การเดินทางลงไปตรวจสอบพื้นที่ฝังศพ 165 ศพ ที่วัดวัดคลองตากวา วัดสมอโพรง และวัดห้วยยาง จ.ระยอง เมื่อเย็นวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ของพล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนนท์ ผบช.กมค. (สำนักกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ได้กลายเป็นประเด็นข่าวปริศนาชวนให้น่าสงสัย แม้สุดท้ายแล้ว หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะออกมาระบุชัดว่า ศพทั้ง 165 ศพนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตจากเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดง แต่ก็ยังมีข้อสงสัยที่ยิ่งกว่าเป็นปริศนาว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ได้รับคำสั่งจากใครให้ดำเนินการ(ปูด)เรื่องนี้ขึ้นมา และมีวัตถุประสงค์ที่หยั่งลึก หรือแฝงเจตนาใดหรือไม่อย่างไร
พล.ต.ท.สัณฐานบอกครั้งแรกเมื่อตอนลงพื้นที่ว่า ตัวเขาได้รับคำสั่งจากพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคมหมาดๆ และพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. ให้ลงไปตรวจสอบ กระทำความจริงให้ปรากฏว่า การเคลื่อนย้ายศพ 165 ศพที่สมาคมพุทธประทีป จ.ชุมพร ประสานกับสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์อำเภอแกลง จ.ระยอง นำไปฝังไว้ที่ 3 วัดนั้น มีความเกี่ยวข้องต่อการหายไปของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหรือไม่ พูดตรงๆก็คือ ทั้ง 165 ศพนั้น เป็นศพที่รัฐบาลชุดก่อนหมกเม็ด ซ่อนเร้นไว้จากการสลายการชุมนุมหรือไม่
เมื่อข่าวนี้กลายเป็นข่าวใหญ่พาดหัว คนที่ออกมาพูดต่อกลับกลายเป็น"บิ๊กออฟ" พล.ต.อ.เพรียมพันธ์ ดามาพงศ์เสียเอง ที่ออกมาระบุอย่างชัดเจนว่า ไม่ได้เป็นผู้สั่งการให้ พล.ต.ท.สัณฐาน ไปตรวจสอบศพนิรนามในวัด จ.ระยอง และไม่เคยทราบเรื่องศพดังกล่าวมาก่อน อีกทั้งเรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจรับผิดชอบของตน การสั่งการต้องเป็นรอง ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบพื้นที่ภาค 2
"ผมไม่เคยสั่งการลงไป ผมมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติดเท่านั้น ไม่มีอำนาจไปสั่งการได้ พล.ต.ท.สัณฐานเป็น ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี สายบังคับบัญชาก็ไม่ได้ขึ้นกับผม ซึ่งไม่มีการสั่งการลงไปให้จัดการเรื่องนี้ทั้งทางตรง ทางอ้อม และทางลับ ไม่มีสักทาง"พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ยืนยันปฏิเสธในวันถัดมา
เมื่อ"บิ๊กออฟ"ออกมาปฏิเสธ คำถามจึงมีอยู่ว่า เหตุใด พล.ต.ท.สัณฐาน จึงกล้าอ้างชื่อพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และเหตุใด จึงเป็นพล.ต.ท.สัณฐาน อดีตผบช.น. และเคยเป็นนายตำรวจคนสนิทของรองนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ลงไปจับเรื่องนี้ จึงเป็นปริศนาที่ยังคงต้องช่วยกันหาคำตอบต่อไป ซึ่งในเย็นวันที่ 19 ส.ค.นั้นเอง พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ก็ได้เดินทางลงไปตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับพล.ต.ท.สัณฐานอีกครั้ง
ต่อมา เมื่อข่าวยังอยู่ในกระแส ก็จำเป็นที่เจ้าของพื้นที่อย่าง พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภ.2 จะต้องออกมาทำความกระจ่างให้เกิดขึ้น โดยพล.ต.ท.ไถง ยืนยันว่า ขณะนี้สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนแล้วว่า ศพทั้งหมดนั้นไม่ใช่เป็นศพของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างแน่นอน เพราะเป็นศพที่เสียชีวิตมาแล้วเกิน 5 ปีทุกศพ มีเอกสารนำส่งและหลักฐานที่ผ่านขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้อง สามารถนำมายืนยันได้ อีกทั้งศพไร้ญาติที่เสียชีวิตไม่เกิน 5 ปีก็ยังคงถูกเก็บไว้ที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ทั้งนี้ หากต้องการตรวจสอบจริงๆ ก็ควรจะตรวจสอบที่เกิดเหตุคือที่ จ.ชุมพร ว่าสาเหตุการเสียชีวิตของศพไร้ญาติเหล่านี้มาจากสาเหตุใด
พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบช.ภ.8 กับพล.ต.ท.สมศักดิ์ สายบัว อดีตผบช.ภ.8 ในฐานะคณะทำงานของ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ซึ่งเดินทางไปยัง สมาคมพุทธประทีป จ.ชุมพร ร่วมตรวจเอกสานหลักฐานกับเกี่ยวกับศพที่ถูกเคลื่อนย้ายทั้ง 165 ศพ ระบุหลังตรวจสอบสุสานและเอกสารต่างๆหมดแล้วว่า เท่าที่ตรวจสอบยอมรับว่าสมาคมพุทธประทีปหลังสวนมีการจัดเก็บศพอย่างเป็นระบบ มีเอกสารยืนยัน การมอบศพจากตำรวจร้อยเวรเจ้าของคดีที่พบศพ โดยเฉพาะศพในช่วงปี พ.ศ.2552-2553 ยังเก็บอยู่ครบภายในสุสานของสมาคมที่ จ.ชุมพร ส่วนศพที่ขนไป จ.ระยอง เป็นศพไร้ญาติ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างด้าว และเก็บมานานกว่า 5 ปีทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อข้อเท็จจริงเริ่มปรากฏชัด แต่พล.ต.ท.สัณฐานเริ่มเลือนหายไปจากหน้าข่าวสาร ทางผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ซักว่า ก่อนที่พล.ต.ท.สัณฐานจะลงไปตรววจสอบพื้นที่นั้น ได้ราบยงานให้ทราบหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรตอบทันทีว่า ไม่ได้รายงาน แต่ทราบว่าได้รับคำสั่งจากรองนายกรัฐมนตรีให้ไปตรวจสอบศพนิรนามดังกล่าว ซึ่งจะได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ บช.ภ.2 และ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ.ตร. เข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
การแต่งตั้งพล.ต.อ.ปานศิริ เข้าไปดูแลควบคุมเรื่องนี้ จึงนัยยะอีกเช่นกันว่า ทำไม ผบ.ตร. จึงไม่แต่งตั้งพล.ต.ท.สัณฐาน ที่เข้าไปยุ่งกับงานนี้ก่อนเป็นคนแรก ให้เป็นผู้รับผิดชอบการตรวจสอบ ทำไมจึงต้องตั้งพล.ต.อ.ปานศิริเข้าไปดูแลเล่า หากจะมองอย่างหยาบๆ ก็เหมือนหนึ่ง พล.ต.อ.วิเชียร สั่งตบหน้าพล.ต.ท.สัณฐานเสียฉาดใหญ่! ส่วนการตั้งพล.ต.ท.จรัมพรนั้น เป็นหน้าที่โดยตรงของผู้บัญชาการสำนักพิสูจน์หลักฐานที่ต้องลงไปทำหน้าที่อยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ เด็กอมมือยังคิดได้ ญาติใครหายไป 165 ศพ ย่อมมีชื่อ มีหลักฐานชัดเจน หรือญาติหายทั้งคน จะไม่แจ้งความร้องทุกข์เชียวหรือ คนเคยผ่านตำแหน่งผบช.น.อย่างพล.ต.ท.สัณฐานมา น่าจะคิดได้
เรื่องที่เกิดขึ้น ควรจะมีบุคคลอยู่ 3 คน ที่เชื่อว่า รู้เรื่องนี้ดี ว่าทำไม่จึงต้องนำพา(ปูด)เรื่องนี้มาเป็นประเด็นข่าวในช่วงที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินหนีการตอบคำถามของสื่อมวลชนมาสองครั้งสองหน จนถูกวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสังเกตไปต่างๆนานา บุคคล 3 คนดังกล่าวก็คือ ตัวพล.ต.ท.สัณฐาน๑ พล.ต.ท.ชัจจ์๑ และรองนายกรัฐมนตรี ที่ผบ.ตร.ระบุอีก๑ ทั้ง 3 คนนี้ เชื่อว่า น่าจะเป็นผู้ช่ำชองในวิชาตำรวจเป็นอย่างดี จึงทำให้เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นประเด็นชิงพื้นที่ข่าวทั้งหมดไปได้อย่างสวยหรู แถมได้ราคาได้ใจกลุ่มคนเสื้อแดงอีกต่างหาก แต่จะเกี่ยวข้องกับยุทธการเลื่อยขาเก้าอี้ผบ.ตร.หรือไม่นั้น ไม่ขอรับประกัน!
พล.ต.ท.สัณฐานบอกครั้งแรกเมื่อตอนลงพื้นที่ว่า ตัวเขาได้รับคำสั่งจากพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคมหมาดๆ และพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. ให้ลงไปตรวจสอบ กระทำความจริงให้ปรากฏว่า การเคลื่อนย้ายศพ 165 ศพที่สมาคมพุทธประทีป จ.ชุมพร ประสานกับสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์อำเภอแกลง จ.ระยอง นำไปฝังไว้ที่ 3 วัดนั้น มีความเกี่ยวข้องต่อการหายไปของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหรือไม่ พูดตรงๆก็คือ ทั้ง 165 ศพนั้น เป็นศพที่รัฐบาลชุดก่อนหมกเม็ด ซ่อนเร้นไว้จากการสลายการชุมนุมหรือไม่
เมื่อข่าวนี้กลายเป็นข่าวใหญ่พาดหัว คนที่ออกมาพูดต่อกลับกลายเป็น"บิ๊กออฟ" พล.ต.อ.เพรียมพันธ์ ดามาพงศ์เสียเอง ที่ออกมาระบุอย่างชัดเจนว่า ไม่ได้เป็นผู้สั่งการให้ พล.ต.ท.สัณฐาน ไปตรวจสอบศพนิรนามในวัด จ.ระยอง และไม่เคยทราบเรื่องศพดังกล่าวมาก่อน อีกทั้งเรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจรับผิดชอบของตน การสั่งการต้องเป็นรอง ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบพื้นที่ภาค 2
"ผมไม่เคยสั่งการลงไป ผมมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติดเท่านั้น ไม่มีอำนาจไปสั่งการได้ พล.ต.ท.สัณฐานเป็น ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี สายบังคับบัญชาก็ไม่ได้ขึ้นกับผม ซึ่งไม่มีการสั่งการลงไปให้จัดการเรื่องนี้ทั้งทางตรง ทางอ้อม และทางลับ ไม่มีสักทาง"พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ยืนยันปฏิเสธในวันถัดมา
เมื่อ"บิ๊กออฟ"ออกมาปฏิเสธ คำถามจึงมีอยู่ว่า เหตุใด พล.ต.ท.สัณฐาน จึงกล้าอ้างชื่อพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และเหตุใด จึงเป็นพล.ต.ท.สัณฐาน อดีตผบช.น. และเคยเป็นนายตำรวจคนสนิทของรองนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ลงไปจับเรื่องนี้ จึงเป็นปริศนาที่ยังคงต้องช่วยกันหาคำตอบต่อไป ซึ่งในเย็นวันที่ 19 ส.ค.นั้นเอง พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ก็ได้เดินทางลงไปตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับพล.ต.ท.สัณฐานอีกครั้ง
ต่อมา เมื่อข่าวยังอยู่ในกระแส ก็จำเป็นที่เจ้าของพื้นที่อย่าง พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภ.2 จะต้องออกมาทำความกระจ่างให้เกิดขึ้น โดยพล.ต.ท.ไถง ยืนยันว่า ขณะนี้สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนแล้วว่า ศพทั้งหมดนั้นไม่ใช่เป็นศพของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างแน่นอน เพราะเป็นศพที่เสียชีวิตมาแล้วเกิน 5 ปีทุกศพ มีเอกสารนำส่งและหลักฐานที่ผ่านขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้อง สามารถนำมายืนยันได้ อีกทั้งศพไร้ญาติที่เสียชีวิตไม่เกิน 5 ปีก็ยังคงถูกเก็บไว้ที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ทั้งนี้ หากต้องการตรวจสอบจริงๆ ก็ควรจะตรวจสอบที่เกิดเหตุคือที่ จ.ชุมพร ว่าสาเหตุการเสียชีวิตของศพไร้ญาติเหล่านี้มาจากสาเหตุใด
พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบช.ภ.8 กับพล.ต.ท.สมศักดิ์ สายบัว อดีตผบช.ภ.8 ในฐานะคณะทำงานของ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ซึ่งเดินทางไปยัง สมาคมพุทธประทีป จ.ชุมพร ร่วมตรวจเอกสานหลักฐานกับเกี่ยวกับศพที่ถูกเคลื่อนย้ายทั้ง 165 ศพ ระบุหลังตรวจสอบสุสานและเอกสารต่างๆหมดแล้วว่า เท่าที่ตรวจสอบยอมรับว่าสมาคมพุทธประทีปหลังสวนมีการจัดเก็บศพอย่างเป็นระบบ มีเอกสารยืนยัน การมอบศพจากตำรวจร้อยเวรเจ้าของคดีที่พบศพ โดยเฉพาะศพในช่วงปี พ.ศ.2552-2553 ยังเก็บอยู่ครบภายในสุสานของสมาคมที่ จ.ชุมพร ส่วนศพที่ขนไป จ.ระยอง เป็นศพไร้ญาติ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างด้าว และเก็บมานานกว่า 5 ปีทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อข้อเท็จจริงเริ่มปรากฏชัด แต่พล.ต.ท.สัณฐานเริ่มเลือนหายไปจากหน้าข่าวสาร ทางผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ซักว่า ก่อนที่พล.ต.ท.สัณฐานจะลงไปตรววจสอบพื้นที่นั้น ได้ราบยงานให้ทราบหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรตอบทันทีว่า ไม่ได้รายงาน แต่ทราบว่าได้รับคำสั่งจากรองนายกรัฐมนตรีให้ไปตรวจสอบศพนิรนามดังกล่าว ซึ่งจะได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ บช.ภ.2 และ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ.ตร. เข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
การแต่งตั้งพล.ต.อ.ปานศิริ เข้าไปดูแลควบคุมเรื่องนี้ จึงนัยยะอีกเช่นกันว่า ทำไม ผบ.ตร. จึงไม่แต่งตั้งพล.ต.ท.สัณฐาน ที่เข้าไปยุ่งกับงานนี้ก่อนเป็นคนแรก ให้เป็นผู้รับผิดชอบการตรวจสอบ ทำไมจึงต้องตั้งพล.ต.อ.ปานศิริเข้าไปดูแลเล่า หากจะมองอย่างหยาบๆ ก็เหมือนหนึ่ง พล.ต.อ.วิเชียร สั่งตบหน้าพล.ต.ท.สัณฐานเสียฉาดใหญ่! ส่วนการตั้งพล.ต.ท.จรัมพรนั้น เป็นหน้าที่โดยตรงของผู้บัญชาการสำนักพิสูจน์หลักฐานที่ต้องลงไปทำหน้าที่อยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ เด็กอมมือยังคิดได้ ญาติใครหายไป 165 ศพ ย่อมมีชื่อ มีหลักฐานชัดเจน หรือญาติหายทั้งคน จะไม่แจ้งความร้องทุกข์เชียวหรือ คนเคยผ่านตำแหน่งผบช.น.อย่างพล.ต.ท.สัณฐานมา น่าจะคิดได้
เรื่องที่เกิดขึ้น ควรจะมีบุคคลอยู่ 3 คน ที่เชื่อว่า รู้เรื่องนี้ดี ว่าทำไม่จึงต้องนำพา(ปูด)เรื่องนี้มาเป็นประเด็นข่าวในช่วงที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินหนีการตอบคำถามของสื่อมวลชนมาสองครั้งสองหน จนถูกวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสังเกตไปต่างๆนานา บุคคล 3 คนดังกล่าวก็คือ ตัวพล.ต.ท.สัณฐาน๑ พล.ต.ท.ชัจจ์๑ และรองนายกรัฐมนตรี ที่ผบ.ตร.ระบุอีก๑ ทั้ง 3 คนนี้ เชื่อว่า น่าจะเป็นผู้ช่ำชองในวิชาตำรวจเป็นอย่างดี จึงทำให้เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นประเด็นชิงพื้นที่ข่าวทั้งหมดไปได้อย่างสวยหรู แถมได้ราคาได้ใจกลุ่มคนเสื้อแดงอีกต่างหาก แต่จะเกี่ยวข้องกับยุทธการเลื่อยขาเก้าอี้ผบ.ตร.หรือไม่นั้น ไม่ขอรับประกัน!
