รวบนายพลกำมะลอ แต่งเครื่องแบบเบ่ง เพื่อช่วยลูกชายผลตรวจปัสสาวะสีม่วง โดยมีนายพลตัวจริง สังกัดหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือ เจอพิรุธเมื่อเช็กแล้วไม่มีชื่อนายพลเก๊ เลยล่อให้มาโรงเรียนลูกชายอีกครั้ง แล้วควบคุมตัวดำเนินคดี เจ้าตัวสารภาพเคยเป็นทหารเรือยศพันจ่าเอก แล้วลาออกไปปี 2549 ทำเพราะแต่งแล้วได้รับความสะดวกจากทางโรงเรียน ทำให้ฝากลูกเข้าเรียนได้สำเร็จ
วันนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ สน.บางกอกน้อย นาวาเอกทินกร กาญจนเตมีย์ รองผบ.กรมสารวัตรทหารเรือ พร้อมด้วย นายเติมพล อินทรมะยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปกครองโรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย ได้ควบคุม นายดำรง ศรีทรงเมือง อายุ 58 ปี อดีตทหารเรือสังกัดโรงเรียนนายเรือสมุทรปราการ ยศพันจ่าเอก ซึ่งแต่งกายเป็นนายทหารยศ พลเรือตรี เข้ามาพบ พ.ต.ท.กิติศักดิ์ สุวรรณรัตน์ พงส.(สบ2) สน.บางกอกน้อย
จากการสอบสวน นายเติมพล ให้การว่า ก่อนหน้านี้ ทางโรงเรียนได้ทำการสุ่มตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดของนักเรียน พบว่า นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนายดำรง นั้น มีผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันประชุมผู้ปกครอง และตนก็ได้นัดนายดำรงเข้ามาพูดคุยเรื่องของลูกชาย จากนั้นนายดำรงได้แต่งกายชุดเครื่องแบบนายทหารเรือเข้ามาพบตน ซึ่งในวันดังกล่าวมีนายทหารหลายระดับเข้าร่วมประชุมอยู่ด้วย กระทั่งมีนายทหารท่านหนึ่งสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงได้สอบถามตนว่านายดำรง เป็นนายทหารสังกัดใด ตนจึงบอกว่า เป็นนายทหารยศนายพลสังกัดหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือ (นักประดาน้ำรุ่นกบ) ซึ่งนายทหารคนดังกล่าวก็อยู่รุ่นเดียวกัน จึงได้ทำการตรวจสอบ แต่ไม่ปรากฏชื่อของนายดำรงอยู่ในรุ่น จากนั้นนายทหารคนเดียวกันให้ตนนัดหมายนายดำรง เข้ามาพบที่โรงเรียนในวันนี้อีกครั้ง ก่อนจะควบคุมตัวมาทำการสอบปากคำที่ สน.
ด้าน นายดำรง ให้การว่า ตนเป็นอดีตทหารเรือยศพันจ่าเอก สังกัดโรงเรียนนายเรือสมุทรปราการ ได้ลาออกจากราชการเมื่อ พ.ศ.2549 ยอมรับว่า ที่แต่งกายเป็นนายพลปลอมนั้น เป็นความจริง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งแรกแต่งชุดนายพลมาฝากลูกเข้าเรียนจนสำเร็จ ส่วนครั้งที่ 2 ได้แต่งกายยศนายพลเข้ามาคุยกับอาจารย์เรื่องลูกมีผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง โดยได้นำหลักฐานเป็นยา ซึ่งลูกชายต้องกินเป็นประจำ เนื่องจากเป็นโรคสมาธิสั้น ซึ่งเป็นมานานหลายปีแล้ว จึงส่งผลให้ผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง ส่วนที่แต่งกายเป็นนายทหารยศนายพล เนื่องจากตนเชื่อว่าจะได้รับการอำนวยความสะดวกจากทางโรงเรียน ก่อนจะถูกจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาสวมเครื่องแบบ หรือประดับยศเครื่องหมายของเจ้าพนักงานซึ่งไม่มีสิทธิ์ใช้ยศตำแหน่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือสิ่งเครื่องหมายราชอิสริยาภรณ์กระทำการเช่นนั้น เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ์ ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ สน.บางกอกน้อย นาวาเอกทินกร กาญจนเตมีย์ รองผบ.กรมสารวัตรทหารเรือ พร้อมด้วย นายเติมพล อินทรมะยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปกครองโรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย ได้ควบคุม นายดำรง ศรีทรงเมือง อายุ 58 ปี อดีตทหารเรือสังกัดโรงเรียนนายเรือสมุทรปราการ ยศพันจ่าเอก ซึ่งแต่งกายเป็นนายทหารยศ พลเรือตรี เข้ามาพบ พ.ต.ท.กิติศักดิ์ สุวรรณรัตน์ พงส.(สบ2) สน.บางกอกน้อย
จากการสอบสวน นายเติมพล ให้การว่า ก่อนหน้านี้ ทางโรงเรียนได้ทำการสุ่มตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดของนักเรียน พบว่า นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนายดำรง นั้น มีผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันประชุมผู้ปกครอง และตนก็ได้นัดนายดำรงเข้ามาพูดคุยเรื่องของลูกชาย จากนั้นนายดำรงได้แต่งกายชุดเครื่องแบบนายทหารเรือเข้ามาพบตน ซึ่งในวันดังกล่าวมีนายทหารหลายระดับเข้าร่วมประชุมอยู่ด้วย กระทั่งมีนายทหารท่านหนึ่งสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงได้สอบถามตนว่านายดำรง เป็นนายทหารสังกัดใด ตนจึงบอกว่า เป็นนายทหารยศนายพลสังกัดหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือ (นักประดาน้ำรุ่นกบ) ซึ่งนายทหารคนดังกล่าวก็อยู่รุ่นเดียวกัน จึงได้ทำการตรวจสอบ แต่ไม่ปรากฏชื่อของนายดำรงอยู่ในรุ่น จากนั้นนายทหารคนเดียวกันให้ตนนัดหมายนายดำรง เข้ามาพบที่โรงเรียนในวันนี้อีกครั้ง ก่อนจะควบคุมตัวมาทำการสอบปากคำที่ สน.
ด้าน นายดำรง ให้การว่า ตนเป็นอดีตทหารเรือยศพันจ่าเอก สังกัดโรงเรียนนายเรือสมุทรปราการ ได้ลาออกจากราชการเมื่อ พ.ศ.2549 ยอมรับว่า ที่แต่งกายเป็นนายพลปลอมนั้น เป็นความจริง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งแรกแต่งชุดนายพลมาฝากลูกเข้าเรียนจนสำเร็จ ส่วนครั้งที่ 2 ได้แต่งกายยศนายพลเข้ามาคุยกับอาจารย์เรื่องลูกมีผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง โดยได้นำหลักฐานเป็นยา ซึ่งลูกชายต้องกินเป็นประจำ เนื่องจากเป็นโรคสมาธิสั้น ซึ่งเป็นมานานหลายปีแล้ว จึงส่งผลให้ผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง ส่วนที่แต่งกายเป็นนายทหารยศนายพล เนื่องจากตนเชื่อว่าจะได้รับการอำนวยความสะดวกจากทางโรงเรียน ก่อนจะถูกจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาสวมเครื่องแบบ หรือประดับยศเครื่องหมายของเจ้าพนักงานซึ่งไม่มีสิทธิ์ใช้ยศตำแหน่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือสิ่งเครื่องหมายราชอิสริยาภรณ์กระทำการเช่นนั้น เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ์ ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป