“แน็ต พีรกร” แจ้งความดำเนินคดี “ไมเคิล ตั๋ง” อ้างซื้อเก๋งจากเต็นท์ในราคา 62,000 บาท จ่ายไป 4 หมื่น ทำสัญญาติดค้างอยู่ 1.2 หมื่นบาท เลยขอยืมไมเคิล โดยเจ้าตัวจ่ายให้ และรับเล่มและเอกสารโอนกรรมสิทธิ์ไว้ แต่ตัวเองไม่มีหลักฐานใด ต่อมาจำเป็นต้องกลับบ้านเลยยืมเงินไมเคิลอีก แต่ไม่ได้ เลยเอารถเก๋งคันดังกล่าวไปจอดไว้ที่เต็นท์ได้เงินมา 1.5 หมื่นบาท แต่พอกลับมา เต็นท์บอก ไมเคิล ตั๋ง นำเอกสารมาทำเรื่องขายรับเงินไปแล้ว จึงตามไล่ถาม พูดกันไม่รู้เรื่อง ขณะที่ ตร.จะสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องว่าเข้าข่ายยักยอก หรือลักทรัพย์หรือไม่
วันนี้ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่ส น.ลาดพร้าว นายภูมิพัฒน์ วงศ์ยาชวลิต หรือ “แน็ต พีรกร” อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 1 ต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง ศิลปินเพลงช้างเผือก คลื่นเอฟเอ็ม 95 มหานคร ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.มนเดช มาแนม พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.ลาดพร้าว ว่าถูกนายรุ่งโรจน์ นิจรันธ์ หรือ “ไมเคิล ตั๋ง” นักลอกเลียนแบบนักร้องนักแสดงชื่อดัง นำรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีดำ หมายเลขทะเบียน วร 8684 ที่ซื้อมาจากเต็นท์รถย่านแฮปปี้แลนด์ไปขายให้กับผู้อื่น โดยนำหลักฐานเป็นเอกสารสัญญาการซื้อขายรถยนต์และคลิปเสียงการสนทนากับเจ้าของเต็นท์รถมามอบให้เป็นหลักฐาน
นายภูมิพัฒน์เปิดเผยว่า ตนเป็นนักร้องคั่นในวงของไมเคิล ตั๋ง และดูแลเสื้อผ้าที่ใช้ในการแสดงกับเครื่องดนตรี ให้กับนายไมเคิล ตั๋ง ด้วย ส่วนสาเหตุที่เดินทางเข้าแจ้งความในวันนี้เป็นเพราะเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปซื้อรถยนต์คันดังกล่าวกับเต็นท์รถแห่งหนึ่งย่านแฮปปี้แลนด์ ในราคารวม 62,000 บาท ซึ่งตนได้จ่ายเงินไป 4 หมื่นบาท โดยมีการทำสัญญากับเต็นท์รถไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในสัญญาระบุว่า ตนยังคงค้างเงินอยู่อีก 12,000 บาท ตนจึงตัดสินใจพูดคุยกับ นายไมเคิล ตั๋ง เพื่อขอยืมเงินไปจ่ายให้กับเต็นท์รถ ซึ่ง นายไมเคิล ตั๋ง ได้นำเงินไปจ่ายให้ พร้อมกับรับเล่มทะเบียนและเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์มาเก็บเอาไว้
นายภูมิพัฒน์กล่าวอีกว่า นายไมเคิล ตั๋ง ไม่ได้ให้เอกสารดังกล่าวทั้งหมดกับตน และยังให้ตนทำสัญญาเงินกู้เป็นจำนวน 2 หมื่นบาท ซึ่งตนจำได้ว่ายืมเพียงแค่ 12,000 บาท ตนก็ยอมทำสัญญา โดยมีการระบุในสัญญาว่าให้ตนผ่อนชำระเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 7 เดือน แต่ปรากฏว่า นายไมเคิล ตั๋ง ก็ไม่ให้คู่สัญญากับตน ทำให้ตนไม่มีหลักฐานใดๆ เก็บไว้ กระทั่งวันที่ 26 เม.ย.ตนต้องเดินทางกลับต่างจังหวัดแต่ไม่มีเงิน จึงไปขอยืมนายไมเคิล ตั๋ง แต่ไม่ได้ ตนจึงนำรถยนต์ไปจอดไว้ที่เต็นท์รถที่ตนซื้อมาเพื่อจำนำเอาเงินไปเป็นค่ารถกลับบ้าน ได้เงินมา 15,000 บาท จากนั้นได้โทรศัพท์ไปลางานกับนายไมเคิล ตั๋ง
“กระทั่งหลังเลือกตั้งเสร็จ ผมได้เเดินทางกลับมา และรีบไปสอบถามกับทางเต็นท์รถว่ารถของผมยังอยู่ไหม เดี๋ยวจะเอาเงินไปไถ่คืน แต่ก็ได้รับคำตอบจากเจ้าของเต็นท์ ว่า นายไมเคิล ตั๋ง เอาเล่มทะเบียนและเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ มาขายและรับเงินไปแล้ว 25,000 บาท ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าแค่ผมลางานกลับบ้าน 2 เดือน ถึงกับต้องเอารถของผมไปขายเลยเหรอ เมื่อผมติดต่อไปสอบถามกับไมเคิล ตั๋ง ก็ได้รับคำตอบว่าให้ไปถามกับคนสนิทของเขา และพยายามบ่ายเบี่ยงผมตลอด ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของผมกับไมเคิล ตั๋ง ทำไมต้องให้ไปถามคนอื่น และเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ผมจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความทันที นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินเป็นเสื้อผ้าและเครื่องดนตรีอีกหลายชิ้นอยู่ภายในรถด้วย ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพื่อเอารถผมคืน” นายภูมิพัฒน์ กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.มนเดชกล่าวว่า จากการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถคันดังกล่าว พบว่า มีการขายและโอนกรรมสิทธิ์ให้กับบุคคลที่พักอยู่ย่าน จ.สุพรรณบุรี ไปแล้ว เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.หลังจากนี้ จะต้องทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งเจ้าของเต็นท์รถและคู่กรณีของนายภูมิพัฒน์ รวมทั้งเจ้าของที่ได้รับการโอนกรรมสิทธิ์คนล่าสุด ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายยักยอกทรัพย์หรือลักทรัพย์หรือไม่ เพื่อที่จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับ นายภูมิพัฒน์ วงศ์ยาชวลิต หรือ “แน็ต พีรกร” อายุ 38 ปี เป็นศิลปินเพลงลูกทุ่ง และยังเป็นคนที่เคยแจ้งความจับ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง นักแสดงชื่อดัง เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2553 ที่ สน.คันนายาว ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีขึ้นกล่าวบนเวทีขณะรับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลนาฏราช เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2553
วันนี้ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่ส น.ลาดพร้าว นายภูมิพัฒน์ วงศ์ยาชวลิต หรือ “แน็ต พีรกร” อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 1 ต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง ศิลปินเพลงช้างเผือก คลื่นเอฟเอ็ม 95 มหานคร ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.มนเดช มาแนม พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.ลาดพร้าว ว่าถูกนายรุ่งโรจน์ นิจรันธ์ หรือ “ไมเคิล ตั๋ง” นักลอกเลียนแบบนักร้องนักแสดงชื่อดัง นำรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลล่า สีดำ หมายเลขทะเบียน วร 8684 ที่ซื้อมาจากเต็นท์รถย่านแฮปปี้แลนด์ไปขายให้กับผู้อื่น โดยนำหลักฐานเป็นเอกสารสัญญาการซื้อขายรถยนต์และคลิปเสียงการสนทนากับเจ้าของเต็นท์รถมามอบให้เป็นหลักฐาน
นายภูมิพัฒน์เปิดเผยว่า ตนเป็นนักร้องคั่นในวงของไมเคิล ตั๋ง และดูแลเสื้อผ้าที่ใช้ในการแสดงกับเครื่องดนตรี ให้กับนายไมเคิล ตั๋ง ด้วย ส่วนสาเหตุที่เดินทางเข้าแจ้งความในวันนี้เป็นเพราะเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปซื้อรถยนต์คันดังกล่าวกับเต็นท์รถแห่งหนึ่งย่านแฮปปี้แลนด์ ในราคารวม 62,000 บาท ซึ่งตนได้จ่ายเงินไป 4 หมื่นบาท โดยมีการทำสัญญากับเต็นท์รถไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในสัญญาระบุว่า ตนยังคงค้างเงินอยู่อีก 12,000 บาท ตนจึงตัดสินใจพูดคุยกับ นายไมเคิล ตั๋ง เพื่อขอยืมเงินไปจ่ายให้กับเต็นท์รถ ซึ่ง นายไมเคิล ตั๋ง ได้นำเงินไปจ่ายให้ พร้อมกับรับเล่มทะเบียนและเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์มาเก็บเอาไว้
นายภูมิพัฒน์กล่าวอีกว่า นายไมเคิล ตั๋ง ไม่ได้ให้เอกสารดังกล่าวทั้งหมดกับตน และยังให้ตนทำสัญญาเงินกู้เป็นจำนวน 2 หมื่นบาท ซึ่งตนจำได้ว่ายืมเพียงแค่ 12,000 บาท ตนก็ยอมทำสัญญา โดยมีการระบุในสัญญาว่าให้ตนผ่อนชำระเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 7 เดือน แต่ปรากฏว่า นายไมเคิล ตั๋ง ก็ไม่ให้คู่สัญญากับตน ทำให้ตนไม่มีหลักฐานใดๆ เก็บไว้ กระทั่งวันที่ 26 เม.ย.ตนต้องเดินทางกลับต่างจังหวัดแต่ไม่มีเงิน จึงไปขอยืมนายไมเคิล ตั๋ง แต่ไม่ได้ ตนจึงนำรถยนต์ไปจอดไว้ที่เต็นท์รถที่ตนซื้อมาเพื่อจำนำเอาเงินไปเป็นค่ารถกลับบ้าน ได้เงินมา 15,000 บาท จากนั้นได้โทรศัพท์ไปลางานกับนายไมเคิล ตั๋ง
“กระทั่งหลังเลือกตั้งเสร็จ ผมได้เเดินทางกลับมา และรีบไปสอบถามกับทางเต็นท์รถว่ารถของผมยังอยู่ไหม เดี๋ยวจะเอาเงินไปไถ่คืน แต่ก็ได้รับคำตอบจากเจ้าของเต็นท์ ว่า นายไมเคิล ตั๋ง เอาเล่มทะเบียนและเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ มาขายและรับเงินไปแล้ว 25,000 บาท ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าแค่ผมลางานกลับบ้าน 2 เดือน ถึงกับต้องเอารถของผมไปขายเลยเหรอ เมื่อผมติดต่อไปสอบถามกับไมเคิล ตั๋ง ก็ได้รับคำตอบว่าให้ไปถามกับคนสนิทของเขา และพยายามบ่ายเบี่ยงผมตลอด ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของผมกับไมเคิล ตั๋ง ทำไมต้องให้ไปถามคนอื่น และเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ผมจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความทันที นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินเป็นเสื้อผ้าและเครื่องดนตรีอีกหลายชิ้นอยู่ภายในรถด้วย ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพื่อเอารถผมคืน” นายภูมิพัฒน์ กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.มนเดชกล่าวว่า จากการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถคันดังกล่าว พบว่า มีการขายและโอนกรรมสิทธิ์ให้กับบุคคลที่พักอยู่ย่าน จ.สุพรรณบุรี ไปแล้ว เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.หลังจากนี้ จะต้องทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งเจ้าของเต็นท์รถและคู่กรณีของนายภูมิพัฒน์ รวมทั้งเจ้าของที่ได้รับการโอนกรรมสิทธิ์คนล่าสุด ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายยักยอกทรัพย์หรือลักทรัพย์หรือไม่ เพื่อที่จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับ นายภูมิพัฒน์ วงศ์ยาชวลิต หรือ “แน็ต พีรกร” อายุ 38 ปี เป็นศิลปินเพลงลูกทุ่ง และยังเป็นคนที่เคยแจ้งความจับ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง นักแสดงชื่อดัง เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2553 ที่ สน.คันนายาว ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีขึ้นกล่าวบนเวทีขณะรับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลนาฏราช เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2553
