นครบาลแถลงจับมือปาหินรถแท็กซี่ เจ้าตัวอ้างทำเพราะทะเลาะกับแฟน แล้วแฟนวิ่งขึ้นรถคันเกิดเหตุ เมื่อให้หยุด แต่รถไม่ยอมหยุดเลยปาเข้าไปโดนทั้งแฟน และคนขับได้รับบาดเจ็บ ภายหลังแถลงข่าวโชเฟอร์แท็กซี่ไม่พอใจตำรวจแจ้งข้อหาเบากับผู้ต้องหา จึงตะโกนด่าอย่างไม่พอใจ แถมขับรถเร่งเครื่องเสียงดังวนหน้าตึก บช.น.เปิดไฟบีบแตรดังลั่น ร้องไห้ฟูมฟายโวยตำรวจรังแกประชาชน สุดท้ายเจอตำรวจควบคุมตัวไปเสียค่าปรับที่ สน.ดุสิต
วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พร้อม พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผกก.สน.มักกะสัน แถลงผลการจับกุม นายภาณุพงศ์ ล้อมวงศ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 660/240 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.ผู้ต้องหาที่ใช้ก้อนหินปารถแท็กซี่ของ นายพงษ์พิชาญ ธนาภิรพงศ์ จนได้รับบาดเจ็บไหล่ด้านขวา จึงเข้าไปร้องเรียน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และจอดรถขวางขบวนรถหาเสียงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อร้องเรียนเรื่องนี้
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนในในคดีนี้ มีการติดตามผู้ต้องหาโดยตลอด พร้อมทั้งมีการออกหมายจับของศาลอาญาที่ 716/2554 ลงวันที่ 3 พ.ค.แต่ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน จึงสืบสวนจับกุมผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดี และให้การรับสารภาพ พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส
ทางด้าน นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุได้มีปากเสียงกับ น.ส.ชลธิชา หรือ นิ้ง แสนสุข แฟนสาวจากนั้น น.ส.ชลธิชา ก็ขึ้นรถแท็กซี่ของ นายพงษ์พิชาญ ออกมาจากย่านอาร์ซีเอพร้อมกับเพื่อน ตนจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ พร้อมกับเพื่อนตามมาจนถึงบริเวณวัดอุทัยธาราม และพยายามเรียกให้ น.ส.ชลธิชา ลงมาจากรถ แต่รถแท็กซี่ไม่ยอมจอด จึงหยิบก้อนหินปาใส่รถ ปรากฏว่า ก้อนหินพลาดไปถูก นายพงษ์พิชาญ บาดเจ็บบริเวณไหล่ขวา และก้อนหินยังถูกหน้าของ น.ส.ชลธิชา จนบาดเจ็บเย็บ 4 เข็ม จึงขับรถหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว นายพงษ์พิชาญ แท็กซี่ผู้เสียหาย ได้แสดงท่าทีไม่พอใจ และลุกขึ้นมาโวยวายเสียงดังเอะอะ ว่า ทำไมตำรวจ จึงแจ้งแค่ข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมอ้างว่า ก่อนหน้านี้ ที่ลูกเขยและลูกสาวของตน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท จับในข้อหาครอบครองยาเสพติด ก็เพราะเจ้าหน้าที่ยัดของกลางให้ พล.ต.ต.วิชัย จึงให้เจ้าหน้าที่เปิดวิดีโอเทปบันทึกคำสารภาพของลูกเขยและลูกสาวหลังจับกุมตัว ซึ่งสารภาพว่ามียาบ้าจริง ทำให้ นายพงษ์พิชาญ แสดงความไม่พอใจลุกขึ้นโวยวายเสียงดัง พร้อมระบุว่า ตำรวจรังแกประชาชน พล.ต.ต.วิชัย จึงลุกขึ้นพร้อมกล่าวว่า หากไม่พอใจการทำงานตำรวจก็สามารถไปร้องเรียนกับศาลได้ จากนั้น พล.ต.ต.วิชัย และตำรวจทั้งหมดได้เดินออกจากห้องแถลงข่าวไป
ต่อมา นายพงษ์พิชาญ ได้ลงมาในห้องสื่อมวลชน บช.น.แสดงท่าทีไม่พอใจตำรวจพร้อมตะโกนว่า ตำรวจรังแกประชาชนแล้วขึ้นรถแท็กซี่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน 5515 กทม.ที่ขับมาจอดไว้บริเวณบริเวณหน้า บช.น.พร้อมเปิดไฟหน้าและบีบแตรเสียงดังตลอดเวลา และเหยียบคันเร่งเครื่องยนต์แล้วขับรถแท็กซี่วนรอบอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระเจ้ากฤษฎาภินิหาร กรมพระนเรศวรวรฤทธิ์ หน้าอาคาร บช.น.วนอยู่เป็นนานกว่า 10 นาที จนเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนที่อยู่ในอาคารต้องวิ่งออกมาดู นายพงษ์พิชาญ จึงเปิดกระจกรถพร้อมตะโกนต่อว่า ตำรวจรังแกประชาชน และแสดงท่าทีไม่พอใจร้องห่มร้องไห้สลับกับการร้องตะโกน อยู่นานประมาณ 20 นาที กระทั่ง พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ สว.สส.สน.พญาไท เข้ามาเรียกให้หยุดรถเจรจา แล้วขึ้นรถแท็กซี่ของ นายพงษ์พิชาญ ให้ขับรถออกไปยัง สน.ดุสิต เพื่อเปรียบเทียบปรับในข้อหาสร้างความรำคาญในสถานที่ราชการ
วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พร้อม พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผกก.สน.มักกะสัน แถลงผลการจับกุม นายภาณุพงศ์ ล้อมวงศ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 660/240 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.ผู้ต้องหาที่ใช้ก้อนหินปารถแท็กซี่ของ นายพงษ์พิชาญ ธนาภิรพงศ์ จนได้รับบาดเจ็บไหล่ด้านขวา จึงเข้าไปร้องเรียน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และจอดรถขวางขบวนรถหาเสียงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อร้องเรียนเรื่องนี้
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนในในคดีนี้ มีการติดตามผู้ต้องหาโดยตลอด พร้อมทั้งมีการออกหมายจับของศาลอาญาที่ 716/2554 ลงวันที่ 3 พ.ค.แต่ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน จึงสืบสวนจับกุมผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดี และให้การรับสารภาพ พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส
ทางด้าน นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุได้มีปากเสียงกับ น.ส.ชลธิชา หรือ นิ้ง แสนสุข แฟนสาวจากนั้น น.ส.ชลธิชา ก็ขึ้นรถแท็กซี่ของ นายพงษ์พิชาญ ออกมาจากย่านอาร์ซีเอพร้อมกับเพื่อน ตนจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ พร้อมกับเพื่อนตามมาจนถึงบริเวณวัดอุทัยธาราม และพยายามเรียกให้ น.ส.ชลธิชา ลงมาจากรถ แต่รถแท็กซี่ไม่ยอมจอด จึงหยิบก้อนหินปาใส่รถ ปรากฏว่า ก้อนหินพลาดไปถูก นายพงษ์พิชาญ บาดเจ็บบริเวณไหล่ขวา และก้อนหินยังถูกหน้าของ น.ส.ชลธิชา จนบาดเจ็บเย็บ 4 เข็ม จึงขับรถหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว นายพงษ์พิชาญ แท็กซี่ผู้เสียหาย ได้แสดงท่าทีไม่พอใจ และลุกขึ้นมาโวยวายเสียงดังเอะอะ ว่า ทำไมตำรวจ จึงแจ้งแค่ข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมอ้างว่า ก่อนหน้านี้ ที่ลูกเขยและลูกสาวของตน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท จับในข้อหาครอบครองยาเสพติด ก็เพราะเจ้าหน้าที่ยัดของกลางให้ พล.ต.ต.วิชัย จึงให้เจ้าหน้าที่เปิดวิดีโอเทปบันทึกคำสารภาพของลูกเขยและลูกสาวหลังจับกุมตัว ซึ่งสารภาพว่ามียาบ้าจริง ทำให้ นายพงษ์พิชาญ แสดงความไม่พอใจลุกขึ้นโวยวายเสียงดัง พร้อมระบุว่า ตำรวจรังแกประชาชน พล.ต.ต.วิชัย จึงลุกขึ้นพร้อมกล่าวว่า หากไม่พอใจการทำงานตำรวจก็สามารถไปร้องเรียนกับศาลได้ จากนั้น พล.ต.ต.วิชัย และตำรวจทั้งหมดได้เดินออกจากห้องแถลงข่าวไป
ต่อมา นายพงษ์พิชาญ ได้ลงมาในห้องสื่อมวลชน บช.น.แสดงท่าทีไม่พอใจตำรวจพร้อมตะโกนว่า ตำรวจรังแกประชาชนแล้วขึ้นรถแท็กซี่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน 5515 กทม.ที่ขับมาจอดไว้บริเวณบริเวณหน้า บช.น.พร้อมเปิดไฟหน้าและบีบแตรเสียงดังตลอดเวลา และเหยียบคันเร่งเครื่องยนต์แล้วขับรถแท็กซี่วนรอบอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระเจ้ากฤษฎาภินิหาร กรมพระนเรศวรวรฤทธิ์ หน้าอาคาร บช.น.วนอยู่เป็นนานกว่า 10 นาที จนเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนที่อยู่ในอาคารต้องวิ่งออกมาดู นายพงษ์พิชาญ จึงเปิดกระจกรถพร้อมตะโกนต่อว่า ตำรวจรังแกประชาชน และแสดงท่าทีไม่พอใจร้องห่มร้องไห้สลับกับการร้องตะโกน อยู่นานประมาณ 20 นาที กระทั่ง พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ สว.สส.สน.พญาไท เข้ามาเรียกให้หยุดรถเจรจา แล้วขึ้นรถแท็กซี่ของ นายพงษ์พิชาญ ให้ขับรถออกไปยัง สน.ดุสิต เพื่อเปรียบเทียบปรับในข้อหาสร้างความรำคาญในสถานที่ราชการ