บก.น.7 โชว์จับยาแก้หวัด 7 พันเม็ด ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของยาเสพติดเกือบ 3 หมื่นแคปซูล พร้อมทั้งยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ และยาชนิดที่เป็นยาเสพติดมีผลต่อจิตและประสาทจำนวนมาก ควบคุมตัวสาวใหญ่ที่ซุกซ่อนของกลางทั้งหมดดำเนินคดี สารภาพรับยาจากต่างประเทศ รอส่งขายให้ลูกค้าร้านขายยาทั่วไป
วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 (บก.น.7) พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบก.น.7 พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาค พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สน.ตลิ่งชัน นายพงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน แถลงการจับกุมนางขจี สว่างแจ้ง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/30 ตรอกวัดดงมูลเหล็ก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. พร้อมของกลางยาแก้ไอระงับอาการเรื้อรัง (โคเดอีน) จำนวน 29,130 แคปซูล ยาแก้สมาธิสั้นสำหรับเด็ก 5,790 เม็ด ยานอนหลับอย่างแรง 1,530 เม็ด ยาแก้ปวดอย่างแรง 14,130 เม็ด ยาลดความอ้วน 678 เม็ด ยานอนหลับ 2,740 เม็ด ยากล่อมประสาทคลายเครียด 1,990 เม็ด ยากระตุ้นทางเพศชายชนิดเจล 12,250 ซอง ยาไวอะกร้า 4,000 เม็ด วิตามินเอรักษาสิว 90 เม็ด ยาเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพาะกาย 600 เม็ด ยาแก้หวัด 7,000 เม็ด รวมมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท สมุดบัญชีรายชื่อลูกค้า 1 เล่ม และแผ่นแนะนำแสดงรายการตัวอย่างสินค้า 6 แผ่น
พล.ต.ต.จารุวัฒน์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน สืบทราบว่าที่ห้องพักเลขที่ 128/183 อาคารบางกอกน้อยวอเตอร์ไซด์ ซอยบางขุนนนท์ 16 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. มีการลักลอบนำยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ รวมถึงยาชนิดต่างๆ ที่เป็นยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทเข้ามาเก็บซุกซ่อนไว้ เพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้า จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่องค์การอาหารและยา (อย.) พร้อมทั้งสั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ร่วมกับ สน.บางขุนนนท์ เข้าตรวจค้นภายในห้องพักดังกล่าวเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพบยาของกลางซุกซ่อนอยู่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งควบคุมตัวนางขจีมาสอบปากคำ
พล.ต.ต.จารุวัฒน์กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนางขจี เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่ารับยาดังกล่าวมาจากต่างประเทศเพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นร้านขายยาทั่วไปโดยทำมานานเป็นปีแล้ว ทั้งนี้ ยาแก้ไอ หรือโคเดอีน จำนวน 29,130 แคปซูลที่ยึดได้นั้น ถือว่าเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่งที่สามารถนำไปเป็นส่วนผสมของยาเสพติด 4x100 ได้อีกด้วย จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 3 (ยาแก้ไอ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภที่ 2 และที่ 4 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา และขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้าน นายพงศ์พันธ์กล่าวว่า สำหรับยาของกลางที่ยึดได้นั้นบางชนิดเป็นยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นการลักลอบนำเข้ามาจำหน่าย หรือบางชนิดเป็นยาที่ไม่มีขายในร้านขายยา ซึ่งมีใช้ในสถานพยาบาลเท่านั้น ส่วนบางชนิดเป็นยาปลอม จึงฝากเตือนไปยังประชาชนที่ซื้อยาเหล่านี้ว่ายาบางชนิดมีปริมาณตัวยาอยู่น้อยหรือมากเกินไปอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้
วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 (บก.น.7) พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบก.น.7 พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาค พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สน.ตลิ่งชัน นายพงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน แถลงการจับกุมนางขจี สว่างแจ้ง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/30 ตรอกวัดดงมูลเหล็ก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. พร้อมของกลางยาแก้ไอระงับอาการเรื้อรัง (โคเดอีน) จำนวน 29,130 แคปซูล ยาแก้สมาธิสั้นสำหรับเด็ก 5,790 เม็ด ยานอนหลับอย่างแรง 1,530 เม็ด ยาแก้ปวดอย่างแรง 14,130 เม็ด ยาลดความอ้วน 678 เม็ด ยานอนหลับ 2,740 เม็ด ยากล่อมประสาทคลายเครียด 1,990 เม็ด ยากระตุ้นทางเพศชายชนิดเจล 12,250 ซอง ยาไวอะกร้า 4,000 เม็ด วิตามินเอรักษาสิว 90 เม็ด ยาเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพาะกาย 600 เม็ด ยาแก้หวัด 7,000 เม็ด รวมมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท สมุดบัญชีรายชื่อลูกค้า 1 เล่ม และแผ่นแนะนำแสดงรายการตัวอย่างสินค้า 6 แผ่น
พล.ต.ต.จารุวัฒน์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน สืบทราบว่าที่ห้องพักเลขที่ 128/183 อาคารบางกอกน้อยวอเตอร์ไซด์ ซอยบางขุนนนท์ 16 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. มีการลักลอบนำยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ รวมถึงยาชนิดต่างๆ ที่เป็นยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทเข้ามาเก็บซุกซ่อนไว้ เพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้า จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่องค์การอาหารและยา (อย.) พร้อมทั้งสั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ร่วมกับ สน.บางขุนนนท์ เข้าตรวจค้นภายในห้องพักดังกล่าวเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพบยาของกลางซุกซ่อนอยู่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งควบคุมตัวนางขจีมาสอบปากคำ
พล.ต.ต.จารุวัฒน์กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนางขจี เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่ารับยาดังกล่าวมาจากต่างประเทศเพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นร้านขายยาทั่วไปโดยทำมานานเป็นปีแล้ว ทั้งนี้ ยาแก้ไอ หรือโคเดอีน จำนวน 29,130 แคปซูลที่ยึดได้นั้น ถือว่าเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่งที่สามารถนำไปเป็นส่วนผสมของยาเสพติด 4x100 ได้อีกด้วย จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 3 (ยาแก้ไอ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภที่ 2 และที่ 4 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา และขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้าน นายพงศ์พันธ์กล่าวว่า สำหรับยาของกลางที่ยึดได้นั้นบางชนิดเป็นยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นการลักลอบนำเข้ามาจำหน่าย หรือบางชนิดเป็นยาที่ไม่มีขายในร้านขายยา ซึ่งมีใช้ในสถานพยาบาลเท่านั้น ส่วนบางชนิดเป็นยาปลอม จึงฝากเตือนไปยังประชาชนที่ซื้อยาเหล่านี้ว่ายาบางชนิดมีปริมาณตัวยาอยู่น้อยหรือมากเกินไปอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้
