เด็กนักเรียนโรงเรียนหอวังกว่า 100 คน เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ต้องหามส่งโรงพยาบาลกันชุลมุน โดยยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่เชื่อว่ามาจากแบคทีเรียชนิดที่ทำให้ท้องเสียอย่างรุนแรง ด้าน ผอ.โรงพยาบาล และผอ.เขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 2 ยัน ไม่เกี่ยวกับ “อี.โคไล” แน่นอน
วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงเรียนหอวัง ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเด็กนักเรียนจำนวนมากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เมื่อเดินทางไปตรวจสอบที่โรงเรียนพบว่า มีนักเรียนทั้งชายและหญิงกว่า 100 คนนั่งทรุดลงกับพื้น บางรายถึงกับเป็นลมล้มพักต้องหามส่งโรงพยาบาลวิภาวดีอย่างเร่งด่วน
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงพยาบาลวิภาวดี ซึ่งจากการสอบถาม ด.ญ.กฤติยา รัตนเสนีย์ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ให้การว่า มีอากาคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และรู้สึกเพลียตั้งแต่เมื่อเวลา 20.00 น.ของวานนี้ (9 มิ.ย.) โดยก่อนหน้านี้ระหว่างที่พักรับประทานอาหารได้กินบะหมี่สำเร็จรูปต้ม และดื่มน้ำดื่มของทางโรงเรียน จากนั้นได้กลับบ้าน เมื่อกลับไปผู้ปกครองให้กินซุปไก่ต่อ จากนั้นก็มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย กระทั่งได้เดินทางมาโรงเรียนในเช้าวันนี้กลับมีอาการหนักขึ้นถึงขั้นเดินไม่ไหวต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และอาการดีขึ้นแล้วแต่ยังคงอ่อนเพลียอยู่
ด้าน นพ.พร้อมพงษ์ พีระบูลย์ ผอ.โรงพยาบาลวิภาวดี กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบถามอาการเด็กทุกคนพบว่า มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย ซึ่งบางคนเป็นตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ บางคนเป็นเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 08.00-09.00 น. สำหรับเด็กที่มีอากาารท้องเสียรุนแรงจะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมีรวม 15 ราย ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่ส่งผลให้ท้องเสียอย่างรุนแรง โดยขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเชื้ออี.โคไลที่กำลังหวาดวิตกกันอยู่แน่นอน
“อย่างไรก็ตาม แพทย์จะต้องนำผลตรวจอุจจาระของเด็กไปตรวจในห้องปฏิบัติการอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยคาดว่า 2-3 วันจะรู้ผลว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และจากการสอบถามเด็ก ได้ทราบว่าเด็กกินผัดกะเพรา สุกี้ และน้ำดื่มของทางโรงเรียน ซึ่งขณะนี้จะให้นักโภชนาการเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง” นพ.พร้อมพงษ์กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. นายสุรศักดิ์ ศรีสว่างรัตน์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 2 เดินทางไปยังโรงพยาบาลวิภาวดี เพื่อตรวจเยี่ยมอาการเด็ก โดยกล่าวว่าเบื้องต้นเท่าที่ได้รับรายงานมีเด็กคลื่นไส้ อาเจียนและท้องเสีย โดยมีเด็ก 15 รายที่ต้องนอนพักรักษาตัวต่อในโรงพยาบาล และจาการสอบถามแพทย์ระบุว่ายังไม่ทราบเหตุแน่ชัด ต้องรอผลตรวจจากห้องปฏิบัติการก่อน
“ผมขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเชื้ออี.โคไล สำหรับอาหารของโรงเรียนนั้นทราบว่ามีนักโภชนาการคอยเข้มงวดเรื่องอาหารอยู่แล้ว อีกทั้งเด็กหลายคนเท่าที่สอบถามมีอาการแตกต่างกัน บางคนเป็นเมื่อวานนี้ บางคนเป็นเมื่อเช้านี้ จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกี่ยวข้องกับโรงเรียนหรือไม่” นายสุรศักดิ์กล่าว
มีรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้ ทางโรงเรียนได้อนุมัติให้มีการนำน้ำโซดากระป๋องยี่ห้อหนึ่งคล้ายน้ำอัดลมกระป๋องเข้ามาจำหน่ายในโรงเรียน ซึ่งเด็กนักเรียนหลายคนไปซื้อมารับประทาน แต่น้ำดังกล่าวมีมาตรฐานอยู่แล้วจึงไม่มีใครแน่ใจว่าอาการที่เด็กนักเรียนเป็นอยู่จะเกี่ยวข้องกับน้ำดังกล่าว หรือน้ำดื่มของทางโรงเรียนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองที่ทราบข่าวว่าบุตรหลายของตนมีอาการดังกล่าว ได้เดินทางไปยังโรงเรียนรวมทั้งที่โรงพยาบาล โดยเด็กที่มีอาการดีขึ้นทางผู้ปกครองได้รับกลับบ้านไปทันที คงเหลือที่ต้องนอนโรงพยาบาล 15 รายตามแพทย์สั่งเท่านั้น
วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงเรียนหอวัง ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเด็กนักเรียนจำนวนมากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เมื่อเดินทางไปตรวจสอบที่โรงเรียนพบว่า มีนักเรียนทั้งชายและหญิงกว่า 100 คนนั่งทรุดลงกับพื้น บางรายถึงกับเป็นลมล้มพักต้องหามส่งโรงพยาบาลวิภาวดีอย่างเร่งด่วน
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงพยาบาลวิภาวดี ซึ่งจากการสอบถาม ด.ญ.กฤติยา รัตนเสนีย์ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ให้การว่า มีอากาคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และรู้สึกเพลียตั้งแต่เมื่อเวลา 20.00 น.ของวานนี้ (9 มิ.ย.) โดยก่อนหน้านี้ระหว่างที่พักรับประทานอาหารได้กินบะหมี่สำเร็จรูปต้ม และดื่มน้ำดื่มของทางโรงเรียน จากนั้นได้กลับบ้าน เมื่อกลับไปผู้ปกครองให้กินซุปไก่ต่อ จากนั้นก็มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย กระทั่งได้เดินทางมาโรงเรียนในเช้าวันนี้กลับมีอาการหนักขึ้นถึงขั้นเดินไม่ไหวต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และอาการดีขึ้นแล้วแต่ยังคงอ่อนเพลียอยู่
ด้าน นพ.พร้อมพงษ์ พีระบูลย์ ผอ.โรงพยาบาลวิภาวดี กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบถามอาการเด็กทุกคนพบว่า มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย ซึ่งบางคนเป็นตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ บางคนเป็นเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 08.00-09.00 น. สำหรับเด็กที่มีอากาารท้องเสียรุนแรงจะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมีรวม 15 ราย ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่ส่งผลให้ท้องเสียอย่างรุนแรง โดยขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเชื้ออี.โคไลที่กำลังหวาดวิตกกันอยู่แน่นอน
“อย่างไรก็ตาม แพทย์จะต้องนำผลตรวจอุจจาระของเด็กไปตรวจในห้องปฏิบัติการอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยคาดว่า 2-3 วันจะรู้ผลว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และจากการสอบถามเด็ก ได้ทราบว่าเด็กกินผัดกะเพรา สุกี้ และน้ำดื่มของทางโรงเรียน ซึ่งขณะนี้จะให้นักโภชนาการเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง” นพ.พร้อมพงษ์กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. นายสุรศักดิ์ ศรีสว่างรัตน์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 2 เดินทางไปยังโรงพยาบาลวิภาวดี เพื่อตรวจเยี่ยมอาการเด็ก โดยกล่าวว่าเบื้องต้นเท่าที่ได้รับรายงานมีเด็กคลื่นไส้ อาเจียนและท้องเสีย โดยมีเด็ก 15 รายที่ต้องนอนพักรักษาตัวต่อในโรงพยาบาล และจาการสอบถามแพทย์ระบุว่ายังไม่ทราบเหตุแน่ชัด ต้องรอผลตรวจจากห้องปฏิบัติการก่อน
“ผมขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเชื้ออี.โคไล สำหรับอาหารของโรงเรียนนั้นทราบว่ามีนักโภชนาการคอยเข้มงวดเรื่องอาหารอยู่แล้ว อีกทั้งเด็กหลายคนเท่าที่สอบถามมีอาการแตกต่างกัน บางคนเป็นเมื่อวานนี้ บางคนเป็นเมื่อเช้านี้ จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกี่ยวข้องกับโรงเรียนหรือไม่” นายสุรศักดิ์กล่าว
มีรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้ ทางโรงเรียนได้อนุมัติให้มีการนำน้ำโซดากระป๋องยี่ห้อหนึ่งคล้ายน้ำอัดลมกระป๋องเข้ามาจำหน่ายในโรงเรียน ซึ่งเด็กนักเรียนหลายคนไปซื้อมารับประทาน แต่น้ำดังกล่าวมีมาตรฐานอยู่แล้วจึงไม่มีใครแน่ใจว่าอาการที่เด็กนักเรียนเป็นอยู่จะเกี่ยวข้องกับน้ำดังกล่าว หรือน้ำดื่มของทางโรงเรียนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองที่ทราบข่าวว่าบุตรหลายของตนมีอาการดังกล่าว ได้เดินทางไปยังโรงเรียนรวมทั้งที่โรงพยาบาล โดยเด็กที่มีอาการดีขึ้นทางผู้ปกครองได้รับกลับบ้านไปทันที คงเหลือที่ต้องนอนโรงพยาบาล 15 รายตามแพทย์สั่งเท่านั้น
