คนร้ายยิงถล่มข่มขวัญบ้านประธานชุมชนหัวคะแนนเพื่อไทย ในหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ทั้งสองหลัง เจ้าตัวเชื่อ มาจากฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจที่ผู้สมัคร ส.ส.ชนะขาดลอย ส่วนว่าที่ ส.ส.นนทบุรี รุดเยี่ยมถึงบ้านทันที เชื่อ เหตุมาจากการเลือกตั้งเช่นกัน
วันนี้ (7 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.สมศักดิ์ อมรส่งเจริญ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งเหตุมีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านพักภายในหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 10-12-14 หมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น หน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายของชำ และร้านจำหน่ายแก๊สหุงต้มอยู่ติดกัน โดยพบว่า ที่ประตูเลื่อนเปิดปิดของร้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 11 มม.จนเป็นรูพรุน 5 แห่ง แรงกระสุนยังได้ทะลุประตูเลื่อนที่เป็นอะลูมิเนียมเข้าไปถูกโทรทัศน์ 42 นิ้ว และเสาปูนภายในบ้านได้รับความเสียหายด้วย นอกจากนี้ กระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง ยังไปถูกขวดสุราที่วางขายบนชั้นในร้านได้รับความเสียหายอีกจำนวน 5 ขวด ส่วนบริเวณหน้าบ้าน พบปลอกกระสุนปืน 11 มม.ตกอยู่จำนวน 2 ปลอก โดยมี นายบุญลือ จรัสเพ็ชร์ อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านซึ่งเป็นประธานชุมชนหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุอยู่
นายจรัส กล่าวว่า เมื่อคืนกลางดึกประมาณเวลาตี 3 ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวนหลายนัดที่บริเวณหน้าบ้าน แต่ตนเองกับครอบครัวซึ่งพักอาศัยอยู่รวมกันประมาณ 8 คน ซึ่งนอนอยู่ชั้นบนของบ้านไม่กล้าลงมาดู เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ และรอจนกระทั่งเช้า เมื่อลงมาดูก็พบว่าบ้านพักที่เปิดเป็นร้านขายของชำถูกยิงถล่มด้วยอาวุธปืนจนประตูบานเลื่อนเป็นรูพรุน จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ โชคดีที่ตอนเกิดเหตุทุกคนภายในบ้านขึ้นนอนกันหมดแล้วไม่อย่างนั้น คงมีคนในบ้านได้รับอันตรายอย่างแน่นอน และยังโชคดีอีกที่กลุ่มคนร้ายไม่ยิงใส่ไปยังทาว์นเฮ้าส์ที่อยู่ติดกันอีกหลังซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายแก๊สหุงต้มไม่เช่นนั้นคงเกิดระเบิดขึ้นมากลางดึกและได้รับความเสียหายมากกว่านี้
นายจรัส ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อว่า ที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยมีปัญหาทะเลาะ หรือขัดแย้งกับใครมาก่อน แต่ยอมรับว่า ในช่วงการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านพ้นมา ตนเองได้สนับสนุน นายอุดมเดช รัตนเสถียร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ของพรรคเพื่อไทย หาเสียงในละแวกดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ปรากฏว่า เขตเลือกตั้งในหมู่บ้านหน่วยที่ 67-68-69 ที่ตนเองสนับสนุนอยู่ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย มีคะแนนชนะคู่แข่งขันทั้ง 3 หน่วย น่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มหัวคะแนนฝ่ายตรงข้าม จึงคิดมาเล่นงานตนด้วยการข่มขู่ดังกล่าว อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งตนเองยังคิดไม่ถึงเลยว่า หลังเลือกตั้งเสร็จแล้ว ยังจะมีการใช้วิธีการแบบนี้อยู่อีกในเขตชุมชนเมือง อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี และสาวไปให้ถึงตัวบงการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังต่อไป
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณสนามลานกีฬาภายในหมู่บ้านประชานิเวศน์3 ใกล้บ้านพักของนายจรัสอีกหลังหนึ่ง ที่บ้านเลขที่ 33 ซอย 8/13 หมู่ 1 ภายในหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 พบปลอกกระสุนปืนขนาด 7.65 ตกอยู่ที่ลานกีฬาหน้าบ้านพักของนายจรัสอีกจำนวน 2 ปลอก แต่บ้านพักไม่ได้รับความเสียหายเหมือนหลังแรก จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบต่อไป
พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหาย พบว่า ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใครมาก่อน และผู้เสียหายให้การสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยในเขตนี้จนได้คะแนนชนะคู่แข่งขัน ซึ่งอาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายตรงข้ามจึงใช้วิธีการดังกล่าวมาข่มขู่มากกว่าจะมุ่งหมายเอาชีวิตผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนในเชิงลึก พบว่า ก่อนเกิดเหตุมีพยานเห็นรถตู้สีขาวติดฟิล์มทึบมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านผู้เสียหาย จากนั้นจึงมีเสียงปืนออกมาจากรถตู้จำนวนหนึ่งแล้วรถตู้คันดังกล่าวก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนบ้านพักอีกหลังในจุดที่ 2 นั้น มีพยานเห็นว่า คนร้ายเป็นชายสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปจอดที่ลานกีฬาซึ่งเป็นบ้านพักของผู้เสียหายแล้วใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าจำนวนหลายนัดก่อนจะขับรถหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานที่เห็นเหตุการณ์พยานวัตถุในที่เกิดเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และใกล้เคียงเพื่อรวบรวมหลักฐานออกหมายจับคนร้ายต่อไปโดยขณะนี้ พอทราบเบาะแสของกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุแล้ว
ต่อมา นายอุดมเดช รัตนเสถียร ว่าที่ ส.ส.นนทบุรี เขต 2 ได้เดินทางมาเยี่ยมนายจรัส ทันทีที่ทราบข่าวว่า บ้านพักนายจรัสคนสนิทถูกยิงถล่ม โดยนายอุดมเดช ได้กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ นับว่า แข่งขันรุนแรงที่สุดก็ว่าได้ เพราะมีการทุ่มเงินเพื่อหวังชนะการเลือกตั้งในพื้นที่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อต้องมาผิดหวัง เพราะไม่สามารถสู้กับกระแสความนิยมได้ ก็หันมาใช้วิธีการข่มขู่ผู้สนับสนุนฝ่ายตรงข้ามตัวเองด้วยวิธีการสกปรก ซึ่งเรื่องนี้ตนเองจะเร่งรัดและติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้พร้อมกับเตือนให้กลุ่มผู้สนับสนุนระมัดระวังในช่วงนี้ให้ดี เนื่องจากเพิ่งจะผ่านพ้นการเลือกตั้งมา อาจมีกลุ่มผู้ผิดหวังออกมาก่อเหตุในทำนองดังกล่าวอีก จึงต้องระมัดระวังตัวกันไว้ก่อน




วันนี้ (7 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.สมศักดิ์ อมรส่งเจริญ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งเหตุมีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านพักภายในหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 10-12-14 หมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น หน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายของชำ และร้านจำหน่ายแก๊สหุงต้มอยู่ติดกัน โดยพบว่า ที่ประตูเลื่อนเปิดปิดของร้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 11 มม.จนเป็นรูพรุน 5 แห่ง แรงกระสุนยังได้ทะลุประตูเลื่อนที่เป็นอะลูมิเนียมเข้าไปถูกโทรทัศน์ 42 นิ้ว และเสาปูนภายในบ้านได้รับความเสียหายด้วย นอกจากนี้ กระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง ยังไปถูกขวดสุราที่วางขายบนชั้นในร้านได้รับความเสียหายอีกจำนวน 5 ขวด ส่วนบริเวณหน้าบ้าน พบปลอกกระสุนปืน 11 มม.ตกอยู่จำนวน 2 ปลอก โดยมี นายบุญลือ จรัสเพ็ชร์ อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านซึ่งเป็นประธานชุมชนหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุอยู่
นายจรัส กล่าวว่า เมื่อคืนกลางดึกประมาณเวลาตี 3 ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวนหลายนัดที่บริเวณหน้าบ้าน แต่ตนเองกับครอบครัวซึ่งพักอาศัยอยู่รวมกันประมาณ 8 คน ซึ่งนอนอยู่ชั้นบนของบ้านไม่กล้าลงมาดู เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ และรอจนกระทั่งเช้า เมื่อลงมาดูก็พบว่าบ้านพักที่เปิดเป็นร้านขายของชำถูกยิงถล่มด้วยอาวุธปืนจนประตูบานเลื่อนเป็นรูพรุน จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ โชคดีที่ตอนเกิดเหตุทุกคนภายในบ้านขึ้นนอนกันหมดแล้วไม่อย่างนั้น คงมีคนในบ้านได้รับอันตรายอย่างแน่นอน และยังโชคดีอีกที่กลุ่มคนร้ายไม่ยิงใส่ไปยังทาว์นเฮ้าส์ที่อยู่ติดกันอีกหลังซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายแก๊สหุงต้มไม่เช่นนั้นคงเกิดระเบิดขึ้นมากลางดึกและได้รับความเสียหายมากกว่านี้
นายจรัส ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อว่า ที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยมีปัญหาทะเลาะ หรือขัดแย้งกับใครมาก่อน แต่ยอมรับว่า ในช่วงการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านพ้นมา ตนเองได้สนับสนุน นายอุดมเดช รัตนเสถียร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ของพรรคเพื่อไทย หาเสียงในละแวกดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ปรากฏว่า เขตเลือกตั้งในหมู่บ้านหน่วยที่ 67-68-69 ที่ตนเองสนับสนุนอยู่ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย มีคะแนนชนะคู่แข่งขันทั้ง 3 หน่วย น่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มหัวคะแนนฝ่ายตรงข้าม จึงคิดมาเล่นงานตนด้วยการข่มขู่ดังกล่าว อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งตนเองยังคิดไม่ถึงเลยว่า หลังเลือกตั้งเสร็จแล้ว ยังจะมีการใช้วิธีการแบบนี้อยู่อีกในเขตชุมชนเมือง อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี และสาวไปให้ถึงตัวบงการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังต่อไป
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณสนามลานกีฬาภายในหมู่บ้านประชานิเวศน์3 ใกล้บ้านพักของนายจรัสอีกหลังหนึ่ง ที่บ้านเลขที่ 33 ซอย 8/13 หมู่ 1 ภายในหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 พบปลอกกระสุนปืนขนาด 7.65 ตกอยู่ที่ลานกีฬาหน้าบ้านพักของนายจรัสอีกจำนวน 2 ปลอก แต่บ้านพักไม่ได้รับความเสียหายเหมือนหลังแรก จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบต่อไป
พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหาย พบว่า ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใครมาก่อน และผู้เสียหายให้การสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยในเขตนี้จนได้คะแนนชนะคู่แข่งขัน ซึ่งอาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายตรงข้ามจึงใช้วิธีการดังกล่าวมาข่มขู่มากกว่าจะมุ่งหมายเอาชีวิตผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนในเชิงลึก พบว่า ก่อนเกิดเหตุมีพยานเห็นรถตู้สีขาวติดฟิล์มทึบมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านผู้เสียหาย จากนั้นจึงมีเสียงปืนออกมาจากรถตู้จำนวนหนึ่งแล้วรถตู้คันดังกล่าวก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนบ้านพักอีกหลังในจุดที่ 2 นั้น มีพยานเห็นว่า คนร้ายเป็นชายสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปจอดที่ลานกีฬาซึ่งเป็นบ้านพักของผู้เสียหายแล้วใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าจำนวนหลายนัดก่อนจะขับรถหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานที่เห็นเหตุการณ์พยานวัตถุในที่เกิดเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และใกล้เคียงเพื่อรวบรวมหลักฐานออกหมายจับคนร้ายต่อไปโดยขณะนี้ พอทราบเบาะแสของกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุแล้ว
ต่อมา นายอุดมเดช รัตนเสถียร ว่าที่ ส.ส.นนทบุรี เขต 2 ได้เดินทางมาเยี่ยมนายจรัส ทันทีที่ทราบข่าวว่า บ้านพักนายจรัสคนสนิทถูกยิงถล่ม โดยนายอุดมเดช ได้กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ นับว่า แข่งขันรุนแรงที่สุดก็ว่าได้ เพราะมีการทุ่มเงินเพื่อหวังชนะการเลือกตั้งในพื้นที่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อต้องมาผิดหวัง เพราะไม่สามารถสู้กับกระแสความนิยมได้ ก็หันมาใช้วิธีการข่มขู่ผู้สนับสนุนฝ่ายตรงข้ามตัวเองด้วยวิธีการสกปรก ซึ่งเรื่องนี้ตนเองจะเร่งรัดและติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้พร้อมกับเตือนให้กลุ่มผู้สนับสนุนระมัดระวังในช่วงนี้ให้ดี เนื่องจากเพิ่งจะผ่านพ้นการเลือกตั้งมา อาจมีกลุ่มผู้ผิดหวังออกมาก่อเหตุในทำนองดังกล่าวอีก จึงต้องระมัดระวังตัวกันไว้ก่อน