มือปืน 2 ศพ ที่ก่อเหตุยิงวัยรุ่นดับเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว อ้างถูกรุมกระหน่ำทุบตีก่อน จึงจำต้องชักปืนออกมาป้องกันตัว เผยเหตุ เพื่อนชวนไปรับสาวที่ติดต่อกันทางบีบีมานั่งดิ่มกิน แต่ถูกกลุ่มผู้ตายกว่า 10 คนดักเล่นงานก่อน
วันนี้ (13 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น.แถลงข่าวการเข้ามามอบตัวของนายเอกรินทร์ สุขสาคร อายุ 21 ปี ชาว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นบริเวณวัดบางกระดี่ ถนนบางกระดี่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน เป็นเหตุให้ นายสิทธิชาติ พุกรัตกุด อายุ 17 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.ปี 1 โรงเรียนอาชีวศึกษาธนบุรี และนายชุมพร สาหร่ายทอง อายุ 25 ปี ถึงแก่ความตาย ส่วน นายณัฐกิตติ์ แจ้งสว่าง อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อกลางดึกวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อกล็อคจำนวน 1 กระบอกและเครื่องกระสุนอีก 10 นัด
พล.ต.ต.อิทธิพล เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.54 ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นบริเวณวัดบางกระดี่ ถนนบางกระดี่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย โดยชนวนเหตุเกิดขึ้นเพราะความหึงหวงที่ฝ่ายเพื่อนผู้ตายจับได้ว่าแฟนสาวแอบติดต่อกับฝ่ายมือปืนทางบีบี ทำให้มีการนัดเจอกันในที่เกิดเหตุก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งหลังจากเกิดเหตุนายเอกรินทร์ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่ บก.สส.บช.น.เมื่อเวลา 12.00 น.ส่วนนายสุระผู้ต้องหาอีกรายนายเอกรินทร์ให้การว่าอยู่ระหว่างการรักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ.ขอนแก่น-รามฯ แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่เดินทางไปอายัดตัวมาดำเนินคดีก็พบว่านายสุระได้หลบหนีไปแล้ว จึงได้ติดต่อไปหาผู้ปกครองของนายสุระ ซึ่งได้ข้อมูลว่าจะรีบนำตัวบุตรหลานมามอบตัวกับตำรวจในเร็วๆ นี้
จากการสอบสวน นายเอกรินทร์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อม นายสุระ พรมมาลี อายุ 17 ปี ได้พากันขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว ทะเบียน ฎช 1446 กรุงเทพมหานคร ยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุไปนั่งกินดื่มในร้านซิงค์บาร์ ย่านพุทธมณฑลสาย 4 จากนั้นนายสุระ จึงขอกุญแจรถจากตนไปขับให้ตนนั่งไปเป็นเพื่อนไปที่วัดบางกระดี่ โดยบอกว่า จะไปรับหญิงสาวชื่อมุข ที่ติดต่อกันผ่านทางบีบีมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์มานั่งดื่มกินด้วย แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับมีวัยรุ่นประมาณ 10 คน ดักรออยู่แล้วโดยวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้กรูกันเข้ามารุมทำร้ายใช้ไม้ตีตนกับนายสุระจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อเห็นว่าสู้ไม่ไหวจึงตัดสินใจหยิบอาวุธปืนที่นำติดรถไปด้วยออกมากระหน่ำยิงใส่คู่อริเป็นการป้องกันตัว แล้วรีบพากันขับรถหลบหนีออกมาอย่างรวดเร็ว
นายเอกรินทร์ กล่าวอีกว่า ตน และ นายสุระ ต่างก็ได้รับบาดเจ็บมาก จึงรีบเดินทางกลับไปที่บ้านพักที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เพื่อตั้งหลัก ก่อนให้เพื่อนๆ พาขับรถหลบหนีไปกบดานในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จากนั้นได้พาตัวนายสุระ ซึ่งอาการค่อนข้างสาหัสถูกตีจนกรามหักและกะโหลกร้าวเข้ารักษาตัวที่ รพ.ขอนแก่น-รามาฯ แพทย์ให้นอนพักในห้องเลขที่ 915 ส่วนตนได้พูดคุยกับญาติแล้วเห็นว่าน่าจะเข้ามอบตัวกับตำรวจเนื่องจากตนถูกทำร้ายก่อนเลยต้องชักปืนออกมายิงเพื่อป้องกันตัวดังนั้นจึงตัดสินใจนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเดินทางกลับเข้ามามอบตัวกับตำรวจที่ บก.สส.บช.น.ในวันนี้
ด้าน พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว พบว่า เป็นปืนมีทะเบียนถูกต้องซึ่ง นายเอกรินทร์ อ้างว่าที่บ้านทำธุรกิจสวนดอกไม้จำเป็นต้องมีอาวุธปืนไว้เฝ้าทรัพย์สิน จึงได้ขอซื้อปืนต่อเจ้าของเดิมมาในราคา 65,000 บาท แต่ขณะนี้ยังไม่ได้โอนเป็นชื่อตัวเอง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะต้องริบไว้เป็นของกลางเพื่อส่งไปตรวจว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่ และจะต้องเชิญตัวเจ้าของปืนมาทำการสอบปากคำด้วย ส่วนนายเอกรินทร์ จะถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เทียนทะเล ดำเนินคดีต่อไป
