โจรใจบาปบุกตัดลูกกรงเหล็กขโมยพระพุทธรูปประจำชุมชนวัดไตรรัตนาราม ย่านรามอินทรา ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเป็นชาย 2 คน แต่งกายคล้ายโชเฟอร์แท็กซี่ เตรียมล่าตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (25 ก.ค.) เมื่อเวลา 07.30 น. ร.ต.อ.พากษกรณ์ เจนใจ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางเขน ได้รับแจ้งจากนายซ้อน โชคดุลย์ อายุ 63 ปี รองประธานชุมชนวัดไตรรัตนาราม ว่า มีคนร้ายเข้ามาขโมยพระประธานประจำชุมชนไปจากแท่นที่ตั้งองค์พระ ภายในซอยรามอินทรา 8 แยก 22 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นแท่นสำหรับตั้งองค์พระประธาน ลักษณะเป็นซุ้มทำจากปูนมีหลังคาปิดมิดชิด อยู่หน้าลานกีฬาของชุมชนฯ ที่ลูกกรงเหล็กซึ่งทำเป็นประตูสำหรับปิดซุ้มป้องกันคนขโมยพระถูกตัดขาด แล้วนำไปทิ้งไว้อีกมุมหนึ่งของซุ้ม และพระประธานประจำชุมชนซึ่งเป็นองค์หลวงพ่อวิมล บุญฤทธิ์ ทำจากทองเหลืองทั้งองค์ ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 24 นิ้ว สูงประมาณ 40 นิ้ว ถูกขโมยไป
จากการสอบถามนายซ้อนกล่าวว่า พระดังกล่าวเป็นพระที่ชาวบ้านอัญเชิญมาจากวัดลาดปลาเค้าเพื่อมาอยู่คู่กับชุมชนแห่งนี้มากว่า 12 ปีแล้ว และเป็นที่เคารพของคนทั้งชุมชน เมื่อคืนตนก็ยังไม่เห็นมีอะไรผิดสังเกต แต่พอมาช่วงเช้าพวกลูกบ้านและตนจะมาไหว้พระกันตามปกติก็พบว่า ลูกกรงเหล็กที่ปิดซุ้มพระถูกคนร้ายตัดขาด แล้วเอาไปโยนทิ้งไว้อีกที่หนึ่ง แล้วขโมยหลวงพ่อไป จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และแจ้งให้ชาวบ้านทราบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำกล้องวงจรปิดของชาวบ้านที่ติดไว้หน้าบ้านเพื่อกันขโมย และอยู่ติดกับแท่นพระมาตรวจสอบ ก็พบว่า คนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมชุดแบบฟอร์มแท็กซี่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า กางเกงยีนส์ขายาว สูงประมาณ 170 ซม. อายุทั้งคู่ประมาณ 35-40 ปี ขับรถแท็กซี่สีน้ำเงิน ไม่ทราบทะเบียน เข้ามาดูลาดเลาตรงจุดเกิดเหตุในเวลา 23.00 น.แล้วออกไป จากนั้นเวลา 00.25 น. คนร้ายได้ขับรถคันดังกล่าวกลับเข้ามาตัดเหล็กลูกกรงเหล็กแล้วขโมยพระขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว
ด้าน ร.ต.อ.พากษกรณ์กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายไม่น่าจะใช่คนในพื้นที่ เพราะชาวบ้านไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเคยผ่านเข้ามาในหมู่บ้านแล้วเห็นพระตั้งอยู่ แล้วคิดว่าเป็นพระเก่าแก่มีราคาจึงวางแผนกับพวกมาขโมยไป ซึ่งคนร้ายก็น่าจะมีความชำนาญอยู่บ้างเพราะใช้เวลาไม่นานก็ตัดเหล็กได้แล้ว แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นการรับงานหรือใบสั่งจากพวกเซียนพระให้มาขโมยไป เพราะพระดังกล่าวไม่ได้เป็นพระดังหรือเก่าแก่ล้ำค่า หรือเป็นที่ต้องการสำหรับพวกเซียนพระแต่อย่างใด แต่เป็นที่เคารพบูชาของคนในชุมชน จึงน่าจะเป็นพวกไม่มีเงินมาขโมยแล้วนำไปปล่อยตามแผงพระ หรือตลาดพระมากกว่า จะเร่งให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบว่ามีใครนำพระไปปล่อยให้กับใคร และกลุ่มไหนบ้าง เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด