xs
xsm
sm
md
lg

คดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ยังไม่จบ! ศาลนัดสืบพยานจำเลย 23 สิงหา

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
2 การ์ด นปช.ขึ้นศาลคดีวางเพลิงเซ็นทรัลเวิลด์ ขณะที่ศาลสืบพยานโจทก์ตำรวจชนะสงคราม และตัวแทนบริษัทประกันภัย ยังไม่ได้ข้อยุติ นัดสืบพยานจำเลยอีกครั้ง 23-24 ส.ค.นี้

วันนี้ (3 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องพิจารณา 501 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 ศาลนัดสืบพยานโจทก์ คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสายชล แพบัว อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดชัยนาท การ์ดแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ นายพินิจ จันทร์ณรงค์ อายุ 27 ปี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ โรงเรือนที่เก็บสินค้า จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 217, 218, 224 และฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 4, 5, 9, 11, 18 รวมทั้งข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ลงวันที่ 7 เมษายน 2553 และประกาศศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เรื่องห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุม ลงวันที่ 8 เมษายน 2553 กรณีเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เกิดเหตุเพลิงไหม้ อาคารเซนทาวเวอร์ และอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ตั้งอยู่แยกราชประสงค์

นายอาคม รัตนพจนารถ ทนายความจำเลย กล่าวว่า ในวันนี้อัยการนำพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ที่จับกุมพวกจำเลยเข้าเบิกความสรุปว่า ได้จับกุมพวกจำเลยตามหมายจับของศาล ที่ปรากฏรูปภาพใบหน้าพวกจำเลย อย่างไรก็ตาม พยานยอมรับว่า ภาพถ่ายตามหมายจับไม่ชัดเจน จากนั้นอัยการได้นำพยานที่เป็นตัวแทนบริษัทประกันภัยเข้าเบิกความในประเด็นการจ่ายเงินประกันภัยจากการก่อการร้าย สรุปว่า ขณะนี้ยังไม่มีการจ่ายเงินให้กับบริษัทที่ได้ทำประกันภัยกรณีเกิดการก่อการร้าย เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุการณ์ที่สี่แยกราชประสงค์ เกิดจากการก่อการร้าย ภายหลังพยานเบิกความเสร็จสิ้นแล้วศาลนัดสืบพยานจำเลยอีกครั้งวันที่ 23 และ 24 สิงหาคม นี้ เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2553 ระบุว่า เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองกับพวก ร่วมกันชุมนุมและมั่วสุมกันบริเวณสี่แยกราชประสงค์ในช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง โดยพวกจำเลยได้เข้าไปในบริเวณอาคารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แล้วใช้กำลังทำลายบานกระจก ผนังอาคาร บานกระจกประตู อาคารเซนทาวเวอร์ อาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณห้างสรรพสินค้าดังกล่าว จนแตกเสียหาย และยังเป็นการกีดขวางการจราจร ขัดขวางต่อการประกอบกิจการของห้าง ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเสียหาย และเกรงกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และจำเลยทั้งสองกับพวก ยังได้ร่วมกันเข้าไปภายในบริเวณอาคารเซนทาวเวอร์ และอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นทรัพย์โรงเรือนอันเป็นที่เก็บสินค้าของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แล้วพวกจำเลยได้ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ เผาอาคารเซนทาวเวอร์ และไฟไหม้เผาทรัพย์สินต่างๆ ของผู้เสียหายที่ 1 ถึงผู้เสียหายที่ 270 รวมค่าเสียหายจำนวน 8,890,578,649.61 บาท และยังเป็นเหตุให้ นายกิติพงษ์หรือ กิตติพงษ์ สมสุขที่อยู่ภายในอาคารดังกล่าวถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่แขวง-เขตปทุมวัน กทม.
กำลังโหลดความคิดเห็น