xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ยัน “พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์” ขับรถชน “หมอมุก”!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.
“อำนวย” ยัน “พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น” เป็นผู้ขับรถชน “หมอมุก” จากพยานหลักฐาน ทั้งจากบุคคลและภาพถ่าย พร้อมเผย เตรียมแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งผู้ต้องหาขอเลื่อนไป 27 ก.ค.นี้

วันนี้ (25 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.เปิดเผยกรณีที่ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ผอ.กลางกลาง สำนักงานปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ยอมรับว่า เป็นคนขับรถชน พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดท้องที่ สน.พญาไท ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานได้ครบถ้วนเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เป็นคนขับรถตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล ทั้ง รปภ.ร้านสามเสนวิลล่า หลักฐานภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ซอยอารีย์สัมพันธ์ ทาง พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ได้นัดกับภรรยา พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา หมอมุก บุตรสาว และเพื่อนสาวของบุตรสาว ที่สถานีดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีภาพวงจรปิดขณะขับรถเข้อาที่จอดเห็น พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ลงจากรถด้านคนขับ แม้กระทั่งภาพวงจรปิดหลังเกิดเหตุตามเส้นทางขณะที่ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ขับรถหลบหนี

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวอีกว่า หลังจากสอบปากคำแม่หมอมุก ในวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนประชุมแล้วได้ข้อยุติ ว่า จะเรียก พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มาแจ้งข้อหาในฐานะผู้ต้องหา เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาพยายามฆ่า ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ แต่ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ขอเลื่อนเป็นวันที่ 27 ก.ค.โดยให้เหตุผลว่า อยู่ระหว่างติดต่อทนายความ การแจ้งข้อหาพยายามฆ่า จะหนักไป หรือเบาไป หรือไม่นั้น ตนว่า ไม่หนัก ไม่เบา เพราะถ้าหนัก หรือเบาไป พนักงานสอบสวนก็มีความผิด พนักงานสอบสวนต้องแจ้งให้พอดีกันกับข้อเท็จจริง และต้องอธิบายความได้

รองผบช.น.กล่าวด้วยว่า คดีนี้เป็นคดีธรรมดา ที่เป็นข่าวกันมากมายก่ายกอง เพราะมันเป็นกระแส แม้กระทั่งเรื่องของตัวผู้กระทำผิด ตนพูดตั้งแต่แรกแล้วว่า ใครคนขับรถ แต่ตนไม่กล้าเปิดออกมาเพราะกระแสนั้นไปซ้ายบ้างขวาบ้าง ต้องยืนอยู่บนข้อเท็จจริง และหลักฐานที่ปรากฏ จนกระทั่งขณะนี้มีการพิสูจน์จนชัดเจนแล้ว แม้กระทั่งทนายความจากสภาทนายความที่มาช่วยดูแลคดีของหมอมุก ก็ยืนยันว่า ตัวผู้กระทำความผิดนั้นชัดเจนถูกต้อง

“ที่กันชนรถนั้น มีรอยแผลเล็กน้อย พฐ.ยืนยันว่า มีการชนหมอมุกจริง แต่ไม่แรงถึงขั้นกระดูกหัก ข่าวครั้งแรกปรากฏในสื่อดูโหดเหี้ยม พุ่งชนกระเด็นข้ามรถไป 30 เมตร ผมคิดว่า มันรุนแรงเกินไป เพราะดูกล้องวงจรปิดแล้วมันไม่ใช่ เป็นการขับรถวกรถกลับมา เพื่อต้องการถ่ายภาพทะเบียนรถ หลังจากถ่ายภาพเสร็จก็ขับรถออกไปหมอมุกอยู่หน้ารถจึงพุ่งชน แต่คงไม่หนัก หมอมุกติดไปกับหน้ารถแล้วจับที่ปัดหน้าฝน การขับรถส่าย หรือกระชาก ด้วยความเร็วเกินกว่าการออกรถตามปกติโดยมีเจตนาให้ตกจากรถ ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า เมื่อตกลงมาศีรษะฟาดพื้นแล้วอันตรายถึงแก่เสียชีวิตได้ จึงมีเหตุผลเพียงพอที่แจ้งข้อหาพยายามฆ่า ทั้งนี้พนักงานสอบสวนคงไม่รอปากคำหมอมุก จากการดูอาการของหมอมุกยังไม่น่าจะให้การได้ คดีนี้พยานหลักฐานชัดเจนคงไม่จำเป็นต้องสอบปากคำ ถึงสอบปากคำหมอมุกยังให้การได้ไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์น้ำหนักในการรับฟังก็น้อย ส่วนการเจรจาเรื่องค่าเสียหาย หรือสินไหมทดแทนนั้นก็จะมีการสอบถามผู้ต้องหาในวันแจ้งข้อหาว่า สมัครใจยินยอมกันหรือไม่ ด้านสำนวนคดีคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น