ตร.ส่งทีมจับตาเงินปลิวว่อนเลือกตั้งผิดปกติ หวั่นหว่านซื้อเสียง

หน่วยพิเศษชุดป้องกันปราบปรามทำผิดเลือกตั้ง เดินหน้าตรวจสอบทั่วประเทศ สืบความเคลื่อนไหวพื้นที่ใดใช้จ่ายเงินผิดปกติส่อซื้อเสียง หากพบพิรุธพร้อมประสาน กกต.-ปปง.เจาะลึกถึงที่มาที่ไปทันที ขณะเดียวกันได้เน้นตรวจสอบยานพาหนะใช้ขนคนไปลงคะแนนเสียงด้วย เพราะถือว่าผิดกฎหมายชัดเจน

วันนี้ (8 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดป้องกันและปราบปรามการกระผิดกฎหมายเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีเงินหมุนเวียนในระบบหมื่นล้านบาทหายไป และต่อมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่าไม่ได้แจ้งความไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่ามีเงินหายออกจากระบบว่า ได้สั่งการหน่วยพิเศษของชุดป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเฝ้าดูว่าพื้นที่ไหนมีการใช้จ่ายเงินผิดปกติหรือไม่ ซึ่งถือว่าข้อมูลที่ได้นั้นเป็นข้อมูลกว้างๆ โดยทางตำรวจต้องมีหน้าที่ติดตามกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 53 ที่ระบุว่า ห้ามซื้อเสียง หรือเตรียมการซื้อเสียง โดยขณะนี้กำลังตระเวนดูอยู่ว่าพื้นที่ใดผิดปกติ โดยตนยังอยู่ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งเป็นพื้นที่ภาคใต้อยู่ และจะไปตรวจสอบที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งเป็นพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อไป ซึ่งหากมีการเคลื่อนไหวการซื้อเสียงจริงจะต้องประสานกับทางธนาคารพาณิชย์ด้วย โดยต้องดูว่าถอนเงินจากธนาคารไหน และหากมีการเบิกถอนผิดปกติจะตรวจสอบทันที

ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า หากพบความผิดปกติจะประสานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะเป็นผู้ดูแลการเลือกตั้ง ซึ่งจะสามารถเริ่มต้นสืบสวนทั้งในทางลับและทางเปิดเผยทันทีเช่นกัน โดยขณะนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เน้นการป้องปรามและป้องกันมากกว่า และนอกเหนือจากเงินที่หายไปจากระบบแล้วจะต้องตรวจสอบเรื่องยานพาหนะที่อาจจะใช้เพื่อนำคนไปเลือกตั้ง ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายเช่นกัน

“ทั้งนี้ ยืนยันว่ามีชุดพิเศษดูแลเรื่องนี้อยู่ทั่วประเทศ หากประชาชนพบแนวโน้มการซื้อเสียงก็ขอให้แจ้งมาได้ทันที” ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว