ตร.ห่วงหลังเลือกตั้งเกิดเหตุรุนแรง โดยให้สันติบาลประเมินสถานการณ์พบ 8 จังหวัดต้องเฝ้าระวัง “สระบุรี-ลพบุรี-สมุทรปราการ” อยู่ในข่ายด้วย หวั่นมือปืนตามเก็บหัวคะแนน ยังคงวางกำลังดูแล “อภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์” อย่างเข้มงวด ยันตำรวจไม่มีเกียร์ว่าง ยังคงเดินหน้ากวาดล้างอาชญากรรมเห็นผลเป็นอย่างดี
วันนี้ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรโรจน์ ไชยชิต ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. แถลงการประชุมศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศรส.ลต.ตร.) เพื่อติดตามสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า จากการประชุมประเมินสถานการณ์ภายหลังการเลือกตั้งทุกพื้นที่ยังรายงานว่ามีความเรียบร้อยดี ไม่น่าเป็นห่วง โดย ตร.เป็นห่วงเรื่องผลกระทบหลังการเลือกตั้ง จึงได้ให้ตำรวจสันติบาลประเมินสถานการณ์ล่าสุดตามสถานภาพการณ์แข่งขันในพื้นที่ หัวคะแนน กลุ่มมือปืน พบว่ายังมีพื้นที่ในอีก 8 จังหวัดที่ยังต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงหลังวันเลือกตั้ง ได้แก่ จ.สระบุรี จ.สมุทรปราการ จ.ลพบุรี จ.ฉะเชิงเทรา จ.อุทัยธานี จ.เพชรบูรณ์ จ.ยะลา และจ.นราธิวาส
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวอีกว่า กรณีผลการนับคะแนนที่มีประชาชนหลายพื้นที่ หลายกลุ่มเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ ซึ่งหลังการเลือกตั้งอาจมีการชุมนุมกลุ่มสัญลักษณ์ในทางการเมืองหลายพื้นที่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ได้สั่งเฝ้าระวังใกล้ชิดพร้อมกำชับให้ดูแลอย่าให้มีการปิดถนนอย่างเด็ดขาด และในส่วนของการปราศรัยให้ดำเนินการถ่ายภาพ บันทึกวิดีโอ และถอดเทปหากผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องก้าวล่วงสถาบันต้องดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
สำหรับการรักษาความปลอดภัยว่าที่ ส.ส.ทั้ง 500 คน พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลไปจนถึงมีการรับรองผล และรายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎร ส่วนการดูแลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ยังคงเป็นไปตามมาตรการเดิมที่กำหนดไว้ โดยอาจมีการลดกำลังบางส่วน แต่ยังวางกำลังดูแลอย่างเข้มงวด ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ก็มีการวางกำลังดูแลความปลอดภัยเช่นเดียวกัน ส่วนบุคคลสำคัญอื่นก็มีการวางกำลังดูแลลดหลั่นกันไป
ด้าน พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า หลังจากที่มีการเปิดใช้ถนนราชดำเนิน จากนี้ ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ บช.น.ดูแลการชุมนุม โดยอย่าให้มีการปิดถนนอีก ซึ่งหากพบว่ามีการปิดถนนโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้นต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนที่เกรงว่าตำรวจจะเกียร์ว่างในช่วงนี้นั้นยืนยันว่ายังอยู่ในช่วงที่ ผบ.ตร.สั่งระดมกวาดล้างช่วงที่ 4 จนถึงวันที่ 7 ก.ค.นี้ ซึ่งเห็นผลเป็นอย่างดี โดยหลังจากนี้ให้แต่ละพื้นที่นำแผนไปปรับใช้อย่างต่อเนื่อง โดยอาจมีการปรับในเรื่องกำลัง และไม่จำเป็นต้องระดมกำลังพร้อมกันทั้งหมด โดยลดความถี่ลงแต่ก็จะตรึงกำลังกวาดล้างอาชญากรรมต่อเนื่องไปตลอด
