ตำรวจกองปราบปรามติดตามจับกุมอดีตทหารอากาศ ที่ถูกไล่ออกจากราชการเพราะต้องคดีพยายามฆ่าทหารรุ่นพี่ โดยยึดอาชีพขับรถแท็กซี่หลังพ้นกำแพงคุกออกมา ทว่ากลับแอบอ้างตัวเป็นสารวัตรสืบ ขู่กรรโชกชิงทรัพย์ และขืนใจเหยื่อหญิงสาวมาไม่ต่ำกว่า 2-3 ราย
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.30 น. พต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ สว.กก.1 บก.ป.แถลงการจับกุม นายอาณัติ หรือหรั่ง สวียานนท์ อายุ 39 ปี อดีตทหารอากาศ ยศ พ.อ.อ.(พันจ่าอากาศเอก) ทหารนอกราชการ อยู่บ้านเลขที่ 9/171 หมู่ 1 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อาชีพขับรถแท็กซี่ ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 517/2554 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2554 ข้อหาชิงทรัพย์ในยวดยานสาธารณะ กระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ข่มขืนใจผู้อื่น และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพต่อร่างกาย โดยจับกุมได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ถนนเพชรเกษม หมู่ 4 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม ได้รับแจ้งเหตุจาก น.ส.หน่อย (นามสมมติ) อายุ 27 ปี อาชีพผู้ช่วยพยาบาล รับหน้าที่ดูแลคนชราย่านนวมินทร์ว่า ระหว่างที่โดยสารรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีส้ม ทะเบียน ทย 8252 กทม.จากที่หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อเดินทางไปที่ซอยนวมินทร์ 68 แต่โชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ นายอาณัติ กลับขับรถพาออกนอกเส้นทาง จากนั้นก็ข่มขู่รีดเอาทรัพย์สินพร้อมกับบังคับให้ น.ส.หน่อย ถอดเสื้อผ้าออกโดยอ้างตัวว่าเป็นสารวัตรสืบสวน สน.ลาดพร้าว จะขอตรวจค้นยาเสพติดและพยายามจะปลุกปล้ำข่มขืน เมื่อผู้เสียหายขัดขืนโชเฟอร์หื่นกามรายนี้ก็ชักอาวุธปืนกับกุญแจมือขึ้นมาข่มขู่
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวต่อว่า จากนั้นนายอาณัติใช้กำลังดึงตัว น.ส.หน่อย ให้ไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ ก่อนจะกระทำอนาจารตามร่างกายของผู้เสียหาย แล้วขับรถขึ้นทางด่วนวัชรพล-กาญจนาภิเษก แต่พอถึงด่านเก็บเงินค่าทางด่วน ผู้เสียหายจึงตัดสินใจเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีมาขอความช่วยเหลือกับตำรวจทางหลวง ระหว่างนั้นนายอาณัติ เห็นท่าไม่ดีจึงรีบขับรถหลบหนีไปด้วยความเร็ว ก่อนนำรถแท็กซี่คันก่อเหตุไปจอดทิ้งไว้ที่บริเวณถนนรังสิต-นครนายก เลียบคลอง 4 รังสิต ส่วนโทรศัพท์ของผู้เสียหายได้โยนทิ้งคลองไป
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวอีกว่า ต่อมาชุดจับกุม กก.1 บก.ป.ได้ร่วมกับตำรวจทางหลวง และตำรวจ สน.โคกคราม ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาล กระทั่งสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายอาณัติได้นำใบขับขี่ของน้องชาย คือ นายชัชชัย สวียานนท์ ซึ่งถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำ จ.เพชรบุรี มาสวมชื่อนำไปใช้เช่ารถแท็กซี่มาขับ และตระเวนก่อเหตุโดยจะอ้างตัวว่าเป็นนายตำรวจระดับสารวัตร ข่มขู่ กรรโชกทรัพย์และข่มขืนใจเหยื่อ
ด้าน นายอาณัติให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยรับราชการทหารอยู่ที่กองบิน 53 จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่เมื่อปี 2540 ถูกไล่ออกจากราชการเพราะก่อคดีคดีพยายามฆ่าทหารที่เป็นรุ่นพี่ ซึ่งคดีดังกล่าว ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก เป็นเวลา 8 ปี 7 เดือน และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2548 จากนั้นจึงหันมายึดอาชีพขับรถแท็กซี่ ทั้งนี้ก่อเหตุแล้ว 3 ครั้ง รายแรกเป็นผู้โดยสารหญิงสาวชาวต่างด้าว ซึ่งใช้วิธีแสดงตัวเป็นนายตำรวจข่มขู่ กรรโชกทรัพย์และกระทำชำเราเหยื่อ ได้เงิน 4,000 บาท รายที่สองก็เป็นต่างด้าวได้เงินมา 2,000 บาท ส่วนกรณีของ น.ส.หน่อย ยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืนเพียงแต่ใช้มือลวนลามเท่านั้น
นายอาณัติกล่าวด้วยว่า ยังมีโชเฟอร์แท็กซี่ที่มีพฤติการณ์เช่นเดียวกับตนอีกหลายรายโดยเฉพาะที่ขับรถรับส่งผู้โดยสารในพื้นที่ย่านปริมณฑลรอบ กทม. เช่น ย่านบิ๊กคิง-บิ๊กซี สาขาบางใหญ่ทั้งเข้าและออก เนื่องจากมีหญิงสาวและผู้โดยสารที่เป็นคนต่างด้าวมาใช้บริการหลายราย
จากการสอบถามเพื่อนแท็กซี่ในอู่เดียวกันยังพบว่าผู้ต้องหามักจะชอบนำทรัพย์สินมีค่ามาอวดอยู่เสมอๆ แต่ไม่เคยทราบว่าได้มาจากไหน อย่างไรก็ตาม หากผู้เสียหายที่ถูกโชเฟอร์หื่นกามรายนี้ลงมือก่อเหตุ สามารถเข้ามาชี้ตัว และแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้
นอกจากนี้ สำหรับผู้เสียหายที่เคยถูกกระทำการด้วยวิธีต่างๆ เหล่านี้ สามารถแจ้งเบาะแสมาที่ บก.ป. หรือที่สายด่วน 1195 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนติดตามกวาดล้างกลุ่มมิจฉาชีพที่อาศัยคราบคนขับรถแท็กซี่ลงมือก่อคดีอาชญากรรมเช่นนี้ให้หมดสิ้นไป จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.30 น. พต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ สว.กก.1 บก.ป.แถลงการจับกุม นายอาณัติ หรือหรั่ง สวียานนท์ อายุ 39 ปี อดีตทหารอากาศ ยศ พ.อ.อ.(พันจ่าอากาศเอก) ทหารนอกราชการ อยู่บ้านเลขที่ 9/171 หมู่ 1 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อาชีพขับรถแท็กซี่ ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 517/2554 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2554 ข้อหาชิงทรัพย์ในยวดยานสาธารณะ กระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ข่มขืนใจผู้อื่น และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพต่อร่างกาย โดยจับกุมได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ถนนเพชรเกษม หมู่ 4 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม ได้รับแจ้งเหตุจาก น.ส.หน่อย (นามสมมติ) อายุ 27 ปี อาชีพผู้ช่วยพยาบาล รับหน้าที่ดูแลคนชราย่านนวมินทร์ว่า ระหว่างที่โดยสารรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีส้ม ทะเบียน ทย 8252 กทม.จากที่หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อเดินทางไปที่ซอยนวมินทร์ 68 แต่โชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ นายอาณัติ กลับขับรถพาออกนอกเส้นทาง จากนั้นก็ข่มขู่รีดเอาทรัพย์สินพร้อมกับบังคับให้ น.ส.หน่อย ถอดเสื้อผ้าออกโดยอ้างตัวว่าเป็นสารวัตรสืบสวน สน.ลาดพร้าว จะขอตรวจค้นยาเสพติดและพยายามจะปลุกปล้ำข่มขืน เมื่อผู้เสียหายขัดขืนโชเฟอร์หื่นกามรายนี้ก็ชักอาวุธปืนกับกุญแจมือขึ้นมาข่มขู่
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวต่อว่า จากนั้นนายอาณัติใช้กำลังดึงตัว น.ส.หน่อย ให้ไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ ก่อนจะกระทำอนาจารตามร่างกายของผู้เสียหาย แล้วขับรถขึ้นทางด่วนวัชรพล-กาญจนาภิเษก แต่พอถึงด่านเก็บเงินค่าทางด่วน ผู้เสียหายจึงตัดสินใจเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีมาขอความช่วยเหลือกับตำรวจทางหลวง ระหว่างนั้นนายอาณัติ เห็นท่าไม่ดีจึงรีบขับรถหลบหนีไปด้วยความเร็ว ก่อนนำรถแท็กซี่คันก่อเหตุไปจอดทิ้งไว้ที่บริเวณถนนรังสิต-นครนายก เลียบคลอง 4 รังสิต ส่วนโทรศัพท์ของผู้เสียหายได้โยนทิ้งคลองไป
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวอีกว่า ต่อมาชุดจับกุม กก.1 บก.ป.ได้ร่วมกับตำรวจทางหลวง และตำรวจ สน.โคกคราม ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาล กระทั่งสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายอาณัติได้นำใบขับขี่ของน้องชาย คือ นายชัชชัย สวียานนท์ ซึ่งถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำ จ.เพชรบุรี มาสวมชื่อนำไปใช้เช่ารถแท็กซี่มาขับ และตระเวนก่อเหตุโดยจะอ้างตัวว่าเป็นนายตำรวจระดับสารวัตร ข่มขู่ กรรโชกทรัพย์และข่มขืนใจเหยื่อ
ด้าน นายอาณัติให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยรับราชการทหารอยู่ที่กองบิน 53 จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่เมื่อปี 2540 ถูกไล่ออกจากราชการเพราะก่อคดีคดีพยายามฆ่าทหารที่เป็นรุ่นพี่ ซึ่งคดีดังกล่าว ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก เป็นเวลา 8 ปี 7 เดือน และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2548 จากนั้นจึงหันมายึดอาชีพขับรถแท็กซี่ ทั้งนี้ก่อเหตุแล้ว 3 ครั้ง รายแรกเป็นผู้โดยสารหญิงสาวชาวต่างด้าว ซึ่งใช้วิธีแสดงตัวเป็นนายตำรวจข่มขู่ กรรโชกทรัพย์และกระทำชำเราเหยื่อ ได้เงิน 4,000 บาท รายที่สองก็เป็นต่างด้าวได้เงินมา 2,000 บาท ส่วนกรณีของ น.ส.หน่อย ยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืนเพียงแต่ใช้มือลวนลามเท่านั้น
นายอาณัติกล่าวด้วยว่า ยังมีโชเฟอร์แท็กซี่ที่มีพฤติการณ์เช่นเดียวกับตนอีกหลายรายโดยเฉพาะที่ขับรถรับส่งผู้โดยสารในพื้นที่ย่านปริมณฑลรอบ กทม. เช่น ย่านบิ๊กคิง-บิ๊กซี สาขาบางใหญ่ทั้งเข้าและออก เนื่องจากมีหญิงสาวและผู้โดยสารที่เป็นคนต่างด้าวมาใช้บริการหลายราย
จากการสอบถามเพื่อนแท็กซี่ในอู่เดียวกันยังพบว่าผู้ต้องหามักจะชอบนำทรัพย์สินมีค่ามาอวดอยู่เสมอๆ แต่ไม่เคยทราบว่าได้มาจากไหน อย่างไรก็ตาม หากผู้เสียหายที่ถูกโชเฟอร์หื่นกามรายนี้ลงมือก่อเหตุ สามารถเข้ามาชี้ตัว และแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้
นอกจากนี้ สำหรับผู้เสียหายที่เคยถูกกระทำการด้วยวิธีต่างๆ เหล่านี้ สามารถแจ้งเบาะแสมาที่ บก.ป. หรือที่สายด่วน 1195 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนติดตามกวาดล้างกลุ่มมิจฉาชีพที่อาศัยคราบคนขับรถแท็กซี่ลงมือก่อคดีอาชญากรรมเช่นนี้ให้หมดสิ้นไป จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดีต่อไป