สาวลำปางเครียดไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมลูก ตัดสินใจกระโดดระเบียงห้องจากชั้น 7 ลงมาเสียชีวิต น้องชายผู้ตายเผยก่อนหน้านี้พี่สาวจะพาลูกไปกระโดดสะพานลอยฆ่าตัวตายคู่ แต่ได้ห้ามปรามไว้ ไม่คิดว่าจะมาชิงฆ่าตัวตายคนเดียวอีกครั้ง
วันนี้ (5 ก.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. พ.ต.ท.ปรีชา จิตโศภิษฐ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุหญิงกระโดดจากที่สูงเสียชีวิต ด้านหลังอาคารพรจิตแมนชั่น เลขที่ 499/6-7 ถนนเพชรเกษม ซอย 55/3 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นแมนชั่น สูง 7 ชั้น ปลูกติดกันจำนวน 2 อาคาร จากการตรวจสอบที่ลานด้านหลังอาคารหมายเลข 1 พบศพ น.ส.ณัชชา หรือ “เก๋” พันธกรกิติคุณ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 12 ต.บ้านโป้ง อ.งาว จ.ลำปาง ปัจจุบันเป็นพนักงานที่ ส.นวดแผนโบราณ ปากทางเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 2 และเช่าพักอาศัยอยู่ในห้องเลขที่ 1721 ชั้น 7 ของอาคารดังกล่าว สภาพศพนอนตะแคงคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อสายเดี่ยวสีชมพู นุ่งกระโปรงยีนส์ มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตกใบหน้าซีกขวายุบ แขนทั้ง 2 ข้างหัก และข้อพับขาขวามีรอยถลอกเป็นทางยาวประมาณ 40 เซนติเมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เดินทางขึ้นไปตรวจสอบบนห้องพักของผู้ตาย พบว่าประตูถูกล็อกจากด้านใน เมื่อใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปตรวจดูไม่พบร่องรอยการต่อสู้และรื้อค้นทรัพย์สินหรือมีการเขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้แต่อย่างใด
จากการสอบสวน นายพิทักษ์ พันธกรกิติคุณ อายุ 32 ปี น้องชายผู้ตาย ให้การว่า น.ส.ณัชชา ผู้ตายพักอยู่ที่แมนชั่นแห่งนี้กับนายเชน ไฮลัน อายุ 42 ปี สามีใหม่สัญชาติจีน และลูกสาวที่ติดมาจากสามีเก่า ชื่อ ด.ญ.เค้ก (นามสมมติ) อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนอำนวยศิลป์บางแค ก่อนเกิดเหตุเมื่อตอนเช้าตรู่ขณะที่ตนกำลังเดินทางไปทำงาน น.ส.ณัชชาได้โทรศัพท์มาที่โทรศัพท์มือถือร้องไห้ฟูมฟาย บอกว่าจะพา ด.ญ.เค้ก ไปกระโดดสะพานลอยฆ่าตัวตายพร้อมกันสองแม่ลูก เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเงินโดยเฉพาะยังไม่ได้จ่ายค่าเทอมลูก จึงได้ห้ามปรามไว้ว่าให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวจะให้ภรรยาตนไปอยู่เป็นเพื่อนที่ห้อง จากนั้น น.ส.ณัชชาก็วางสายไปโดยที่ไม่มีใครติดต่อได้อีกเลย กระทั่งภรรยาตนเดินทางมาถึงพบว่าเจ้าตัวกระโดดระเบียงหลังห้องพักร่างกระแทกพื้นเสียชีวิตไปแล้ว
ต่อมา นายเชน สามีผู้ตายได้เดินทางมาดูศพ พร้อมให้การทั้งน้ำตาว่า ตนเดินทางเข้าประเทศไทยมาทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทแห่งหนึ่งย่านบางแค ได้ 5 ปีแล้ว ต่อมาก็รู้จักคบหากับ น.ส.ณัชชา ซึ่งขณะนั้นมีสถานะเป็นแม่หม้ายลูกติดจนตัดสินใจกินอยู่ด้วยกันประมาณ 3 ปี ปกติในช่วงเช้าจะเป็นคนเดินไปส่ง ด.ญ.เค้ก ที่โรงเรียนทุกวันแล้วค่อยนั่งรถเมล์ไปทำงาน ส่วนผู้ตายจะนอนตอนเช้าแล้วออกไปทำงานช่วงบ่ายกว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบเที่ยงคืน ที่ผ่านมาตนทั้ง 2 คนไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันเลย ไม่ทราบว่าเหตุใดผู้ตายจึงตัดสินใจแบบนี้รู้เพียงแค่ระยะหลังผู้ตายบ่นว่าไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมให้ลูก และกำลังทำเรื่องย้ายลูกกลับไปเรียนต่อที่ จ.ลำปาง บ้านเกิดกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์สลดเสียก่อน
ด้าน พ.ต.ท.ปรีชากล่าวว่า จากการสอบปากคำญาติในเบื้องต้นคาดว่าผู้ตายคงอยู่ในภาวะเครียดจึงตัดสินใจกระโดดแมนชั่นฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตามจะส่งศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช และเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสรุปสำนวนระบุสาเหตุการตายต่อไป
วันนี้ (5 ก.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. พ.ต.ท.ปรีชา จิตโศภิษฐ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุหญิงกระโดดจากที่สูงเสียชีวิต ด้านหลังอาคารพรจิตแมนชั่น เลขที่ 499/6-7 ถนนเพชรเกษม ซอย 55/3 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นแมนชั่น สูง 7 ชั้น ปลูกติดกันจำนวน 2 อาคาร จากการตรวจสอบที่ลานด้านหลังอาคารหมายเลข 1 พบศพ น.ส.ณัชชา หรือ “เก๋” พันธกรกิติคุณ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 12 ต.บ้านโป้ง อ.งาว จ.ลำปาง ปัจจุบันเป็นพนักงานที่ ส.นวดแผนโบราณ ปากทางเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 2 และเช่าพักอาศัยอยู่ในห้องเลขที่ 1721 ชั้น 7 ของอาคารดังกล่าว สภาพศพนอนตะแคงคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อสายเดี่ยวสีชมพู นุ่งกระโปรงยีนส์ มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตกใบหน้าซีกขวายุบ แขนทั้ง 2 ข้างหัก และข้อพับขาขวามีรอยถลอกเป็นทางยาวประมาณ 40 เซนติเมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เดินทางขึ้นไปตรวจสอบบนห้องพักของผู้ตาย พบว่าประตูถูกล็อกจากด้านใน เมื่อใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปตรวจดูไม่พบร่องรอยการต่อสู้และรื้อค้นทรัพย์สินหรือมีการเขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้แต่อย่างใด
จากการสอบสวน นายพิทักษ์ พันธกรกิติคุณ อายุ 32 ปี น้องชายผู้ตาย ให้การว่า น.ส.ณัชชา ผู้ตายพักอยู่ที่แมนชั่นแห่งนี้กับนายเชน ไฮลัน อายุ 42 ปี สามีใหม่สัญชาติจีน และลูกสาวที่ติดมาจากสามีเก่า ชื่อ ด.ญ.เค้ก (นามสมมติ) อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนอำนวยศิลป์บางแค ก่อนเกิดเหตุเมื่อตอนเช้าตรู่ขณะที่ตนกำลังเดินทางไปทำงาน น.ส.ณัชชาได้โทรศัพท์มาที่โทรศัพท์มือถือร้องไห้ฟูมฟาย บอกว่าจะพา ด.ญ.เค้ก ไปกระโดดสะพานลอยฆ่าตัวตายพร้อมกันสองแม่ลูก เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเงินโดยเฉพาะยังไม่ได้จ่ายค่าเทอมลูก จึงได้ห้ามปรามไว้ว่าให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวจะให้ภรรยาตนไปอยู่เป็นเพื่อนที่ห้อง จากนั้น น.ส.ณัชชาก็วางสายไปโดยที่ไม่มีใครติดต่อได้อีกเลย กระทั่งภรรยาตนเดินทางมาถึงพบว่าเจ้าตัวกระโดดระเบียงหลังห้องพักร่างกระแทกพื้นเสียชีวิตไปแล้ว
ต่อมา นายเชน สามีผู้ตายได้เดินทางมาดูศพ พร้อมให้การทั้งน้ำตาว่า ตนเดินทางเข้าประเทศไทยมาทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทแห่งหนึ่งย่านบางแค ได้ 5 ปีแล้ว ต่อมาก็รู้จักคบหากับ น.ส.ณัชชา ซึ่งขณะนั้นมีสถานะเป็นแม่หม้ายลูกติดจนตัดสินใจกินอยู่ด้วยกันประมาณ 3 ปี ปกติในช่วงเช้าจะเป็นคนเดินไปส่ง ด.ญ.เค้ก ที่โรงเรียนทุกวันแล้วค่อยนั่งรถเมล์ไปทำงาน ส่วนผู้ตายจะนอนตอนเช้าแล้วออกไปทำงานช่วงบ่ายกว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบเที่ยงคืน ที่ผ่านมาตนทั้ง 2 คนไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันเลย ไม่ทราบว่าเหตุใดผู้ตายจึงตัดสินใจแบบนี้รู้เพียงแค่ระยะหลังผู้ตายบ่นว่าไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมให้ลูก และกำลังทำเรื่องย้ายลูกกลับไปเรียนต่อที่ จ.ลำปาง บ้านเกิดกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์สลดเสียก่อน
ด้าน พ.ต.ท.ปรีชากล่าวว่า จากการสอบปากคำญาติในเบื้องต้นคาดว่าผู้ตายคงอยู่ในภาวะเครียดจึงตัดสินใจกระโดดแมนชั่นฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตามจะส่งศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช และเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสรุปสำนวนระบุสาเหตุการตายต่อไป
