ศาลอาญาออกหมายจับ “3 อดีตช่างกลปทุมวัน” หนีฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีรุมฆ่าคู่อริช่างก่อสร้างอุเทนถวาย ตายคาซอยลาดพร้าว 124 พร้อมสั่งปรับนายประกันคนละล้าน นัดอ่านอุทธรณ์อีกครั้ง 25 ก.ค.นี้
วันนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.4517/2549 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 และนางเตือนจิตต์ วิริยารัมภะ มารดานายเบญจพล วิริยารัมภะ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่ถูกยิงเสียชีวิต ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง นายสุทธินันท์ หรือตู๋ หวังหอมกลาง อายุ 28 ปี นายมงคล หรือเหยิน ศรีพูล อายุ 33 ปี และนายชาตรี หรือปิ๊ก จูวรรณะ อายุ 31 ปี ซึ่งทั้งสามเคยเป็นนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน (ช่างกลปทุมวัน) เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 289, 371 และกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ขณะที่นางเตือนจิตต์ มารดาผู้ตาย โจทก์ร่วมยื่นคำร้องขอให้พวกจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วม 4,250,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันเกิดเหตุวันที่ 26 ส.ค.49
โดยคดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 พ.ย.49 ระบุความผิดสรุปว่า วันที่ 26 ส.ค.49 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกที่ยังหลบหนี ร่วมกันใช้อาวุธปืนรีวอลเวอร์ขนาด .38 มม. ยิงและใช้อาวุธมีดแทงนายเบญจพล หรือโต้ง วิริยารัมภะ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่ศีรษะและตามร่างกายหลายแห่งจนถึงแก่ความตาย ภายในซอยลาดพร้าว 124 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ต่อมาวันที่ 7 ก.ย.49 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง ติดตามจับกุมตัวจำเลยทั้งสามได้ตามหมายจับของศาลอาญา พร้อมอาวุธปืน และของกลางอีกหลายรายการ ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ แต่ภายหลังให้การปฏิเสธในชั้นศาล โดยอ้างสถานที่อยู่ และอ้างเหตุยอมรับสารภาพเนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้าย
ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.ค.51 เห็นว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตาม ม.289(4), 371 และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม โดยให้ประหารชีวิตฐานร่วมกันฆ่าฯ และจำคุกคนละ 3 ปี และปรับคนละ 90 บาท ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ แต่คำให้การของจำเลยทั้งสามในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ในการพิจารณา จึงลดโทษคนละ 1 ใน 3 ให้จำคุกตลอดชีวิตฐานฆ่าผู้อื่นฯ และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 60 บาท โดยให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 4,250,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันทำละเมิดวันที่ 26 ส.ค.49 เป็นต้นไปให้กับโจทก์ร่วมจนกว่าจะชำระเสร็จด้วย
อย่างไรก็ดี วันนี้จำเลยทั้งสามซึ่งได้รับการประกันตัวไม่ได้เดินทางมาศาลตามนัด ซึ่งศาลสอบถามนายประกันแล้วเห็นว่าไม่สามารถติดต่อจำเลยได้โดยไม่มีเหตุ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสามน่าจะมีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสามมาฟังคำพิพากษา และให้ปรับนายประกันของจำเลยทั้งสามคนละ 1 ล้านบาท โดยนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 25 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น.