xs
xsm
sm
md
lg

แพทย์หญิงโร่แจ้งความพี่น้อง กักขัง-พาไปเข้าพิธีแก้คุณไสย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พญ.วิภาดา ลีลากิจทรัพย์ อายุ 43 ปี พาแฟนหนุ่มเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม
แพทย์หญิง เข้าแจ้งความดำเนินคดี พี่ชายและน้องสาวตัวเองหน่วงเหนี่ยวกักขัง พาไปเข้าพิธีแก้คุณไสยแล้วนำไปอยู่บ้านพักไม่ให้ออกไปไหนนาน 2 วัน จึงปีนรั้วหลังบ้านหนีออกมาก่อนเข้าแจ้งความ คาดไม่พอใจที่ตนคบหา-อยู่กินกับแฟนหนุ่ม หรือเกรงจะเข้ามาฮุบกิจการคลินิกรักษาคนไข้ที่ขยายสาขาเพิ่มอีก 3 แห่ง

วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม พญ.วิภาดา ลีลากิจทรัพย์ อายุ 43 ปี เจ้าของคลินิกความงาม “รักษดา” ตั้งอยู่เลขที่ 65/29 ถนนคฑาธร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อมด้วยนายกันตพัฒน์ สัพโส อายุ 27 ปี สามี อยู่บ้านเลขที่ 200/181 หมู่ 5 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ไพรินทร์ แจ่มจำรัส พนักงานสอบสวน (สบ3) กก.5 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นพ.อดิศร ลีลากิจทรัพย์ นพ.วิวัฒน์ ลีลากิจทรัพย์ พี่ชาย และ พญ.อรวรรณ จิตต์กูลกุศล น้องสาว ที่ร่วมกันกักขังตัวไว้ภายในบ้านพักเลขที่ 80/17 ซอยประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 2 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20-23 มิ.ย.ที่ผ่านมา

พญ.วิภาดากล่าวว่า เมื่อช่วง 5 ทุ่มวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนพักอาศัยอยู่ที่ “เรือนไม้แก้ว” อพาร์ตเมนต์เช่ารายวันในพื้นที่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้มีตำรวจแต่งเครื่องแบบ 2 นาย พร้อมกับพี่น้องของตนใช้กุญแจสำรองของอพาร์ตเมนต์ ไขเข้ามาในห้องพักโดยไม่ได้แสดงหมายค้น หรือหมายจับใดๆ จากนั้นก็บอกว่าจะพาไปรับประทานอาหารแล้วจะพากลับมาส่งที่ห้อง หลังจากนั้นทั้งหมดกลับพาตนไปหาผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นอาจารย์แก้ไสยศาสตร์มนต์ดำ ที่สำนักแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณแยกปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมให้เข้าพิธีแก้คุณไสย โดยมีการลูบตัวตั้งแต่หน้าอกไปจนถึงปลายเท้า แม้ตนจะบอกว่าไม่ได้ถูกคุณไสยอะไร แต่ถูกยาป้ายทำให้รู้สึกเบลอๆ

พญ.วิภาดากล่าวต่อว่า หลังจากกลับออกมาพี่น้องตนก็พาไปที่บ้านพักที่เลขที่ 80/17 ซอยประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 2 แขวงและเขตลาดพร้าว ซึ่งเป็นบ้านเดิมของตนกับครอบครัว แต่ระหว่างนั้นก็ถูกกักขังตัวไว้ไม่สามารถออกไปไหนได้ ในขณะที่ทุกคนในบ้านรวมทั้งมารดาตนมีกุญแจไขเข้าออกบ้าน มีการนัดแนะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกมาหาตนได้

“เขาล็อกกุญแจไว้ที่ประตูบ้านและหน้าต่างทุกบานจนไม่สามารถออกไปไหนได้ ส่วนโทรศัพท์มือถือดิฉันก็ถูกน้องสาวใช้มีดอีโต้สับจนพังไม่สามารถติดต่อกับแฟนได้ แต่หลังจากถูกขังตัวกว่า 2 วันแล้ว จึงคิดหาทางหนีโดยปีนรั้วด้านหลังบ้านระหว่างที่ทุกคนในบ้านไม่อยู่ หลบหนีมาได้สำเร็จ ก่อนจะรีบมาหาแฟนและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ดิฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพี่น้องจึงต้องทำอะไรแบบนี้ ทั้งที่ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งอะไรกัน และไม่คิดว่าพวกเขาจะเชื่อเรื่องมนต์ดำหรือไสยศาสตร์ ที่ผ่านมาดิฉันทำงานได้เงินมาก็เอามาให้มารดาและแบ่งให้พี่น้องได้ใช้ด้วย” พญ.วิภาดากล่าว

ด้าน นายกันตพัฒน์กล่าวว่า สาเหตุที่ตนเชื่อว่าเป็นปมให้พี่น้องของ พญ.วิภาดาต้องรวมหัวกันทำเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะไม่ชอบพอตนมาตั้งแต่คบหาและแต่งงานอยู่กินกับ พญ.วิภาดา เนื่องจากเข้ามาช่วยเหลืองานในคลินิกและมีการปรับปรุงธุรกิจ ขยายธุรกิจโดยเปิดคลินิกขึ้นอีก 3 แห่งที่ จ.อุดรธานี จ.หนองคาย และ จ.ราชบุรี พร้อมกับเปิดโรงเรียนกวดวิชาในชื่อของตน ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปี กิจการก็มีแนวโน้มเป็นไปในทางที่ดี ตนเชื่อว่าเหตุนี้น่าจะทำให้พี่น้องของภรรยาเกรงว่าตนจะฮุบกิจการทั้งหมดไป

“ผมสงสัยว่าเหตุที่เกิดขึ้น พี่น้องของภรรยาน่าจะต้องการยึดกิจการคลินิกที่ราชบุรีเอาไว้เอง เพราะขณะนี้ก็มีการส่งคนของเขาเข้าไปทำงานที่คลินิกดังกล่าวแทนพนักงานของภรรยา นอกจากนี้ยังพบว่ามีการยักยอกเงินค่ารักษา มีการสั่งซื้อยาบางรายการ นำมาสวมกับของเดิมเพื่อเอาเงินกำไรแต่ผมไหวตัวทันจนต้องสั่งให้ปิดคลินิกไป 1-2 สัปดาห์ เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งน่าจะทำให้พี่น้องของภรรยาเกิดความไม่พอใจ” นายกันตพัฒน์กล่าว

นายกันตพัฒน์กล่าวด้วยว่า เดิมคลีนิกแห่งนี้จดทะเบียนนิติบุคคลมีชื่อภรรยาเป็นเจ้าของ ส่วนตนเป็นผู้เช่าอาคาร ซึ่งมีความคิดกันอยู่ว่าจะขอจดทะเบียนเป็นบริษัทในไม่ช้านี้เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตนรู้สึกเห็นใจภรรยาที่ต้องทำงานหนักอยู่คนเดียว ต้องรักษาคนไข้ที่มีนัดหมายในการรักษาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีเรื่องราวดังกล่าวจึงเกิดปัญหาทำให้ภรรยาต้องผิดนัดกับคนไข้ นอกจากนี้ ตลอดเวลาที่มีเรื่องราวพนักงานของคลีนิกก็ถูกข่มขู่จนไม่กล้าเป็นพยานให้ ตนเห็นว่าถ้าปล่อยเรื่องไว้ไม่แจ้งความ ภรรยาตนก็อาจถูกพาตัวไปกักขังอีก

ขณะที่ พ.ต.ท.ไพรินทร์กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้และสอบปากคำผู้เสียหาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นน่าจะเข้าข่ายความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น