xs
xsm
sm
md
lg

จับไลบีเรียตุ๋นขายทอง อ้างเป็นเศรษฐีขอซื้อบ้านหรู 30 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รอง ผบก.สส.สตม. แถลงข่าวจับกุม นายเคนนี่ วาย กิ๊บสัน อายุ 30 ปี และ นายมาร์ค เค เวอาห์ อายุ 32 ปี สัญชาติไลบีเรีย หลังแอบอ้างเป็นเศรษฐีทำทีขอซื้อบ้านมูลค่า 30 ล้าน แต่กลับหลอกขายทองคำ
ตม.รวบสอง 18 มงกุฎไลบีเรียแอบอ้างเป็นเศรษฐีทำทีขอซื้อบ้านมูลค่า 30 ล้าน แต่กลับเสนอขายทองคำราคาถูก ก่อนหลอกให้นำเงิน 2 แสนไปเปิดเอาทองออกจากตู้คอนเทนเนอร์ เหยื่อเอะใจสะกิดตำรวจจับทันควัน

วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.ท.กิจจา เกษมณี รอง ผกก.1 บก.สส.สตม. พ.ต.ท.สมชาย เดชแพ รอง ผกก.1 บก.สส.สตม. แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชนจำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายเคนนี่ วาย กิ๊บสัน อายุ 30 ปี และ นายมาร์ค เค เวอาห์ อายุ 32 ปี ทั้งสองคนสัญชาติไลบีเรีย โดยจับกุมได้ที่บริเวณถนนพระราม 4 ใกล้กับโรงแรมดุสิตธานี แขวงสีลม เขตบางรัก กทม.

พ.ต.อ.ชาติชาย เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากนายปวเรศ กาญจนริน อายุ 32 ปี ผู้เสียหาย ได้ประกาศขายบ้านราคา 30 ล้านบาททางเว็บไซต์ จากนั้นผู้ต้องหาทั้งสองคนซึ่งแอบอ้างตัวเป็นเศรษฐีชาวไลบีเรียได้เข้ามาทำทีติดต่อขอซื้อบ้านหลังดังกล่าว แต่ในระหว่างเจรจากันอยู่นั้น ผู้ต้องหาก็ทำทีเสนอขายทองคำให้กับผู้เสียหายในราคาถูกกว่าในท้องตลาด แต่ติดอยู่ที่ว่าทองจำนวนดังกล่าวนั้นติดอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ ต้องใช้เงินจำนวน 200,000 บาทในการดำเนินการนำออกมา และจะขอเงินจำนวนดังกล่าวจากผู้เสียหายก่อน

พ.ต.อ.ชาติชายกล่าวต่อว่า จากนั้นทางผู้เสียหายเกิดเอะใจจึงประสานมายังเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สส.สตม.ให้ช่วยทำการตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่จึงให้ผู้เสียหายทำการถ่ายเอกสารเงินทั้งหมดไว้ ก่อนติดต่อกลับไปยังผู้ต้องหาทั้งสองคนให้เดินทางมารับเงิน เมื่อถึงเวลานัดหมายผู้ต้องหาทั้งสองคนได้เดินทางมารับเงินจากผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นก็พบเงินจำนวน 200,000 บาทอยู่ในกระเป๋าสะพาย และจากการตรวจค้นในตัวของผู้ต้องหาทั้งสองคนพบเพียงตั๋วจำนำ 2 ใบ โทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าอีกเพียง 2 เครื่อง และเงินสดจำนวนหนึ่ง จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนนั้นไม่มีฐานะหรือทรัพย์สินพอที่จะซื้อบ้านในราคา 30 ล้านบาทจากผู้เสียหายได้แต่อย่างใด จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ กก.1 บก.สส.สตม.

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนอ้างว่า เดินทางเข้าประเทศไทยมาตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีที่แล้ว และไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง โดยจะอาศัยอยู่ในพัทยาเป็นหลัก จะเข้ากทม.มาเป็นครั้งคราว ส่วนเรื่องทองคำนั้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการถอนวีซ่า และจะผลักดันออกนอกประเทศต่อไป พร้อมทั้งขึ้นบัญชีเป็นบุคคลอันตรายไม่ให้กลับเข้ามาในประเทศไทยได้อีก

กำลังโหลดความคิดเห็น