ผบช.ก.สั่งกองปราบสางคดีระเบิดหากพบทำเป็นขบวนการ เผยซุกซีโฟร์ที่ศาลฎีกาฝีมือขั้นเทพคล้ายกับที่เคยใช้ก่อเหตุในกทม.มาแล้ว 2 ครั้ง ส่วนเอ็ม-79 คาดยิงมาจากหน้าสนามม้านางเลิ้ง
วันนี้ (18 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนเหตุระเบิดที่ศาลฎีกา และเหตุยิงเอ็ม 79 ไปตกที่พาณิชย์พระนครนั้น มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำการตรวจสอบระเบิดทั้งสองจุดแล้ว โดยในเบื้องต้นพบว่าระเบิดที่ศาลฎีกานั้นเป็นระเบิดซีโฟร์ ขนาด 2.5 ปอนด์ หรือ 1.2 กิโลกรัม จุดชนวน ด้วยการตั้งเวลาซึ่งประกอบซ่อนเอาไว้ในกล่องน้ำผลไม้ และใส่ถุงพลาสติกอีกชั้น ซึ่งจากการตรวจสอบเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแล้วเชื่อว่ามือประกอบระเบิดนั้นมีความชำนาญมาก แต่ชิ้นส่วนที่เก็บได้นั้นยังไม่สามารถตรวจสอบหาที่มาได้ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบทางเทคนิคพบว่าระเบิดครั้งนี้มีความคล้ายคลึงกับระเบิดที่ใช้ก่อเหตุในกรุงเทพฯ มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ใช่เหตุระเบิด 9 จุดช่วงปีใหม่ หรือเหตุระเบิดที่เคยเกิดขึ้นกับศาลก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ส่วนเหตุยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 นั้นตรวจสอบพบว่าหัวระเบิดที่ใช้นั้นเป็นหัวระเบิดเอ็ม 79 ชนิดธรรมดา ไม่ใช่หัวระเบิดแบบเจาะเกราะ โดยสันนิษฐานว่ามีการยิงมาจากบริเวณ ถ.นครสวรรค์ หรือไม่ก็หน้าสนามม้านางเลิ้งเพราะอยู่ในระยะ 300 เมตร แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะยิงจากหน้าสนามม้านางเลิ้งมากกว่า ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนที่รับผิดชอบกำลังตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดโดยรอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก.กล่าวว่า คดีระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของตำรวจท้องที่ดำเนินการไปก่อนแต่ถ้าสืบสวนขยายผลพบว่ามีกลุ่มใด หรือคณะใดวางแผนไว้เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน ปลุกปั่น ยุยง ก็จะส่งมาให้กองปราบปรามดำเนินการต่อไป