ตร.ชนะสงคราม หิ้วสองผู้ต้องหาทีมฆ่า “นายกเจี๊ยบ” อบจ.ลพบุรี ฝากขังศาลอาญา ค้านประกัน ชี้คดีโทษสูง ความผิดร้ายแรงอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ
วันนี้(27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.45 น. ร.ต.ท.อนุรักษ์ บุญค้ำพงศ์ พนักงานสอบสวน(สบ1) สน.ชนะสงคราม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณฐกร คุ้มทรัพย์ รองผกก.สส.สน.ชนะสงคราม ได้ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหาในคดีสังหารนายสุธรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี ไปขออำนาจฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ท่ามกลางการคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคอมมานโด 191 เพื่อป้องกันการชิงตัวผู้ต้องหา
ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนสน.ชนะสงคราม ควบคุมตัวนายเอกชัย หรืออั้ม ป้อมเผด็จ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ซ.อิสรภาพ 29 บางกอกใหญ่ กทม.และนายตระกูล หรือกุ้ง ทองทิพย์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 ซ.อิสรภาพ 40 บางกอกใหญ่ กทม. ผู้ต้องหาที่ 1-2 ตามหมายจับศาลอาญา คดีร่วมกันฆ่านายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช หรือนายกเจี๊ยบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลพบุรี และพยายามฆ่านางอรพิน จิระพันธุ์วาณิช ภรรยาและ น.ส.ชณุตพร โพธิสมภาพวงษ์ เลขานุการนายสุบรรณ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 27 มิ.ย. - 8 ก.ค.นี้ เนื่องจากต้องสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 15 ปาก และรอผลตรวจสอบหัวกระสุน ปลอกกระสุนปืน ผลชันสูตรพลิกศพจากโรงพยาบาลวชิรพยาบาล และประวัติต้องโทษผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง คดีมีความผิดร้ายแรงอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ
คำร้องฝากขังระบุว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.54 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส. บช.น. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ภายหลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับ โดยเมื่อเกิดเหตุคนร้ายยิงใช้อาวุธปืนยิงนายสุบรรณ นายก อบจ.ลพบุรี นางอรพิน ภรรยา และ น.ส.ชณุตพร เลขาฯ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าร้าน เค.โอ.ติค. ซอยราชดำเนินพลาซ่า แล้วได้วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดรอหลบหนีไป ขณะที่นายสุบรรณได้เสียชีวิตที่ รพ.วชิรพยาบาล ส่วนนางอรพิน ภรรยา และ น.ส.ชณุตพร เลขาฯ แพทย์ผ่าตัดช่วยชีวิตไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนแล้วพบว่า นายสิระพงศ์ หรือต๋อง อาจเดช คือคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง โดยมีนายเอกชัย ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ขับขี่รถพาหลบหนี และมีนายวันชัย หรือกอล์ฟ โพธิปิติ และนายตระกูล ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้ชี้เป้า ในชั้นจับกุมและสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
วันนี้(27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.45 น. ร.ต.ท.อนุรักษ์ บุญค้ำพงศ์ พนักงานสอบสวน(สบ1) สน.ชนะสงคราม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณฐกร คุ้มทรัพย์ รองผกก.สส.สน.ชนะสงคราม ได้ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหาในคดีสังหารนายสุธรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี ไปขออำนาจฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ท่ามกลางการคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคอมมานโด 191 เพื่อป้องกันการชิงตัวผู้ต้องหา
ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนสน.ชนะสงคราม ควบคุมตัวนายเอกชัย หรืออั้ม ป้อมเผด็จ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ซ.อิสรภาพ 29 บางกอกใหญ่ กทม.และนายตระกูล หรือกุ้ง ทองทิพย์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 ซ.อิสรภาพ 40 บางกอกใหญ่ กทม. ผู้ต้องหาที่ 1-2 ตามหมายจับศาลอาญา คดีร่วมกันฆ่านายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช หรือนายกเจี๊ยบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลพบุรี และพยายามฆ่านางอรพิน จิระพันธุ์วาณิช ภรรยาและ น.ส.ชณุตพร โพธิสมภาพวงษ์ เลขานุการนายสุบรรณ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 27 มิ.ย. - 8 ก.ค.นี้ เนื่องจากต้องสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 15 ปาก และรอผลตรวจสอบหัวกระสุน ปลอกกระสุนปืน ผลชันสูตรพลิกศพจากโรงพยาบาลวชิรพยาบาล และประวัติต้องโทษผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง คดีมีความผิดร้ายแรงอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ
คำร้องฝากขังระบุว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.54 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส. บช.น. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ภายหลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับ โดยเมื่อเกิดเหตุคนร้ายยิงใช้อาวุธปืนยิงนายสุบรรณ นายก อบจ.ลพบุรี นางอรพิน ภรรยา และ น.ส.ชณุตพร เลขาฯ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าร้าน เค.โอ.ติค. ซอยราชดำเนินพลาซ่า แล้วได้วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดรอหลบหนีไป ขณะที่นายสุบรรณได้เสียชีวิตที่ รพ.วชิรพยาบาล ส่วนนางอรพิน ภรรยา และ น.ส.ชณุตพร เลขาฯ แพทย์ผ่าตัดช่วยชีวิตไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนแล้วพบว่า นายสิระพงศ์ หรือต๋อง อาจเดช คือคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง โดยมีนายเอกชัย ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ขับขี่รถพาหลบหนี และมีนายวันชัย หรือกอล์ฟ โพธิปิติ และนายตระกูล ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้ชี้เป้า ในชั้นจับกุมและสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้