xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์ยืน! ปรับ 5 หมื่น “นังดา” ปากเปราะด่า “ป๋าเปรม-คมช.”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ) น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนสั่งปรับ 5 หมื่นบาท “ดา ตอร์ปิโด” ปราศรัยหมิ่น “ป๋าเปรม-คมช.” กล่าวหานำทหารปกครองประเทศ เกิดความเสียหาย


วันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ ที่ อ.4767/2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือดา ตอร์ปิโด แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาด้วยการกระจายเสียง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 จากกรณีเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 50 เวลากลางคืน จำเลยได้ปราศรัยบนเวทีหน้ากระทรวงศึกษาธิการ บริเวณแยกมิสกวัน กล่าวโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. และ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้ช่วยเลขาธิการ (คมช.) ผู้เสียหาย เกี่ยวกับการรัฐประหารที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำนองว่าเอาทหารมาปกครองประเทศทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่ง คมช.ได้มอบอำนาจให้นายทหารพระธรรมนูญแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เมื่อเดือน มิ.ย. 50

โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.52 ว่า จำเลยมีความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามมาตรา 328 แต่เนื่องจากจำเลยนำสืบว่าเคยเป็นสื่อมวลชนและจบการศึกษารัฐศาสตร์ เพื่อให้โอกาสแก่จำเลยที่จะต้องระมัดระวังในการใช้คำพูดพาดพิงถึงบุคคลอื่น เห็นสมควรลงโทษสถานเบา เพื่อให้เป็นการหลาบจำ จึงให้ปรับเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีที่หมิ่นประมาทนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในคดีหมายเลขดำ ที่ อ.3634/2551 นั้น เนื่องจากคดีดังกล่าวศาลมีคำพิพากษาสั่งปรับเท่านั้น ไม่มีโทษจำคุกจึงไม่อาจนับโทษต่อได้ ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ อ้างว่าผู้เสียหายไม่มาเบิกความด้วยตนเองยืนยันเกี่ยวกับหนังสือมอบอำนาจ การมอบอำนาจจึงไม่สมบูรณ์ อัยการจึงไม่มีอำนาจฟ้อง และอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบา

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า คมช. ผู้เสียหาย ได้มอบอำนาจในการร้องทุกข์ โดยมีหนังสือมอบอำนาจก็ไม่จำเป็นต้องเบิกความด้วยตนเอง ส่วนที่จำเลยขอให้ลงโทษสถานเบา เห็นว่าคดีนี้โจทก์มีนายทหารซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ระบุว่าได้ยินจำเลยใช้วาจาด้วยถ้อยคำหยาบคายกล่าวหาผู้เสียหาย ประกอบกับยังมีนายทหารที่ตรวจแผ่นบันทึกเสียงระบุว่าได้ถอดเทปคำพูดที่จำเลยขึ้นปราศรัย หน้ากระทรวงศึกษาธิการเมื่อวันที่ 31 พ.ค.50 ด้วย ศาลเห็นว่า พยานโจทก์เบิกความตามการปฏิบัติหน้าที่ และไม่มีเหตุโกรธเคืองกับจำเลย เชื่อว่าไม่ได้เบิกความผิดไปจาความเป็นจริง จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง ซึ่งโทษที่ศาลชั้นต้นพิพากษานั้นเหมาะสมกับพฤติการณ์ที่จำเลยใช้ถ้อยคำหยาบคาย รุนแรงกล่าวพาดพิงผู้เสียหาย และบุคคลอื่นอีกหลายคนแล้ว จึงพิพากษายืน
กำลังโหลดความคิดเห็น