บก.น.4 ขยายผลจับเพิ่มแก๊ง 8 เซียน ตระเวนทุบกระจกรถ ฉกทรัพย์สิน หลังก่อนหน้านี้จับกุม 3 ผู้ต้องหาที่ร่วมแก๊งได้ พร้อมยึดของกลางยาบ้า, รถยนต์, จยย., อาวุธปืน, สร้อยทอง และทรัพย์สินอื่นรวมมูลค่า 5 แสนบาท สารภาพเคยอยู่ในแก๊ง 8 เซียนแต่ไม่ลงรอยกันเลยแยกตัวออกมาตั้งแก๊งใหม่เที่ยวตระเวนทุบรถไปเรื่อย โดยเฉพาะแถวถนนรามอินทรา หัวหมาก และบางนา
วันนี้ (24 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ สน.บางชัน พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ดร.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.บางชัน พ.ต.ท.อดิศักดิ์ ชูพันธุ์ รอง ผกก.สส.สน.บางชัน แถลงข่าวจับกุม นายกิตติพงษ์ หรือเบียร์ พันธุ์หงส์ อายุ 24ปี นายสรศักดิ์ หรือวุฒิ หมั่นงาม อายุ 20 ปี นายอนุพงศ์ หรือดิว หรือตั้ม ศรีใส อายุ 24ปี น.ส.ทิพวรรณ หรือฟ้า บุญมาก อายุ 23 ปี และน.ส.สุภัตรา หรือเปิ้ล โล่ทอง อายุ 21 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 5,910 เม็ด ยาเคชนิดเกล็ด 1 ถุงเล็ก อาวุธปืน 2 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆ 33 นัด รถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว ทะเบียน ฎต 6134 กรุงเทพมหานคร รถยนต์นิสสัน เซฟิโร่ สีแดง ทะเบียน ฉข 646 กรุงเทพมหานคร จักรยานยนต์ฮอนด้า สกูปปี้ไอ สีชมพู-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีชมพู-ดำ ทะเบียน ลลว 688 กรุงเทพมหานคร จักรยานยนต์คาวาซากิ เคเอสอาร์ สีเขียว-ดำ ทะเบียน ลกข 438 กรุงเทพมหานคร กุญแจรถยนต์ กระเป๋าสตางค์ สร้อยคอทองคำ และทรัพย์สินมีค่าจำนวนมากรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท
พล.ต.ต.สุธีร์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.4ได้จับกุมตัวนายกิตติพงศ์ได้พร้อมยาบ้าจำนวน 5,800 เม็ด และรถนิสสันรุ่นเซฟิโร่ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จากนั้นนำตัวมาสอบสวนขยายผลจนทราบว่า นายกิตติพงศ์รู้จักกับผู้ต้องหาที่เหลือซึ่งเป็นแก๊ง 8 เซียน ที่คอยตระเวนทุบกระจกรถและลักทรัพย์ในหลายท้องที่ และเมื่อไม่นานมานี้ฝ่ายสืบสวน สน.มักกะสันก็เพิ่งจะจับกุมผู้ที่อยู่ในแก๊งนี้ได้ 3 คน และมีการแถลงข่าวไปแล้วด้วย จึงนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือได้พร้อมของกลางที่เหลือได้ที่ มาดารอยัลเพลส ซอยรามคำแหง 53 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.
จากการสอบสวน นายอนุพงศ์ให้การรับสารภาพว่า เคยอยู่ในแก๊ง 8 เซียนจริง แต่ได้แยกตัวออกมาก่อนที่พวกในแก๊งจะถูกตำรวจ สน.มักกะสันจับ เพราะไม่ลงรอยกัน หลังออกมาก็ออกมาตั้งแก๊งใหม่และชักชวนนายสรศักดิ์กับ น.ส.ทิพวรรณ และน.ส.สุภัตรามาอยู่ในแก๊งด้วย จากนั้นก็ร่วมกันออกตระเวนทุบกระจกรถที่เจ้าของรถวางทรัพย์สินเอาไว้ภายในรถ โดยใช้ไขควงงัดที่กระจกรถเพื่อไม่ให้สัญญาณกันขโมยดัง ทำมาแล้วหลายครั้งแต่ละครั้งได้ทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก พอได้มาแล้วก็จะมีคนมารับซื้ออีกทอดหนึ่ง ส่วนทรัพย์สินที่เห็นอยู่ตรงหน้าเป็นจำนวนมากก็เพราะยังไม่ทันได้เอาไปขายก็มาถูกจับก่อน และส่วนใหญ่จะตระเวนทุบกระจกรถไปเรื่อย โดยเฉพาะแถวถนนรามอินทรา หัวหมาก และบางนา
เบื้องต้นแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 (ยาเคชนิดเกล็ด) โดยไม่ได้รับอนุญาต กับนายกิตติพงษ์ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีต่อไป พร้อมกับขอฝากประชาสัมพันธ์ประชาชนที่เคยถูกก่อเหตุลักษณะดังกล่าวแล้วคิดว่าทรัพย์สินเหล่านี้เป็นของตนเอง ให้มาขอดูของกลางได้ที่ สน.บางชัน และสน.หัวหมาก
