นครบาลประชุมติดตามคดีคนร้ายลอบปาระเบิดใส่หลังเวทีพันธมิตรฯ เผยภาพวงจรปิดจับภาพได้ขณะหลบไปทางนางเลิ้ง ลักษณะตรงตามพยานบอกแต่เห็นหน้าไม่ชัด รอหลักฐานครบก่อนขอหมายจับต่อ สอบนักโทษเคยก่อเหตุปาบึ้มยันไม่มีเอี่ยว
วันนี้ (2 มิ.ย.) เมื่อเวลา 20.30 น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้เรียกชุดคลี่คลายคดีคนร้ายลอบปาระเบิดใส่หลังเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้าประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยมี พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก บก.สส.บชน. พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.กก.สส.น.1 ฝ่ายสืบสวน สน.นางเลิ้ง เข้าร่วมประชุมที่ศูนย์สืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล โดยใช้เวลาการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในที่ประชุมยังมีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งสามารถจับภาพบุคคลที่คาดว่าเป็นคนร้าย ซึ่งขับขี่จักรยานยนต์ลักษณะใกล้เคียงกับที่พยานให้การมาฉายในที่ประชุมด้วย
พล.ต.ต.สุเมธกล่าวว่า การประชุมในวันนี้ได้เชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายปาระเบิดใส่ที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ภาพของคนร้ายแล้วจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายเป็นชาย ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว ส่วนรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายหลังจากสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ พบว่า มีข้อมูลตรงกัน คือ เป็นชายรูปร่างสันทัด สูงประมาณ 170 ซม. อายุประมาณ 25 ปี แต่หน้าตาไม่ชัดเจนเนื่องจากเป็นเวลากลางคืน จึงเชื่อว่าจากคำให้การของพยานเป็นความจริง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติมโดยละเอียดของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พบสะเก็ดระเบิดจำนวนหนึ่งจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไป ส่วนเส้นทางการหลบหนีนั้นหลังจากที่คนร้ายได้ก่อเหตุแล้วได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางสนามม้านางเลิ้ง ผ่านไปทางแยกยมราช ทั้งนี้หากได้หลักฐานครบถ้วน เจ้าหน้าที่จะได้ทำการออกหมายจับเพื่อนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.สุเมธกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่าในปีนี้มีการก่อเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้น 3 ครั้ง โดยสามารถจับคนร้ายได้หนึ่งครั้ง จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบถามรวมทั้งสืบหาข่าวจากคนใกล้ชิดกับนักโทษคนดังกล่าว แต่ได้รับการยืนยันว่าไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้ ส่วนอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธที่ลักลอบนำเข้ามาจากชายแดนที่ผลิตจากประเทศสังคมนิยม และยืนยันว่าไม่มีใช้งานในราชการของประเทศ