9 แกนนำ นปช.หัวหมอ หาช่องว่างกฎหมาย แทนที่จะเข้ารับข้อกล่าวหาคดีล้มเจ้าตามนัดหมาย แต่กลับมีลูกเล่นเดินทางมาส่งหนังสือขอยกเลิกเอกสิทธิ์คุ้มครองการเป็น ส.ส.เพื่อยื้อเวลาเตะถ่วงให้รัฐสภาอนุญาตก่อน ขณะที่ ดีเอสไอจำเป็นต้องรอแจ้งรัฐสภาให้ยกเลิกตามร้องขอ เพื่อเปิดทางเริ่มสอบสวนตามกระบวนการ ส่วนแกนนำที่เหลืออีก 10 ดีเอสไออนุมัติให้เลื่อนรับข้อกล่าวหารอคราวเดียวกัน
วันนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ อาคาร บี ถนนแจ้งวัฒนะ นายจตุพร พรหมพันธุ์, นพ.เหวง โตจิราการ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ฐานะแกนนำ นปช.และ นายการุณ โหสกุล, นายประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.ระบบเขต พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้าพบ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีล่วงละเมิดต่อสถาบัน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ เพื่อส่งหนังสือขอยกเลิกเอกสิทธิคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 131 ที่ห้ามดำเนินคดีอาญากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในระหว่างสมัยเปิดประชุมสภา เพื่อเปิดทางให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวล่วงละเมิดต่อสถาบัน (คดีล้มเจ้า) ตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา กรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ปราศัย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 10 เม.ย.54
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นดีเอสไอจะแจ้งไปยังรัฐสภา เพื่อให้พิจารณายกเลิกเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 9 คน เพื่อเริ่มกระบวนการสอบสวนคดีล่วงละเมิดสถาบัน
ส่วนแกนนำ นปช.อีก 10 คน ประกอบด้วย นายขวัญชัย สาราคำ (ไพรพนา), นายยศวริศ ชูกล่อม, นางลัลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์, นายชินวัฒน์ หาบุญพาด, นายพิพัฒน์ชัย หรือ สมชาย ไพบูลย์, นายนิสิต สินธุไพร, นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ และ นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ ได้ขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีเดียวกัน โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างยุติธรรม จึงต้องรอการดำเนินคดีพิสูจน์ข้อกล่าวหาไปในคราวเดียวกัน
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะส่งเรื่องให้ประธานสภา เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม เพื่อให้สมาชิก ส.ส.ทั้งหมดพิจารณาตามคำขอสละสิทธิ์ในเอกสิทธิ์คุ้มครองระหว่างสมัยประชุมสภา ของ ส.ส.ทั้ง 9 คน ทั้งนี้ หากสภาอนุญาตให้ทั้ง 9 คน สละสิทธิ์ในเอกสิทธิ์คุ้มครอง ก็จะเข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม
ส่วนแกนนำอีก 10 คน ที่ถูกดำเนินคดีในคดีเดียวกันได้ส่งหนังสือขอเลื่อนนัดเข้ารับทราบข้อกล่าวหาออกไปก่อนในระหว่างรอผลการพิจารณาการขอสละเอกสิทธิคุ้มครองของ ส.ส.ทั้ง 9 คน ซึ่งเบื้องต้นตนได้พิจารณาร่วมกับอัยการฝ่ายคดีพิเศษ แล้วเห็นร่วมกันว่าคดีมีเหตุเดียวกัน ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่ายจึงเห็นควรอนุญาตตามคำขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของ 10 แกนนำ นปช.ออกไปด้วย
ด้าน นายจตุพร กล่าวว่า เป็นความประสงค์ของพวกตน เพราะคดีนี้รั้งไว้นานเท่าไหร่ ยิ่งสร้างความไม่สบายใจให้เท่านั้น ซึ่งเมื่อมีการตกลงพร้อมใจกันให้คดีได้เดินหน้า พวกตนมีความเชื่อมั่นว่าไม่ได้เป็นตามข้อกล่าวหา ซึ่งพวกตนเป็นพสกนิกร จึงต้องการจะพิสูจน์เรื่องนี้ให้มีความชัดเจนตามประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายพิธีพิจารณาความอาญา และเรื่องนี้ต้องขอร้องเพื่อนสมาชิก ส.ส.อนุญาตให้นำตัวพวกตนมาดำเนินคดี ในสมัยประชุมผู้แทนได้ เพราะเป็นความประสงค์ของพวกตนเอง
ส่วน นายณัฐวุฒิ กล่าววว่า พวกตนยินดีเดินหน้าต่อสู้คดีทุกข้อกล่าวหา แต่จะเดินหน้าประกันตัวพี่น้อง นปช.ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ซึ่งในวันศุกร์ที่ 19 ส.ค.นี้ ทาง ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะใช้ตำแหน่ง ส.ส.เป็นหลักประกัน เพื่อให้ทนายความยื่นขอประกันตัวพี่น้องคนเสื้อแดงต่อไป
วันนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ อาคาร บี ถนนแจ้งวัฒนะ นายจตุพร พรหมพันธุ์, นพ.เหวง โตจิราการ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ฐานะแกนนำ นปช.และ นายการุณ โหสกุล, นายประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.ระบบเขต พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้าพบ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีล่วงละเมิดต่อสถาบัน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ เพื่อส่งหนังสือขอยกเลิกเอกสิทธิคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 131 ที่ห้ามดำเนินคดีอาญากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในระหว่างสมัยเปิดประชุมสภา เพื่อเปิดทางให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวล่วงละเมิดต่อสถาบัน (คดีล้มเจ้า) ตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา กรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ปราศัย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 10 เม.ย.54
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นดีเอสไอจะแจ้งไปยังรัฐสภา เพื่อให้พิจารณายกเลิกเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 9 คน เพื่อเริ่มกระบวนการสอบสวนคดีล่วงละเมิดสถาบัน
ส่วนแกนนำ นปช.อีก 10 คน ประกอบด้วย นายขวัญชัย สาราคำ (ไพรพนา), นายยศวริศ ชูกล่อม, นางลัลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์, นายชินวัฒน์ หาบุญพาด, นายพิพัฒน์ชัย หรือ สมชาย ไพบูลย์, นายนิสิต สินธุไพร, นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ และ นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ ได้ขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีเดียวกัน โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างยุติธรรม จึงต้องรอการดำเนินคดีพิสูจน์ข้อกล่าวหาไปในคราวเดียวกัน
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะส่งเรื่องให้ประธานสภา เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม เพื่อให้สมาชิก ส.ส.ทั้งหมดพิจารณาตามคำขอสละสิทธิ์ในเอกสิทธิ์คุ้มครองระหว่างสมัยประชุมสภา ของ ส.ส.ทั้ง 9 คน ทั้งนี้ หากสภาอนุญาตให้ทั้ง 9 คน สละสิทธิ์ในเอกสิทธิ์คุ้มครอง ก็จะเข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม
ส่วนแกนนำอีก 10 คน ที่ถูกดำเนินคดีในคดีเดียวกันได้ส่งหนังสือขอเลื่อนนัดเข้ารับทราบข้อกล่าวหาออกไปก่อนในระหว่างรอผลการพิจารณาการขอสละเอกสิทธิคุ้มครองของ ส.ส.ทั้ง 9 คน ซึ่งเบื้องต้นตนได้พิจารณาร่วมกับอัยการฝ่ายคดีพิเศษ แล้วเห็นร่วมกันว่าคดีมีเหตุเดียวกัน ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่ายจึงเห็นควรอนุญาตตามคำขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของ 10 แกนนำ นปช.ออกไปด้วย
ด้าน นายจตุพร กล่าวว่า เป็นความประสงค์ของพวกตน เพราะคดีนี้รั้งไว้นานเท่าไหร่ ยิ่งสร้างความไม่สบายใจให้เท่านั้น ซึ่งเมื่อมีการตกลงพร้อมใจกันให้คดีได้เดินหน้า พวกตนมีความเชื่อมั่นว่าไม่ได้เป็นตามข้อกล่าวหา ซึ่งพวกตนเป็นพสกนิกร จึงต้องการจะพิสูจน์เรื่องนี้ให้มีความชัดเจนตามประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายพิธีพิจารณาความอาญา และเรื่องนี้ต้องขอร้องเพื่อนสมาชิก ส.ส.อนุญาตให้นำตัวพวกตนมาดำเนินคดี ในสมัยประชุมผู้แทนได้ เพราะเป็นความประสงค์ของพวกตนเอง
ส่วน นายณัฐวุฒิ กล่าววว่า พวกตนยินดีเดินหน้าต่อสู้คดีทุกข้อกล่าวหา แต่จะเดินหน้าประกันตัวพี่น้อง นปช.ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ซึ่งในวันศุกร์ที่ 19 ส.ค.นี้ ทาง ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะใช้ตำแหน่ง ส.ส.เป็นหลักประกัน เพื่อให้ทนายความยื่นขอประกันตัวพี่น้องคนเสื้อแดงต่อไป
