“นิสิต สินธุไพร” นอนคุกต่อ ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัวคดีก่อการร้าย ชี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ โทษสูง เกรงออกไปยุ่งพยานหลักฐาน-ป่วนเมืองไม่มีเหตุใหม่หรือเหตุพิเศษที่จะเปลี่ยนคำสั่งเดิมได้ ด้านทนายรอเวลาตั้งรัฐบาลใหม่แล้วจะยื่นประกันอีกรอบ
วันนี้ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ ที่นายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยื่นคำร้องอุทธรณ์ขอปล่อยชั่วคราวนายนิสิต สินธุไพร จำเลยที่ 8 คดีร่วมกันก่อการร้าย เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 2 ล้านบาทขอปล่อยชั่วคราวต่อศาลอาญาระหว่างพิจารณาคดี แต่ศาลอาญาไม่อนุญาต
โดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง เป็นคดีอุฉกรรจ์มีอัตราโทษสูง เพื่อป้องกันไม่ให้จำเลยที่ 8 ไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานในคดี หรือกระทำการกระทบต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ประกอบกับศาลอุทธรณ์เคยยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 8 มาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งขออ้างในคำร้องของปล่อยชั่วคราวฉบับนี้ก็ไม่ปรากฏเหตุผลพิเศษอันควรได้รับการพิจารณา กรณีจึงไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง
ด้าน นายคารม พลทะกลาง ทนายความกล่าวว่า เมื่อศาลมีคำสั่งยกคำร้องแล้วตนได้แจ้งให้ญาติของนายนิสิตทราบแล้ว ซึ่งการพิจารณาประกันตัวที่ผ่านมาได้พยายามยื่นพร้อมกันกับนายจตุพร ขณะที่นายนิสิตและญาติก็หวังว่าจะได้รับการปล่อยตัวในเร็ววัน อย่างไรก็ดีหลังจากนี้การพิจารณายื่นประกันจะต้องดูเหตุผลใหม่ เช่น อาจจะรอจนให้มีการตั้งรัฐบาลใหม่ หรือรอดูท่าทีของ คอป. หรือแนวทางของ นปช. เพื่อจะเสนอให้ศาลเห็นว่านายนิสิต ไม่มีพฤติการณ์ที่จะก่อให้เกิดความไม่มั่นคงสงบเรียบร้อยแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่นายนิสิตไม่ได้เป็น ส.ส. แล้วการขอปล่อยตัวชั่วคราวจะเป็นไปด้วยความยากลำบากกว่ากรณีของนายจตุพร ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น นายคารมกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะการที่ศาลมีคำสั่งยกคำร้องก็พิจารณาจากเหตุในสถานการณ์ และใช้ดุลยพินิจตามกฎหมาย ขณะที่การยื่นขอประกันตัวใหม่ของนายนิสิต โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะรอเวลาที่เหมาะสม เพื่อดูสถานการณ์หลังการตั้งรัฐบาลใหม่ หรืออย่างน้อยหากจะมีความเห็นของ คอป.ก็น่าจะเป็นเหตุใหม่ที่เพียงพอยื่นให้ศาลพิจารณาได้
