ฆ่าโหด "ผกก.ไทรงาม" ดับคาหน้าบ้านพักนครสวรรค์ พาดหัวข่าวใหญ่หน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ กับข่าวที่สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการตำรวจที่ต้องสูญเสียตำรวจน้ำดี ไปอีกคน เมื่อ "พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม" ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต เกิดขึ้นเมื่อ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา และเพียง 8 วันเท่านั้นก็สามารถตามจับคนร้ายได้ แต่ต้องสะดุด!!!
27 เม.ย. 54 "พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง" ที่ปรึกษา (สบ 10) ฐานะรักษาราชการแทน ผบช.ภ.1 และหัวหน้าศูนย์ปราบปรามมือปืนรับจ้าง ได้เปิดแถลงการจับกุมนายณรงค์ ธงชัย หรือ "ภาพ 100 ศพ" ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธปืนยิงผกก. สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เสียชีวิตขณะยืนล้างรถอยู่ที่บ้านพัก จ.นครสวรรค์ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่หน้าตลาดโต้รุ่งเทศบาลเมืองนครพนม ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งผลงานชิ้นนี้ทำให้ทุกฝ่ายปราบปลื้มกันมาก
แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อ นายณรงค์ ธงชัย หรือ "ภาพ 100 ศพ" ยังคงยืนกรานปฏิเสธท่าเดียวว่าตัวเขาเองไม่ได้เป็นคนฆ่า "ผกก.ไทรงาม" แต่เคยก่อเหตุรับจ้างยิง "จู๊ด ห้วยใหญ่" ที่จ.ชลบุรี และเคยถูกจับคดีอาวุธปืนที่จ.กาญจนบุรี จริง ส่วนคดียิง "ผกก.ไทรงาม" และคดียิงนางชบา กลีบบัว ภรรยาอัยการ จ.ราชบุรี เมื่อ 21 ก.ย. 2553 และหมายจับในคดีฆ่าผู้อื่นอีกหลายหมายขอปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน "ภาพ 100 ศพ" ยอมรับว่าสาเหตุที่เป็นมือปืนรับจ้าง เพราะอยากได้เงิน และเคยเป็นทหารอากาศมาก่อน จึงพอมีความรู้ในเรื่องการยิงปืน
ถึงแม้ว่า "ภาพ 100 ศพ" ผู้ต้องหาที่ทีมสืบฯ มั่นใจว่าเป็นมือสังหาร ผกก.ไทรงาม ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเดินทางมาหลบอยู่ที่ จ.นครพนม กับภรรยา ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.2553 และไม่เคยเดินทางออกนอกพื้นที่อีกเลย แต่ "อัศวิน" ยังคงยืนยันและอ้างอิงถึงการก่อเหตุของ "ภาพ 100 ศพ" ว่านอกจากหมายจับคดียิงผกก.ไทรงามแล้ว ยังพบว่ามีหมายจับคดีใช้อาวุธปืนฆ่า "จู๊ด ห้วยใหญ่" ที่จ.ชลุบรี เมื่อกลาง ปี 2552 ก่อนจะหลบหนีไป โดยเจ้าตัวรับสารภาพได้ค่าจ้างเพียง 1 แสนบาท จากนั้นถูกจับคดีอาวุธปืนขณะรับงานยิงนักการเมืองท้องถิ่น เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2552 ที่ อ.ท่า มะกา จ.กาญจนบุรี และ"ภาพ 100 ศพ" ยังได้บอกอีกว่าอยู่ระหว่างหลบหนีการประกันตัวในชั้นศาลทั้ง 2 คดี นอกจากนี้ "อัศวิน" ยังคงเปิดข้อมูลให้ทราบเพิ่มเติมว่า "ภาพ 100 ศพ" ยังมีหมายจับคดีฆ่าผู้อื่นอีกหลายคดี เช่น คดีใช้อาวุธปืนอาก้า ยิงนายไพโรจน์ หรือกำนันโต้ง พนมรัศมี ที่ริมถนนเศรษฐกิจ อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2554
กว่า 2 ชั่วโมง ที่ทีมสืบสวนสอบสวนได้ใช้เวลาในการสอบปากคำ เค้นสอบ "ภาพ 100 ศพ" แต่"ภาพ 100 ศพ" ยังยืนกระต่ายขาเดียวว่า ไม่ได้เป็นคนยิง "ผกก.สภ.ไทรงาม" แน่นอนแต่ได้พักอาศัยอยู่ในไร่ ในพื้นที่จ.นครพนม และไม่ได้ออกไปไหน เพราะกลัวถูกจับคดีที่หลบหนีการประกันตัวชั้นศาล
ทุกอย่างชัดเจนว่าไม่มีอะไรในก่อไผ่ กับการจับกุม "ภาพ 100 ศพ" โดยผู้ต้องหายืนยันไม่มีความเกี่ยวข้องกับการสังหาร ผกก.ไทรงาม ทาง"พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง" จึงเชื่อพร้อมกับให้เหตุผลว่าคดีฆ่าผู้อื่นที่ผ่านมา ชุดพนักงานสอบสวนอาจจะมีพยานและหลักฐานระบุได้ชัดเจนว่า "ภาพ 100 ศพ" เป็นผู้ก่อเหตุ แต่สำหรับคดียิง "ผกก.สภ.ไทรงาม" ในส่วนตัวเชื่อว่า "ภาพ 100 ศพ" ไม่ใช่คนร้าย เนื่องจาก ผกก.สภ. ไทรงาม ถูกสังหารเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนสิบแปดนาทีวันที่ 19 เม.ย. แต่ "ภาพ 100 ศพ" ไปปรากฏตัวอยู่ที่ จ.นครพนม ตอนหกโมงเช้า มีพยานซึ่งเป็นนายจ้างระบุว่านายณรงค์ทำไร่อยู่ที่ จ.นครพนม ในเวลา 06.00 น. ซึ่งการหลบหนีในเวลาอันรวดเร็วขนาดนั้นไม่น่าจะทำได้ อีกทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และวัตถุพยานหลายอย่างเชื่อได้ว่า "ภาพ 100 ศพ" อยู่ที่จ.นครพนมจริง
ครั้งนี้ยังไม่ใช่การจับคนยิง "ผกก.ไทงาม" ตัวจริง แต่ "อัศวิน" ยังไม่หลุดฟอร์ม ยังคงบัญชาการให้ทีมสืบสวนหาข่าวเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อที่จะตามตะครุบมือยิง "ผกก.ไทรงาม" ตัวจริงให้ได้ ซึ่งทีมสืบสวนก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง โดยเมื่อ 21 พ.ค. 54 ทีมสืบสวนก็สามารถรวบตัว "นายสิมู จะหย่อ" ชาวเผ่ามูเซอ อายุ 52 ปี โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ที่ปั๊มน้ำมันบางจากริมถนนสายเชียงใหม่-ฝาง ขณะกำลังเตรียมจะเดินทางออกนอกประเทศ พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น รีวอลเวอร์ ขนาด.357 ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน พร้อมกระสุนขนาด .38 จำนวน 17 นัด
"นายสิมู จะหย่อ" หนุ่มใหญ่มูเซอยอมรับแต่โดยดีว่าได้ก่อเหตุยิง พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม อดีต ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร จริง พร้อมกับสารภาพว่า เพิ่งรับงานยิงคนไทยเป็นครั้งแรก และไม่ทราบมาก่อนว่าเป้าหมายที่ต้องฆ่าเป็นตำรวจยศ ผกก.
ด้านพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. เปิดเผยถึงสาเหตุในการลงมือสังหารครั้งนี้ว่ามาจากเรื่องการประมูลงานก่อสร้างเขื่อนใน จ.นครสวรรค์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในจ.อุทัยธานี ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับงานประมูลครั้งนี้ ส่วนจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่นหรือไม่นั้น ขอระบุแค่ว่า ทำหลายอาชีพ แต่เชื่อว่าคนในจังหวัดจะรู้ดีว่าเป็นใคร ทางตำรวจขอให้มีพยานหลักฐานและออกหมายจับได้ก่อน จึงจะสามารถระบุได้
นอกจากนี้ "ภาณุพงศ์" ยังบอกอีกว่า "นายสิมู จะหย่อ" เคยเป็นนักรบมูเซอดำ มีหน้าที่ปกป้องหมู่บ้าน และเคยยิงชาวมูเซอด้วยกันมาแล้ว ซึ่งการจับกุมชาวเขาเผ่ามูเซอได้ในครั้งนี้ "ภาณุพงศ์" ยอมรับว่าได้ทราบข้อมูลเพิ่มว่า ขณะนี้กลุ่มผู้มีอิทธิพลเริ่มหันมาจ้างวานชนกลุ่มน้อยเป็นมือปืนมากขึ้น โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องจับตาและให้ความสำคัญกับมือปืนกลุ่มนี้ด้วย เนื่องจากอยู่ช่วงการเลือกตั้ง
ต่อมา 22 พ.ค. พล.ต.ต.ชฎิล พรหมไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรณ์ นำทีมตำรวจ สภ.เมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปรามฯ ควบคุมตัว "นายสิมู จะหย่อ" ชาวเขาเผ่ามูเซอ มือปืนยิง "พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม" ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางการวางกำลังคุ้มกันอย่างเข้มงวด เนื่องจากกลัวว่าจะถูกซุ้มผู้จ้างวานฆ่าตัดตอน ขณะเดียวกันกองปราบฯ เตรียมล่าตัวโยงผู้บงการเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้ยังต้องเดินหน้าไล่ล่าผู้ที่เกี่ยวข้องที่ร่วมมือกันฆ่า "ผกก.ไทรงาม" มาดำเนินคดีให้ได้ แม้ว่าได้ตัวมือสังหารแล้ว แต่ยังมีบุคคลสำคัญที่ตำรวจต้องเร่งติดตามตัวอีก 2 คน คือ "นายต่าย" ซึ่งเป็นคนขับรถ ชี้เป้า จัดหาปืน และ "นายนิรันดร์ หรือ หมู พึ่งสำเภา" นักประมูลงานรับเหมาก่อสร้าง ชาวอำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ที่เป็นคนกลางในการติดต่อประสานงานทั้งหมด ซึ่งตำรวจออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว และกำลังติดตามตัวมาดำเนินคดี หากได้ตัวทั้ง 2 มาดำเนินคดีได้ เชื่อแน่ว่าจะสามารถโยงถึงตัวผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังมาลงโทษตามกฎหมายได้เช่นกัน เพราะเป็นคดีนี้เป็นเหตุอุกอาจ และผู้ตายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
27 เม.ย. 54 "พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง" ที่ปรึกษา (สบ 10) ฐานะรักษาราชการแทน ผบช.ภ.1 และหัวหน้าศูนย์ปราบปรามมือปืนรับจ้าง ได้เปิดแถลงการจับกุมนายณรงค์ ธงชัย หรือ "ภาพ 100 ศพ" ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธปืนยิงผกก. สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เสียชีวิตขณะยืนล้างรถอยู่ที่บ้านพัก จ.นครสวรรค์ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่หน้าตลาดโต้รุ่งเทศบาลเมืองนครพนม ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งผลงานชิ้นนี้ทำให้ทุกฝ่ายปราบปลื้มกันมาก
แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อ นายณรงค์ ธงชัย หรือ "ภาพ 100 ศพ" ยังคงยืนกรานปฏิเสธท่าเดียวว่าตัวเขาเองไม่ได้เป็นคนฆ่า "ผกก.ไทรงาม" แต่เคยก่อเหตุรับจ้างยิง "จู๊ด ห้วยใหญ่" ที่จ.ชลบุรี และเคยถูกจับคดีอาวุธปืนที่จ.กาญจนบุรี จริง ส่วนคดียิง "ผกก.ไทรงาม" และคดียิงนางชบา กลีบบัว ภรรยาอัยการ จ.ราชบุรี เมื่อ 21 ก.ย. 2553 และหมายจับในคดีฆ่าผู้อื่นอีกหลายหมายขอปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน "ภาพ 100 ศพ" ยอมรับว่าสาเหตุที่เป็นมือปืนรับจ้าง เพราะอยากได้เงิน และเคยเป็นทหารอากาศมาก่อน จึงพอมีความรู้ในเรื่องการยิงปืน
ถึงแม้ว่า "ภาพ 100 ศพ" ผู้ต้องหาที่ทีมสืบฯ มั่นใจว่าเป็นมือสังหาร ผกก.ไทรงาม ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเดินทางมาหลบอยู่ที่ จ.นครพนม กับภรรยา ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.2553 และไม่เคยเดินทางออกนอกพื้นที่อีกเลย แต่ "อัศวิน" ยังคงยืนยันและอ้างอิงถึงการก่อเหตุของ "ภาพ 100 ศพ" ว่านอกจากหมายจับคดียิงผกก.ไทรงามแล้ว ยังพบว่ามีหมายจับคดีใช้อาวุธปืนฆ่า "จู๊ด ห้วยใหญ่" ที่จ.ชลุบรี เมื่อกลาง ปี 2552 ก่อนจะหลบหนีไป โดยเจ้าตัวรับสารภาพได้ค่าจ้างเพียง 1 แสนบาท จากนั้นถูกจับคดีอาวุธปืนขณะรับงานยิงนักการเมืองท้องถิ่น เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2552 ที่ อ.ท่า มะกา จ.กาญจนบุรี และ"ภาพ 100 ศพ" ยังได้บอกอีกว่าอยู่ระหว่างหลบหนีการประกันตัวในชั้นศาลทั้ง 2 คดี นอกจากนี้ "อัศวิน" ยังคงเปิดข้อมูลให้ทราบเพิ่มเติมว่า "ภาพ 100 ศพ" ยังมีหมายจับคดีฆ่าผู้อื่นอีกหลายคดี เช่น คดีใช้อาวุธปืนอาก้า ยิงนายไพโรจน์ หรือกำนันโต้ง พนมรัศมี ที่ริมถนนเศรษฐกิจ อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2554
กว่า 2 ชั่วโมง ที่ทีมสืบสวนสอบสวนได้ใช้เวลาในการสอบปากคำ เค้นสอบ "ภาพ 100 ศพ" แต่"ภาพ 100 ศพ" ยังยืนกระต่ายขาเดียวว่า ไม่ได้เป็นคนยิง "ผกก.สภ.ไทรงาม" แน่นอนแต่ได้พักอาศัยอยู่ในไร่ ในพื้นที่จ.นครพนม และไม่ได้ออกไปไหน เพราะกลัวถูกจับคดีที่หลบหนีการประกันตัวชั้นศาล
ทุกอย่างชัดเจนว่าไม่มีอะไรในก่อไผ่ กับการจับกุม "ภาพ 100 ศพ" โดยผู้ต้องหายืนยันไม่มีความเกี่ยวข้องกับการสังหาร ผกก.ไทรงาม ทาง"พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง" จึงเชื่อพร้อมกับให้เหตุผลว่าคดีฆ่าผู้อื่นที่ผ่านมา ชุดพนักงานสอบสวนอาจจะมีพยานและหลักฐานระบุได้ชัดเจนว่า "ภาพ 100 ศพ" เป็นผู้ก่อเหตุ แต่สำหรับคดียิง "ผกก.สภ.ไทรงาม" ในส่วนตัวเชื่อว่า "ภาพ 100 ศพ" ไม่ใช่คนร้าย เนื่องจาก ผกก.สภ. ไทรงาม ถูกสังหารเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนสิบแปดนาทีวันที่ 19 เม.ย. แต่ "ภาพ 100 ศพ" ไปปรากฏตัวอยู่ที่ จ.นครพนม ตอนหกโมงเช้า มีพยานซึ่งเป็นนายจ้างระบุว่านายณรงค์ทำไร่อยู่ที่ จ.นครพนม ในเวลา 06.00 น. ซึ่งการหลบหนีในเวลาอันรวดเร็วขนาดนั้นไม่น่าจะทำได้ อีกทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และวัตถุพยานหลายอย่างเชื่อได้ว่า "ภาพ 100 ศพ" อยู่ที่จ.นครพนมจริง
ครั้งนี้ยังไม่ใช่การจับคนยิง "ผกก.ไทงาม" ตัวจริง แต่ "อัศวิน" ยังไม่หลุดฟอร์ม ยังคงบัญชาการให้ทีมสืบสวนหาข่าวเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อที่จะตามตะครุบมือยิง "ผกก.ไทรงาม" ตัวจริงให้ได้ ซึ่งทีมสืบสวนก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง โดยเมื่อ 21 พ.ค. 54 ทีมสืบสวนก็สามารถรวบตัว "นายสิมู จะหย่อ" ชาวเผ่ามูเซอ อายุ 52 ปี โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ที่ปั๊มน้ำมันบางจากริมถนนสายเชียงใหม่-ฝาง ขณะกำลังเตรียมจะเดินทางออกนอกประเทศ พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น รีวอลเวอร์ ขนาด.357 ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน พร้อมกระสุนขนาด .38 จำนวน 17 นัด
"นายสิมู จะหย่อ" หนุ่มใหญ่มูเซอยอมรับแต่โดยดีว่าได้ก่อเหตุยิง พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม อดีต ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร จริง พร้อมกับสารภาพว่า เพิ่งรับงานยิงคนไทยเป็นครั้งแรก และไม่ทราบมาก่อนว่าเป้าหมายที่ต้องฆ่าเป็นตำรวจยศ ผกก.
ด้านพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. เปิดเผยถึงสาเหตุในการลงมือสังหารครั้งนี้ว่ามาจากเรื่องการประมูลงานก่อสร้างเขื่อนใน จ.นครสวรรค์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในจ.อุทัยธานี ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับงานประมูลครั้งนี้ ส่วนจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่นหรือไม่นั้น ขอระบุแค่ว่า ทำหลายอาชีพ แต่เชื่อว่าคนในจังหวัดจะรู้ดีว่าเป็นใคร ทางตำรวจขอให้มีพยานหลักฐานและออกหมายจับได้ก่อน จึงจะสามารถระบุได้
นอกจากนี้ "ภาณุพงศ์" ยังบอกอีกว่า "นายสิมู จะหย่อ" เคยเป็นนักรบมูเซอดำ มีหน้าที่ปกป้องหมู่บ้าน และเคยยิงชาวมูเซอด้วยกันมาแล้ว ซึ่งการจับกุมชาวเขาเผ่ามูเซอได้ในครั้งนี้ "ภาณุพงศ์" ยอมรับว่าได้ทราบข้อมูลเพิ่มว่า ขณะนี้กลุ่มผู้มีอิทธิพลเริ่มหันมาจ้างวานชนกลุ่มน้อยเป็นมือปืนมากขึ้น โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องจับตาและให้ความสำคัญกับมือปืนกลุ่มนี้ด้วย เนื่องจากอยู่ช่วงการเลือกตั้ง
ต่อมา 22 พ.ค. พล.ต.ต.ชฎิล พรหมไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรณ์ นำทีมตำรวจ สภ.เมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปรามฯ ควบคุมตัว "นายสิมู จะหย่อ" ชาวเขาเผ่ามูเซอ มือปืนยิง "พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม" ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางการวางกำลังคุ้มกันอย่างเข้มงวด เนื่องจากกลัวว่าจะถูกซุ้มผู้จ้างวานฆ่าตัดตอน ขณะเดียวกันกองปราบฯ เตรียมล่าตัวโยงผู้บงการเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้ยังต้องเดินหน้าไล่ล่าผู้ที่เกี่ยวข้องที่ร่วมมือกันฆ่า "ผกก.ไทรงาม" มาดำเนินคดีให้ได้ แม้ว่าได้ตัวมือสังหารแล้ว แต่ยังมีบุคคลสำคัญที่ตำรวจต้องเร่งติดตามตัวอีก 2 คน คือ "นายต่าย" ซึ่งเป็นคนขับรถ ชี้เป้า จัดหาปืน และ "นายนิรันดร์ หรือ หมู พึ่งสำเภา" นักประมูลงานรับเหมาก่อสร้าง ชาวอำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ที่เป็นคนกลางในการติดต่อประสานงานทั้งหมด ซึ่งตำรวจออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว และกำลังติดตามตัวมาดำเนินคดี หากได้ตัวทั้ง 2 มาดำเนินคดีได้ เชื่อแน่ว่าจะสามารถโยงถึงตัวผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังมาลงโทษตามกฎหมายได้เช่นกัน เพราะเป็นคดีนี้เป็นเหตุอุกอาจ และผู้ตายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย