ผกก.บางยี่ขัน เผยไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนกลุ่มอันธพาลตั้งแก๊งรีดไถนักเรียนวัยรุ่นภายในห้างดังย่านปิ่นเกล้าแต่อย่างใด ส่วนคดีที่นักเลงอันธพาลใช้มีดแทงเบ้าตานักเรียนจนทำให้ตาบอดสนิท ได้รับรายงานเพียงเบื้องต้น และได้สั่งการให้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี โยนห้างมี รปภ.ดูแลแล้ว ตร.คงทำอะไรไม่ได้มากเพราะเหตุเกิดภายในห้าง
วันนี้ (20 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.อดิศักดิ์ คุณพันธุ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน เปิดเผยถึงกรณี กลุ่มนักเลงอันธพาลตั้งแก๊งรีดไถเงินนักเรียนวัยรุ่น แล้วก่อเหตุใช้มีดแทงเข้าที่เบ้าตาจนทำให้บอดสนิท โดยเหตุเกิดภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปิ่นเกล้า ขณะที่ประชาชนกำลังเดินพลุกพล่าน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ตนได้รับรายงานเพียงเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งในส่วนของคดีก็ให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการคดีไปตามกฎหมายในการติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ซึ่งก็ต้องว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย อีกทั้งกรณีที่ผู้เสียหายกล่าวพาดพิงว่าก่อนหน้านี้เคยเข้าแจ้งความในลักษณะถูกกลุ่มดังกล่าวรีดไถเอาโทรศัพท์มือถือแบล็กเบอร์รีไปแล้วคดีไม่มีความคืบหน้านั้น พ.ต.อ.อดิศักดิ์กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากที่ผ่านมาตนยังไม่ได้รับรายงานว่ามีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวร้องเรียนผ่านมายังโรงพักแต่อย่างใด
พ.ต.อ.อดิศักดิ์ยังกล่าวว่า ในส่วนของมาตรการการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ที่เกิดเหตุนั้น ก็คงใช้มาตรการปกติ เพราะไม่สามารถทำอะไรได้มากนักเนื่องจากเหตุเกิดภายในห้างฯ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดูแลอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบภาพของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดภายในห้าง ขณะนี้ยังไม่มีความแน่ชัดเช่นกัน ทั้งนี้ในส่วนของรายละเอียดของคดีดังกล่าวมี ร.ต.ท.(หญิง) สุทธิดา เขียนศิริ พนักงานสอบสวน (สบ 1) เจ้าของคดี ปฏิเสธที่จะรับสายผู้สื่อข่าว
ด้านพ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ทรัพย์ละออ รอง ผกก.สส. สน.บางยี่ขัน กล่าวว่า ในส่วนของคดีความทางพนักงานสอบสวนส่งฟ้องศาลไปที่เรียบร้อยแล้วให้ดำเนินคดีไปตามกฏหมาย ส่วนผู้ต้องหาเป็นเยาวชน 2 คน อายุ14 กับ 16 ปี โดยเหตุที่เกิดขึ้นจากการทะเลาะวิวาท โดยกลุ่มผู้ต้องหาไปไถเงินกับกลุ่มที่ถูกแทงเลยทะเลากัน จนถูกรปภ.ควบคุมตัวเอาไว้ในที่เกิดเหตุ ก่อนที่ทั้ง2 ฝ่ายจะโทรตามพรรคพวกมา จนมีการใช้อาวุธมีดมาแทง โดย ตร.ตั้งข้อหาผู้ต้องหาอายุ14 ปี ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด ส่วนผู้ต้องหาอายุ 16 ปี ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุทำให้ได้รับอันตรายบาดเจ็บสาหัส
พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่าทาง ตร.ได้พยายามติดต่อผู้ปกครองของผู้ต้องหาทั้งสองแล้วแต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อใครได้ จึงไม่ได้มีการไกล่เกลี่ย และดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งสองไปก่อน ส่วนผู้เสียหายที่ถูกแทงเบ้าตา ตร.มีความเห็นใจเพราะบาดเจ็บสาหัส ก็จะพยายามประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยค่ารักษาพยาบาล ยืนยันว่า ตร.จะพยายามทำคดีให้เต็มที่
พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้ง2 คน แล้วพบว่าเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เป็นคดี เพราะไม่เคยทำร้ายร่างกาย จนครั้งนี้ที่ตกเป็นคดีความ ส่วนอาการบาดของคนถูกแทงได้เข้ารักษาตัวอยู่ที่รพ.ศิริราช แพทย์ได้ทำการผ่าตัดรักษาไปแล้ว 1 รอบ โดยในช่วงบ่ายวันนี้แพทย์จะดูอาการอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามดวงตาข้างที่ถูกแทงต้องเสียไปอย่างแน่นอน แต่ต้องดูก่อนว่าจะเก็บเอาไว้หรือต้องควักลูกตาออก
