัฒนาการ เปิดมาประมาณ 3 ปี เส้นทางเข้าบ่อนการพนันแห่งนี้มี 2 ทาง คือ พัฒนาการ 30 ปากซอยมีร้านอาหารบุปผา แล้วเลี้ยวขวาบริเวณแยกตะวันทองเข้าไปจนพบร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ส่วนอีกทางหนึ่งเข้าทางด้านซอยพัฒนาการ 22 ปากซอยมีธนาคารกสิกรไทย สาขาคลองตัน เข้ามาจนถึงร้านเซเว่นอีเลฟ เว่นเหมือนกัน หลังจากนั้นเลี้ยวเข้าไปผ่านซอยเกษมสันต์ 2 จนถึงสี่แยกปั๊มบางจากจึงเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง เข้าไปประมาณ 100 เมตรจะพบอาคารทับทิม เมื่อถึงตรงนี้จะมีพนักงานมาขับรถไปจอดกระจายไปทั่วบริเวณ จากนั้นจะมีพนักงานรับเข้า ไปเล่นในบ่อนการพนัน ภายในบ่อนจะมีโปรโมชั่น พิเศษด้วยการเขียนชื่อ สกุล ที่อยู่ใส่ไว้ในกล่องชิงโชค ภายในเวลา 1 เดือนจะมีการจับรายชื่อกันครั้งหนึ่งเพื่อชิงรางวัล เช่น รถฮอนด้า ซีอาร์-วี หรือเลซข้อมือฝังเพชร โดยพบว่าพบ่อนแห่งนี้ ปัจจุบันปิดกิจการชั่วคราว โดยมี บ่อนยายโฮ ตู้ม้านายเหลียง ตู้ม้าแป๊ะตี๋ ก็ปิดทำการชั่วคราวเช่นกัน
ปิดท้ายที่บ่อนประตูน้ำ-สน.พญาไท
บ่อนแห่งนี้ในอดีตถือว่าเป็นบ่อนใหญ่ ที่เปิดอยู่ในเขตท้องที่ สน.พญาไท นักเล่นเข้าไปใช้บริการได้อย่างยาว นาน นักเล่นสามารถเข้าได้ 2 ด้าน คือ ด้านถนนเพชรบุรีเข้าซอยด้านศูนย์การค้าเมโทรเก่าหรือโรงแรมบางกอกพาเลส เวียนซ้ายเข้ามาจอดรถในอาคารรับรองนักเล่นซึ่งดัดแปลงมาจากโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งเข้าทางด้านถนนราชปรารภซอยตรงข้ามโรงแรมอินทรา สามารถวิ่งทะลุมายังอาคารลานจอดรถได้ทันที เมื่อนักเล่นมาถึงแล้วจะมีการตรวจตราอย่างละเอียด แต่หลังจากยุค"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส"ผบ.ตร.ขณะนั้น บุกทลายจนราบคาบ โดยมีคดีขึ้นโรงขึ้นศาล อยู่หลายคดี ทำให้บ่อนประตูน้ำ พักกิจการชั่วคราว โดยจะเปิดเป็นช่วงๆส่วนบรรดาลูกน้องที่ทำงานในบ่อน ก็จะใช้วิธีส่งไปทำงานกับบ่อนของพรรคพวกที่เปิดกิจการอยู่ในแต่ละพื้นที่
อย่างไรก็ตาม บ่อนประตูน้ำ ถือว่า เจ้าของบ่อนมีความสนิทสนมกับ แกนนำคนเสื้อแดงหลายคน โดยเฉพาะ นายวีระกานต์ มุกสิกะพงศ์ ที่ครั้งมีการสลายการชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ มีข่าวว่า เจ้าของบ่อนแห่งนี้ เป็นผู้สั่งการคุ้มกัน นายวีระกานต์ ในการหลบหนีออกจากสถานที่ชุมนุม จนเป็นผลสำเร็จ ส่วนปัจจุบัน เขามีความสัมพันธุ์ หรือ รัฐบาล คนเสื้อแดงให้การดูแล และทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น บ่อนประตูน้ำหรือไม่ ถือเป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่จะต้องไปแกะรอยเอาเอง
จากข้อมูลบ่อนข้างต้น ถือว่าสอดคล้องกับข้อมูลของ รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานหลักสูตรปริญญาเอก สาขาการพัฒนาธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ที่ได้เปิดเผยผลการวิจัยเรื่อง "เศรษฐกิจการพนันกับปัญหาสาธารณะ" เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 54 โดย รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ พบว่า ในกรุงเทพ ฯมีบ่อนการพนันกว่า 170 แห่ง โดยเป็นบ่อนขนาดใหญ่แบบถาวร 10 แห่ง ,บ่อนขนาดกลางและขนาดเล็ก 60 แห่ง และเป็นบ่อนวิ่งกว่า 100 แห่ง
"ในจำนวน 170 บ่อนใน กทม.มีเงินสะพัดถึงปีละ 180,000-200,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรของเจ้ามือ 38,000 -40,000 ล้านบาท และในจำนวนนี้พบว่าเป็นการจ่ายส่วยให้กับตำรวจ เพื่อแลกกับการเปิดบ่อนประมาณ 5-20% ของรายได้หรือคิดเป็นเงิน 2,000-8,000 ล้านบาท"
รศ.ดร.สังศิต กล่าวว่านอกจากนี้ผลวิจัยยังพบว่าทั่วประเทศมีบ่อนมากกว่า 700,000 ถึง 1 ล้านแห่ง โดยมีบ่อนขนาดใหญ่ 75 แห่ง บ่อนขนาดกลางและบ่อนวิ่งอีกกว่า 780 แห่ง ที่เหลือเป็นบ่อนย่อยตามงานศพ ส่งผลให้มีเงินสะพัดจากบ่อนทั่วประเทศถึงปีละ 640,000-820,000ล้านบาท และจำนวนนี้ทำกำไรให้เจ้ามือร่วม 90,000ล้านบาท