“ฟิล์ม” ขึ้นศาลฟ้องหมิ่น “แอนนี่” มั่นใจชนะคดีให้ข่าวพ่อเด็ก!

“ฟิล์ม-รัฐภูมิ” ขึ้นศาลไต่สวนฟ้องหมิ่น “แอนนี่ บรู๊ค” เดินสายให้สัมภาษณ์เป็นพ่อเด็ก ขณะที่นักร้องหนุ่มยอมรับเคยมีสัมพันธ์แต่ป้องกันวิธีธรรมชาติ ย้ำให้ความช่วยเหลือฐานะเพื่อน หวังให้ความจริงปรากฏ ศาลนัดฟังคำสั่งรับฟ้องหรือไม่ 12 ก.ค.นี้ 09.30 น.

วันนี้ (18 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 804 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ คดีหมายเลขดำ อ.3670/2553 ที่นายรัฐภูมิ หรือฟิล์ม โตคงทรัพย์ นักร้องชื่อดังค่ายอาร์เอสโปรโมชั่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.รุ่งนภา แก้วไทรหาญ หรือแอนนี่ บรู๊ค นักแสดง ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 จากกรณีวันที่ 17-28 ก.ย.53 แอนนี่ บรู๊ค พา ด.ช.ฑีฆายุ เสฐฏภูมิ บุตรชาย สัมภาษณ์ออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ และตีสิบ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กล่าวหาว่า ฟิล์ม-รัฐภูมิ ไม่มีคุณธรรม ไม่มีความรับผิดชอบต่อจำเลย และบุตรชาย

โดยวันนี้ ฟิล์ม-รัฐภูมิ เดินทางมาเบิกความเป็นพยานด้วยตัวเอง สรุปว่า รู้จักและร่วมเล่นละครกับจำเลยในเรื่อง “ปีศาจแสนกล” ทางสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 เมื่อกลางปี 2552 ซึ่งรู้จักเป็นเพื่อนกับจำเลยในลักษณะที่ถูกใจกันเท่านั้น ขณะที่จำเลยกระทำการหมิ่นประมาทต่อโจทก์ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ก.ย.53 จำเลยอุ้ม ด.ช.ฑีฆายุ บุตรไปสัมภาษณ์สดในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กล่าวหาว่าโจทก์เป็นพ่อและให้เลี้ยงลูกเพียงลำพัง ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 27-28 ก.ย.53 จำเลยให้สัมภาษณ์ในรายการตีสิบ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ทำนองว่าโจทก์ไม่มีความรับผิดชอบ และโจทก์ยังให้คำมั่นสัญญากับจำเลยว่าให้อดทนเพราะว่าเป็นแม่ของลูก การแต่งงานไม่ใช่เรื่องสำคัญ การอยู่ด้วยกันสำคัญกว่า โดยช่วงที่ ด.ช.ฑีฆายุเกิดก็ไม่ได้แจ้งชื่อบิดาในใบแจ้งเกิด ซึ่งล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น

ฟิล์ม รัฐภูมิ ยังเบิกความด้วยว่า แม้ว่าโจทก์กับจำเลยจะมีความสัมพันธ์กัน 3 ครั้ง ระหว่างกลางเดือน ส.ค.ถึง 13 ก.ย.52 แต่ก็ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ ขณะที่หลังจากนั้นโจทก์ได้รับรู้เรื่องราวของจำเลยมากขึ้น ประกอบกับคนในวงการเตือนว่าอย่าไปยุ่งกับจำเลย โจทก์จึงพยายามออกห่าง ซึ่งหลังจากปรากฏข่าวทำนองว่าโจทก์ทำให้จำเลยท้อง มารดาโจทก์ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล ส่วนโจทก์ก็เครียดทำให้กินยาเกินจนต้องเข้าโรงพยาบาลเช่นกัน ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว โจทก์ไม่สามารถทำงานใดๆ ได้ จึงตัดสินใจไปบวชเป็นเวลา 25 วัน และหลังจากสึกออกมาผู้สื่อข่าวก็ยังคงติดตามสัมภาษณ์ รวมทั้งมูลนิธิ องค์กรต่างๆ ก็ออกมาต่อว่าจนนายสรุชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือเฮียฮ้อ ผู้บริหารบริษัท อาร์เอสฯ จัดแถลงข่าวถึงพฤติกรรมของจำเลยว่าคบหากับผู้ชายหลายคนซึ่งได้รับข้อมูลมาจากนายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ว่ามีนักแสดงในสังกัดเคยถูกกระทำเช่นนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีนักแสดงที่เคยเป็นแฟนกับจำเลยออกมาให้ข่าวว่าเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ก็เคยถูกกระทำลักษณะเดียวกัน ขณะที่หลังจากมีการฟ้องคดีกัน มีผู้หวังดีแต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อโทรศัพท์คุยกับโจทก์ว่าเคยถูกจำเลย กล่าวหาว่าเป็นพ่อของเด็ก จนต้องโอนเงินให้ 200,000 บาท พร้อมนำสำเนาสลิปการโอนเงิน และใบตรวจครรภ์ มอบให้ไว้ ที่ปรากฏว่ามาโอนเงินกันในวันที่ 12 ก.ย.52 ซึ่งตรงกับวันที่โจทก์มีสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับจำเลยในครั้งที่ 2

ขณะที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ โจทก์ ตอบทนายจำเลยถามค้าน ยอมรับว่าเคยให้เงินแก่จำเลยเมื่อเดือน พ.ค.53 จำนวน 150,000 บาท เพื่อเป็นค่าทำคลอด แล้วเดือน ก.ค.53 ยังโอนเงินให้อีก 30,000 บาท เมื่อ ด.ช.ฑีฆายุ อายุครบ 1 เดือน ส่วนมารดาได้ซื้อทองคำให้ด้วย และเดือน ส.ค.-ก.ย.53 ยังโอนเงินให้ 65,000 บาท เป็นค่ารักษาอาการป่วยของ ด.ช.ฑีฆายุ ซึ่งมารดาโจทก์แนะนำว่าให้ความช่วยเหลือแก่จำเลยก่อน โดยไม่ต้องคิดว่าใครเป็นพ่อ แต่บางครั้งจำเลยจะโทรศัพท์บอกโจทก์ว่ากำลังลำบาก ในฐานะเพื่อนโจทก์จึงโอนเงินให้ กระทั่งวันที่ 16 ก.ย.53 ก็มีข่าวครึกโครม แล้ววันที่ 17 ก.ย.53 โจทก์ได้ออกมาแถลงข่าวด้วยตัวเองว่า พร้อมจะตรวจดีเอ็นเอเพราะมั่นใจว่าไม่ใช่พ่อของเด็กอย่างแน่นอน และอยากให้ประชาชนทั่วไปทราบด้วย ซึ่งการที่โจทก์ไม่แถลงบอกว่าไม่ได้เป็นพ่อของเด็ก ก็เพราะกลัวว่าฝ่ายจำเลยจะเสียหาย

ภายหลังไต่สวนฟิล์ม รัฐภูมิ เสร็จสิ้นแล้ว ทนายโจทก์แถลงหมดพยาน ศาลจึงนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องคดีนี้หรือไม่ วันที่ 12 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น.

ภายหลังเสร็จสิ้นการเบิกความ ฟิล์ม รัฐภูมิ นักร้องชื่อดังกล่าวว่า ตนได้เบิกความแล้ว ซึ่งหวังว่าจะให้ความจริงปรากฏออกมา สำหรับความเบิกความที่ตนได้กล่าวต่อศาลนั้นมีรายละเอียดแตกต่างกับส่วนของแอนนี่ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ปรากฏในศาลไม่ขอพูดอะไร ส่วนเรื่องจะตรวจดีเอ็นเออีกหรือไม่ ยังไม่ได้คิดอะไร

ขณะเดียวกัน ฟิล์มยังกล่าวปฏิเสธกรณีที่นายสมยศ ศรีสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทบ้านบันเทิงอ้างว่าเป็นผู้ชักนำนายรัฐภูมิเข้าวงการด้วย ซึ่งวันนี้นายสมยศได้มาดักรอพบนักร้องหนุ่มพร้อมระบุต้องการให้ฟิล์มพูดความจริง ซึ่งได้เดินเข้าไปตำหนิฟิล์ม รัฐภูมิ ขณะที่นักร้องชื่อดังได้แต่สวัสดีทักทาย ก่อนเดินเลี่ยงขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดีทันที ซึ่งต่อมานายสมยศได้ขอตัวกลับก่อนระหว่างที่ฟิล์มต้องขึ้นห้องพิจารณาคดีเบิกความ

ซึ่งนักร้องหนุ่มระบุว่า ไม่อยากพูดอะไร เพราะพูดไปก็เท่านั้น ซึ่งคนที่เป็นผู้ชักนำตนคือ พี่พจน์ อานนท์ (อานนท์ มิ่งขวัญตา) และก็มีเฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ที่ดูแลงาน ที่ทุกคนก็รู้ดีก็คงไม่ต้องเคลียร์อะไรและไม่กลัวว่าจะต้องมีการนำอะไรออกมาเปิดเผยด้วย พร้อมทั้งปฏิเสธข่าวการจะย้ายค่ายร่วมงานกับแกรมมี่ด้วย

ด้านนายสุพรรณ เสือหาญ ทนายความ กล่าวว่า ศาลนัดฟังคำสั่งในวันที่ 12 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น. ส่วนศาลจะมีคำสั่งอย่างไรเป็นดุลยพินิจ แต่เราได้นำเสนอข้อเท็จจริงไปแล้ว ซึ่งหากศาลจะมีคำสั่งอย่างไรเราก็เตรียมแผนอื่นที่จะดำเนินการไว้แล้ว