ศาลไต่สวนมูลฟ้องครั้งแรกคดี “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ฟ้องหมิ่น “แอนนี่ บรู๊ค” โดยทั้งสองไม่ได้มาศาล แต่ส่งทนายรับมอบอำนาจจากฟิล์ม ร่วมกับ “สมรักษ์” ผู้บริหารช่อง 3 ประเดิมเบิกความ รอ “ฟิล์ม” กลับจากอังกฤษมาเบิกความอีกครั้ง 5 มี.ค.นี้
วันนี้ (22 ม.ค.) เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 611 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ครั้งแรก คดีดำหมายเลข อ.3670/2553 ที่ นายรัฐภูมิ หรือฟิล์ม โตคงทรัพย์ นักร้องและนักแสดงชื่อดังสังกัดค่ายอาร์เอส จำกัด (มหาชน) มอบอำนาจให้นายนพดล ลิขิตสัจจากุล ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.รุ่งนภา แก้วไทรหาญ หรือแอนนี่ บรู๊ค นักแสดงสาวและนางเอกภาพยนตร์ “เชอร์รี่ แอน” เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328โดยคดีนี้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 8 พ.ย.53 ระบุว่า ระหว่างวันที่ 17 ก.ย. - 28 ก.ย. 53 จำเลยนำบุตรชายไปให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทำนองว่าโจทก์เป็นผู้ชายที่ไม่มีคุณธรรม ไม่รับผิดชอบต่อจำเลยและบุตร ซึ่งเป็นความเท็จ เพราะบุตรของจำเลยไม่ใช่บุตรของโจทก์ เนื่องจากโจทก์กับจำเลยคบหากันได้เพียงเดือนเศษ และมีความสัมพันธ์กันเพียง 3 ครั้งเท่านั้น โดยใช้วิธีคุมกำเนิด
โดยวันนี้ ทั้งฟิล์ม รัฐภูมิ และแอนนี่ บรู๊ค ไม่ได้เดินทางมาศาล คงมีแต่ทนายความ ซึ่งขณะนี้ฟิล์ม รัฐภูมิ โจทก์เดินทางไปประเทศอังกฤษ แต่มีนายนพดล ลิขิตสัจจากุล ทนายความซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทอาร์เอสฯ ผู้รับมอบอำนาจในการยื่นฟ้อง เดินทางมาเบิกความเป็นพยาน ร่วมกับนายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการช่อง 3
ทั้งนี้ การไต่สวนทนายได้ซักถามนายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการช่อง 3 ประเด็นที่มีการพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ของแอนนี่ บรู๊ค จำเลย กับนายกิตติคุณ หรือจุ๊น สัมฤทธิ์พันธ์สุข นักแสดงซึ่งเคยเซ็นสัญญาการแสดงกับสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 ซึ่งนายสมรักษ์เบิกความว่าได้เป็นคนโทร.ถามจุ๊น กิตติคุณเองในฐานะที่พยานเป็นหัวหน้างานต้องดูแลดาราในสังกัด โดยไม่มีใครสั่ง เพราะหลังจากฟิล์มและแอนนี่ต่างแถลงข่าวก็มีการพาดพิงถึงดาราช่อง 3 โดยจุ๊นยอมรับกับพยานว่าเคยมีความสัมพันธ์กับแอนนี่จริง และครั้งสุดท้ายที่นายกิตติคุณพบแอนนี่ ช่วงเดือน พ.ย.52 ในงานคอนเสิร์ตที่ จ.จันทบุรี พร้อมยังเล่าถึงการคุมกำเนิดด้วยยาคุม 2 เม็ด และได้ปฏิเสธเรื่องบุตรของแอนนี่ โดยที่พยานเชื่อคำบอกเล่าของนายกิตติคุณเพราะเป็นการถามโดยตรงกับเจ้าตัว ไม่มีพยานอื่นยืนยันเรื่องความสัมพันธ์ดังกล่าว แต่ภายหลังนายกิตติคุณได้แถลงข่าวปฏิเสธเรื่องความสัมพันธ์กับแอนนี่แล้วต่อมามอบให้ทนายความยื่นหนังสือยกเลิกสัญญาสังกัดการแสดงกับสถานี
ขณะที่นายนพดล ทนายความรับมอบอำนาจจากฟิล์ม รัฐภูมิ เบิกความว่า โจทก์บอกกับพยานเองว่าเคยมีเพศสัมพันธ์กับจำเลยเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ช่วงก่อนเดือน ก.ย.52 หนึ่งครั้ง และเดือน ก.ย.52 อีก 2 ครั้งและคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ โดยหลังจากทราบว่าจำเลยคบหาผู้ชายอื่นด้วยจึงไม่ได้กลับไปหาอีก และโจทก์บอกด้วยว่าเมื่อจำเลยบอกว่าตั้งครรภ์ ยังได้นำเรื่องไปเล่าให้มารดาโจทก์ฟังแล้วถูกตำหนิว่าอย่าทำอะไรกดดันจำเลย เพราะเกรงว่าจะไปทำแท้งแต่ให้ช่วยเหลือเท่าที่ช่วยได้ เนื่องจากเมื่อคลอดบุตรมาแล้วก็ยังตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอได้ ซึ่งโจทก์ก็เคยแถลงข่าวว่าพร้อมจะตรวจดีเอ็นเอ ส่วนที่จำเลยเคยให้สัมภาษณ์ในรายการตีสิบว่า เมื่อคลอดบุตรไม่ได้ใส่ชื่อใครเป็นบิดานั้นเป็นความเท็จ เพราะพยานได้รับสำเนาใบรับรองการคลอดที่ระบุชื่อโจทก์ เป็นบิดาของบุตรจำเลยที่ลงวันที่เกิดเมื่อ 28 มิ.ย.53
โดยนายนพดลยังได้ตอบคำถามซักค้านของทนายของแอนนี่ด้วยว่า ไม่ทราบว่าการแจ้งเกิดจะต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน หรือทะเบียนของผู้เป็นบิดาหรือไม่ และไม่ทราบว่าโจทก์เคยให้สำเนาบัตรประชาชนกับจำเลยไว้ ทราบเพียงว่าโจทก์เคยโอนเงินให้จำเลยหลักแสนบาท และช่วงคลอดที่จำเลยแจ้งกับโจทก์ขอเงิน 50,000 บาท ที่บอกว่าบุตรชายป่วย
เมื่อทนายความของแอนนี่ถามย้ำว่า จนถึงวันนี้พยานยังไม่ทราบว่าเรื่องระหว่างโจทก์-จำเลยเป็นจริงหรือเป็นเท็จใช่หรือไม่ นายนพดล ตอบว่าไม่ทราบ แต่ถ้าจะยืนยันว่าจริงหรือเท็จ ก็ต้องตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์หาดีเอ็นเอ