ผบก.น.9 สั่งทีมสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบภาพชายต้องสงสัยดูลาดเลาก่อนลงมือ ได้ให้้พนักงานสอบสวนไปขออำนาจศาลออกหมายจับตามตำหนิรูปพรรณแล้ว ชี้ เย็นนี้ถก รองผกก.ป.ทุกโรงพักในสังกัด เพื่อวางแนวทางป้องกันโจรปล้นร้านทอง
วันนี้ (12 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.45 น. พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบก.น.9 เปิดเผยความคืบหน้าคดีคนร้ายสวมหมวกแก๊ป ใส่แว่นตา ใช้ผ้าปิดจมูกอำพรางใบหน้าบุกเดี่ยวควักปืนจี้ร้านทองห้างทองเพชรทองใบ ภายในห้างบิ๊กซี บางบอน กวาดทองไป 10 เส้น มูลค่า 507,000 บาท ว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สน.บางขุนเทียน และ กก.สส.บก.น.9 ช่วยกันตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุย้อนหลังไปอีกหลายวัน โดยพบว่า ในวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุเพียง 1 วัน มีภาพของชายต้องสงสัยคนหนึ่ง ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับคนร้ายเดินวนเวียนอยู่ในบริเวณห้างลักษณะเหมือนมาดูลาดเลาก่อนลงมือ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้นำภาพคนร้ายที่ใส่หมวกแก๊ป คาดผ้าปิดจมูกอำพรางใบหน้าขณะก่อเหตุไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับตามตำหนิรูปพรรณดังกล่าวเอาไว้แล้ว สำหรับรถ จยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีเทา ที่มีพยานเห็นคนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในขับขี่หลบหนี จากการตรวจสอบข้อมูลรถรุ่นดังกล่าว พบว่า มีรถที่เข้าข่ายอยู่จำนวนกว่า 600 คัน ส่วนการตรวจสอบทะเบียนรถของคนร้ายต้องค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากไม่มีพยานที่จดจำได้ แต่ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบต่อไปด้วยว่าเป็นแผ่นป้ายทะเบียนปลอมหรือไม่
พล.ต.ต.ภัคพงศ์ ยังกล่าวถึงมาตรการป้องกันเหตุชิงทรัพย์ร้านทองในพื้นที่ ว่า จะมีการเรียกประชุมนายตำรวจระดับ รองผกก.ป.ทุกโรงพักสังกัด บก.น.9 ในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อกำหนดนโยบายป้องกันเหตุอย่างเคร่งครัด และจะทำการประชาสัมพันธ์ให้ร้านทองช่วยติดตั้งลูกกรงเหล็กดัด และเช็กสภาพกล้องวงจรปิดให้พร้อมใช้อยู่เสมอ ส่วนการเรื่องการคาดโทษ พ.ต.อ.ชาญ แก้วท่าไม้ ผกก.สน.บางขุนเทียน ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรง ก็พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติชี้แจงอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดบทลงโทษแต่อย่างใด
วันนี้ (12 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.45 น. พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบก.น.9 เปิดเผยความคืบหน้าคดีคนร้ายสวมหมวกแก๊ป ใส่แว่นตา ใช้ผ้าปิดจมูกอำพรางใบหน้าบุกเดี่ยวควักปืนจี้ร้านทองห้างทองเพชรทองใบ ภายในห้างบิ๊กซี บางบอน กวาดทองไป 10 เส้น มูลค่า 507,000 บาท ว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สน.บางขุนเทียน และ กก.สส.บก.น.9 ช่วยกันตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุย้อนหลังไปอีกหลายวัน โดยพบว่า ในวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุเพียง 1 วัน มีภาพของชายต้องสงสัยคนหนึ่ง ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับคนร้ายเดินวนเวียนอยู่ในบริเวณห้างลักษณะเหมือนมาดูลาดเลาก่อนลงมือ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้นำภาพคนร้ายที่ใส่หมวกแก๊ป คาดผ้าปิดจมูกอำพรางใบหน้าขณะก่อเหตุไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับตามตำหนิรูปพรรณดังกล่าวเอาไว้แล้ว สำหรับรถ จยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีเทา ที่มีพยานเห็นคนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในขับขี่หลบหนี จากการตรวจสอบข้อมูลรถรุ่นดังกล่าว พบว่า มีรถที่เข้าข่ายอยู่จำนวนกว่า 600 คัน ส่วนการตรวจสอบทะเบียนรถของคนร้ายต้องค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากไม่มีพยานที่จดจำได้ แต่ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบต่อไปด้วยว่าเป็นแผ่นป้ายทะเบียนปลอมหรือไม่
พล.ต.ต.ภัคพงศ์ ยังกล่าวถึงมาตรการป้องกันเหตุชิงทรัพย์ร้านทองในพื้นที่ ว่า จะมีการเรียกประชุมนายตำรวจระดับ รองผกก.ป.ทุกโรงพักสังกัด บก.น.9 ในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อกำหนดนโยบายป้องกันเหตุอย่างเคร่งครัด และจะทำการประชาสัมพันธ์ให้ร้านทองช่วยติดตั้งลูกกรงเหล็กดัด และเช็กสภาพกล้องวงจรปิดให้พร้อมใช้อยู่เสมอ ส่วนการเรื่องการคาดโทษ พ.ต.อ.ชาญ แก้วท่าไม้ ผกก.สน.บางขุนเทียน ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรง ก็พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติชี้แจงอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดบทลงโทษแต่อย่างใด