รวบตัวมือปืนดัง “ภาพ 100 ศพ” ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฆ่า “ผกก.ไทรงาม” เจ้าตัวยอมรับลงมือยิง “จู๊ด ห้วยใหญ่” แต่ปฏิเสธฆ่า ผกก.ไทรงาม อ้างขณะเกิดเหตุทำไร่อยู่ แต่ที่หนีเพราะกลัวถูกจับคดีอื่น ขณะที่ “อัศวิน” เชื่อภาพ 100 ศพไม่ใช่มือยิง ผกก.ไทรงาม ชี้ที่ต้องจับเพราะมีหมายจับติดตัวหลายคดี โดยจะเร่งติดตามจับกุมมือปืนตัวจริงมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) รรท.ผบช.ภ.1 ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รอง จตร.ปฏิบัติหน้าที่ ภ.1 แถลงการจับกุม นายณรงค์ ธงชัย อายุ 43 ปี หรือ “ภาพ 100 ศพ” มือปืนรับจ้างที่ถูกขึ้นบัญชีของศูนย์ปราบปรามมือปืนรับจ้าง และผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ 193/2554 ลงวันที่ 21 เมษายน 2554 ในคดีใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เสียชีวิต โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าตลาดโต้รุ่งเทศบาลเมืองนครพนม ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
พล.ต.อ.อัศวินเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิง พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร จนเสียชีวิตขณะยืนล้างรถอยู่บริเวณหน้าบ้านพักใน จ.นครสวรรค์ ซึ่งต่อมาทีมสืบสวนได้สืบทราบว่าคนร้าย คือ นายณรงค์ หรือภาพ 100 ศพ จึงได้ขออำนาจศาลออกหมายจับ กระทั่งศูนย์ปราบปรามมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ได้เบาะแสว่านายณรงค์หลบหนีอยู่แถวตลาดโต้รุ่งเทศบาลเมืองนครพนม จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวมาทำการสอบสวน
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวอีกว่า นอกจากหมายจับคดียิง ผกก.ไทรงาม ยังพบว่านายณรงค์มีหมายจับคดีใช้อาวุธปืนยิงนายจู๊ด ห้วยใหญ่ ที่จ.ชลุบรี ก่อนจะไปถูกจับคดีอาวุธปืนที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี โดยถูกจับกุมขณะที่กำลังจะนำอาวุธปืนไปก่อเหตุสังหารนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ซึ่งนายณรงค์อยู่ระหว่างหลบหนีการประกันตัวในชั้นศาล และยังมีหมายจับคดีฆ่าผู้อื่นอีกหลายคดี แต่นายณรงค์ก็ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือยิง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องทำการสืบสวนต่อไปโดยใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบด้วย
จากการสอบสวนนายณรงค์ให้การปฏิเสธว่า ตนมีอาชีพขับรถไถ ไม่ได้เป็นคนลงมือยิง ผกก.สภ.ไทรงาม แต่ยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือยิงนายจู๊ดที่ จ.ชลบุรี และเคยถูกจับคดีอาวุธปืนที่ จ.กาญจนบุรี ส่วนคดียิงภรรยาอัยการจังหวัดประจำกรม สำนักอัยการไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ที่ จ.ราชบุรี และหมายจับในคดีฆ่าผู้อื่นอีกหลายหมายนั้น ตนขอปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งสาเหตุที่ยอมเป็นมือปืนรับจ้างเพราะอยากได้เงิน และเคยเป็นทหารอากาศมาก่อน จึงพอมีความรู้ในเรื่องการยิงปืน แต่ไม่ถึงกับเชี่ยวชาญและไม่ได้เข้ารับการฝึกยิงปืนใดๆ เป็นพิเศษ ส่วนฉายาภาพ 100 ศพ สื่อมวลชนเป็นคนตั้งให้
นายณรงค์กล่าวต่อไปว่า วันที่เกิดเหตุคนร้ายยิง ผกก.สภ.ไทรงาม ตนเดินทางมาอยู่ที่ จ.นครพนม และไม่ได้ออกไปไหน เพราะกลัวถูกจับคดีที่หลบหนีการประกันตัวชั้นศาล ก่อนเกิดเหตุวันที่ 18 เม.ย.ตนยังอยู่ที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และทราบว่าถูกออกหมายจับจากเพื่อนที่ จ.ชลบุรี ปกติไม่ได้ติดตามข่าวสารใดๆ เพราะทำงานอยู่ในไร่ ซึ่งทุกครั้งที่ถูกออกหมายจับก็จะมีญาติโทรศัพท์มาบอก ทำให้ตนหวาดกลัวไม่กล้าออกไปไหนทั้งๆ ที่ตนก็ไม่ได้ทำผิดอะไร
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับคดีฆ่าผู้อื่นที่ผ่านมาอาจจะมีพยานและหลักฐานระบุได้ชัดเจนว่านายณรงค์เป็นผู้ก่อเหตุ แต่สำหรับคดียิง ผกก.สภ.ไทรงาม ตนเชื่อว่านายณรงค์ไม่ใช่คนร้าย เนื่องจาก ผกก.สภ.ไทรงาม ถูกสังหารเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน แต่นายณรงค์กลับไปปรากฏตัวอยู่ที่ จ.นครพนม ตอน 6 โมงเช้า โดยมีพยานระบุว่าเห็นนายณรงค์ทำไร่อยู่ที่ จ.นครพนม ในเวลา 06.00 น. ซึ่งการหลบหนีในเวลาอันรวดเร็วขนาดนั้นไม่น่าจะสามารถทำได้ อีกทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และวัตถุพยานหลายอย่างระบุได้ว่านายณรงค์อยู่ที่ จ.นครพนมจริง แต่ที่ต้องติดตามจับกุมตัวนั้นเป็นเพราะนายณรงค์มีหมายจับอยู่หลายคดี และตนได้รับการประสานงานให้ช่วยเหลือในการสืบสวนจับกุม หลังจากนี้จะส่งตัวนายณรงค์ให้ทาง จ.นครสวรรค์ ไปทำการสอบสวนต่อ ส่วนมือปืนตัวจริงหลังจากนี้ตนจะส่งทีมสืบสวนขึ้นไปติดตามหาเบาะแสและจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป