ตำรวจ กก.ดส.บช.น. บุกตรวจค้นร้าน “สองพี่น้องคาราโอเกะ” ย่านอุดมสุข หลังได้รับร้องเรียนเปิดเกินเวลา รับต่างด้าวเข้าทำงาน และเป็นแหล่งส่งยาเสพติดให้เอเยนต์-ผู้เสพในพื้นที่ ตรวจสอบพบไม่มีใบอนุญาตสถานประกอบการ ส่วนต่างด้าวรวบได้แค่คนเดียว หลังสองผัวเมียเจ้าของร้านนกรู้ไหวตัวทัน
วันนี้ (3 ส.ค.) เมื่อเวลา 01.00 น. พ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง รอง ผกก.กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผกก.กก.ดส.บชน.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ สว.สส.ตรวจตราและควบคุม กก.ดส.บช.น นำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 10 นายเข้าตรวจค้นร้านสองพี่น้องคาราโอเกะ เลขที่ 449/39 ซ.อุดมสุข 51 แขวงดอกไม้ เขตพระโขนง กทม. หลังสืบทราบว่าร้านดังกล่าวเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีการนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
ร้านดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จากการตรวจค้นภายในร้านพบ น.ส.นุ่น ชาวลาว อายุ 26 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นเด็กนั่งดริงก์ และยังพบเด็กชายอายุ 13 ปี เป็นพนักงานเสิร์ฟ กำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ภายในร้าน โดยมีนายสวัสดิ์ แสงสุก อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1519 ซ.วชิรธรรมสาธิต 57 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. และนางแปง สองเมือง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/ส ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สองสามีภรรยารับว่าเป็นเจ้าของร้าน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน เนื่องจากตรวจพบว่าร้านคาราโอเกะดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตสถานประกอบการ นอกจากนี้ ที่บริเวณชั้น 2 ของตัวอาคารยังพบอุปกรณ์การเสพยาไอซ์จำนวนหนึ่งจึงยึดไว้ตรวจสอบ
พ.ต.ท.ศยามกล่าวภายหลังการตรวจค้นว่า สำหรับร้านสองพี่น้องคาราโอเกะนี้เปิดให้บริการมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่ามีการเปิดให้บริการจนถึงเช้า มีการนำแรงงานต่างด้าวและเด็กเข้ามาทำงาน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังมีข้อมูลว่าร้านคาราโอเกะดังกล่าวเป็นแหล่งส่งยาให้กับเอเยนต์และผู้เสพในพื้นที่ดังกล่าวด้วย เบื้องต้นคาดว่าการเข้าจับกุมในครั้งนี้ เจ้าของร้านคงจะไหวตัวทันทำให้สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวได้เพียงคนเดียว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี และขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต, รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้ที่พักพิงแก่คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพร้อมกันนี้ ได้แจ้งข้อหาต่อแรงานต่างด้าวว่าเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป