สองโจ๋แท็กซี่วินบางบ่อ ก่อเหตุยิงโหดหนุ่มแท็กซี่สาวกเสื้อแดง วินชมรมบางเสาธง เสียชีวิต แถมทำให้แท็กซี่พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ถูกยิงบาดเจ็บขณะพยายามขับรถปาดหน้าสกัดไม่ให้หลบหนี คาดเหตุแย่งกันเปิดวินใหม่ที่หน้าวิวพลอยคอมเพล็กซ์ ปากน้ำ
วันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.พีระพงษ์ ภาพพันธ์ สารวัตรเวร สภ.บางบ่อสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีโชเฟอร์แท็กซี่ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณลานจอดรถหน้าวิวพลอยคอมเพล็กซ์ หมู่ 4 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบศพ นายยอดธง พัดทอง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 13 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บนถนนทางเข้าลานจอดรถ ข้างรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทพ 8990 กทม.ของสหกรณ์ปทุมวันแท็กซี่ จำกัด ซึ่งอยู่ในสภาพกระจกประตูด้านหลังข้างขวาแตกกระจาย ส่วนกระจกหน้าด้านคนขับถูกทุบด้วยของแข็งจนแตกเช่นกัน นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบมีดสปาร์ตายาวประมาณ 80 เซนติเมตร ตกอยู่ 1 เล่ม ตรวจสอบตามร่างกายพบบริเวณกลางหน้าอกถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองทั่วหน้าอก และที่บริเวณแขนข้างซ้ายถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดอีกจำนวน 2 แผล ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 เมตร พบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทน4063 กทม.ของบริษัท เอกราชทรานสปอร์ต จำกัด ด้านหลังรถมีสติกเกอร์ทักษิณคิด เพื่อไทยทำติดอยู่ และมีผ้าสีแดงโลโก้รายการความจริงวันนี้ผูกติดอยู่กับเสาอากาศรถ ซึ่งเป็นรถของผู้ตายจอดเปิดประตูด้านคนขับอยู่ โดยภายในรถพบไม้คมแฝกวางอยู่ 1 อัน ที่ประตูด้านคนขับและพื้นถนนมีรอยเลือดสาดกระเซนอยู่หลายแห่ง
นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ชื่อ นายสุเทพ สานยิ้ม อายุ 35 ปี ซึ่งขับแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีส้ม ทะเบียน ทม 2885 กทม.ไล่ตามคนร้ายไปหลังก่อเหตุ และถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถหลายนัด ถูกที่ประตูหลังด้านคนขับ 1 นัด ไฟท้ายข้างซ้าย 1 นัด กระสุนเฉี่ยวเข้าที่เอวข้างขวาของ นายสุเทพ แพทย์โรงพยาบาลบางนา 2 ได้ให้การรักษาจนอาการปลอดภัยก่อนให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบเพียงชื่อเล่น ชื่อ นายแขก ซึ่งเป็นหัวหน้าคุมวินแท็กซี่หน้าเทราวิช นายจ่อย และ นายหมึก ที่เป็นลูกน้องของนายแขก หลังก่อเหตุนายหมึกได้ขับรถมารับทั้งสองหลบหนีไป
จากการสอบสวน นายวรายุทธ จันปะทัด อายุ 25 ปี รปภ.ซึ่งอยู่ด้านหน้าลานจอดรถที่เกิดเหตุได้ให้การว่าก่อนเกิดเหตุว่าพบเห็นรถแท็กซี่ของผู้ก่อเหตุ คือ นายแขก และ นายจ่อย ได้ขับรถมาจอดตรงจุดที่เกิดเหตุ ก่อนที่ นายแขก จะเปิดประตูเดินลงจากรถ เพื่อที่จะเข้าไปยืนหลบแดดข้างทางใกล้อาคารที่กำลังก่อสร้างอยู่ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ตายขับรถแท็กซี่เข้ามาพอดีและขับเข้าไปเฉี่ยวแขนของนายแขก ผู้ก่อเหตุ จากนั้นผู้ตายและนายแขกได้มีปากเสียงกัน ก่อนที่นายแขกจะชักอาวุธปืนไม่ทราบขนาดแบบลูกโม่ออกมายิงใส่ผู้ตาย จำนวน 2 นัด ก่อนที่จะวิ่งมาขึ้นรถเพื่อที่จะหลบหนี แต่กระสุนถูกท่อนแขนของผู้ตายไม่เข้าจุดสำคัญ ผู้ตายจึงได้คว้าเอามีดสปาร์ต้าที่อยู่ในรถออกมากระหน่ำฟันใส่นายแขก ที่กำลังจะสตาร์ทเครื่องเพื่อขับหลบหนี ซึ่งทำให้นายจ่อย ที่นั่งมาอยู่ในรถได้เปิดประตูด้านซ้ายออกมา และวิ่งอ้อมมาทางท้ายรถแล้วชักอาวุธปืนลูกซองสั้น ออกมายิงใส่ผู้ตาย 1 นัด จนล้มฟุบเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ นายหมึก ได้ขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ไม่ทราบทะเบียนเข้ามารับ นายแขก และ นายจ่อย ขับหลบหนีออกไปทางถนนบางนา-ตราด ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับ นายสุเทพ ขับรถผ่านมาเห็น จึงได้ขับรถไล่ตามผู้ก่อเหตุทั้งหมดไปได้ประมาณ 1 กิโลเมตร และพยายามจะขับปาดหน้า เพื่อให้รถคนร้ายหยุด แต่กลับถูก นายแขก ใช้อาวุธปืนแบบลูกโม่ไม่ทราบขนาดยิงใส่รถหลายนัด จนตัวเองได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมหลักฐานในการติดตามจับกุม นายแขก นายจ่อย และ นายหมึก ที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนสาเหตุทราบว่าผู้ตายซึ่งเป็นแท็กซี่ของวินชมรมบางเสาธง ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นแท็กซี่ของวินบางบ่อ ซึ่งทั้งสองวินมีปัญหากันเรื่องที่จะมาแย่งกันเปิดวินใหม่ที่หน้าวิวพลอยคอมเพล็กซ์ ซึ่งทำให้ทั้งสองวินมีเรื่องกันกันอยู่ประจำจนกระทั่งมาเกิดเหตุร้ายแรงในวันนี้
วันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.พีระพงษ์ ภาพพันธ์ สารวัตรเวร สภ.บางบ่อสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีโชเฟอร์แท็กซี่ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณลานจอดรถหน้าวิวพลอยคอมเพล็กซ์ หมู่ 4 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบศพ นายยอดธง พัดทอง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 13 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บนถนนทางเข้าลานจอดรถ ข้างรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทพ 8990 กทม.ของสหกรณ์ปทุมวันแท็กซี่ จำกัด ซึ่งอยู่ในสภาพกระจกประตูด้านหลังข้างขวาแตกกระจาย ส่วนกระจกหน้าด้านคนขับถูกทุบด้วยของแข็งจนแตกเช่นกัน นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบมีดสปาร์ตายาวประมาณ 80 เซนติเมตร ตกอยู่ 1 เล่ม ตรวจสอบตามร่างกายพบบริเวณกลางหน้าอกถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองทั่วหน้าอก และที่บริเวณแขนข้างซ้ายถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดอีกจำนวน 2 แผล ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 เมตร พบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทน4063 กทม.ของบริษัท เอกราชทรานสปอร์ต จำกัด ด้านหลังรถมีสติกเกอร์ทักษิณคิด เพื่อไทยทำติดอยู่ และมีผ้าสีแดงโลโก้รายการความจริงวันนี้ผูกติดอยู่กับเสาอากาศรถ ซึ่งเป็นรถของผู้ตายจอดเปิดประตูด้านคนขับอยู่ โดยภายในรถพบไม้คมแฝกวางอยู่ 1 อัน ที่ประตูด้านคนขับและพื้นถนนมีรอยเลือดสาดกระเซนอยู่หลายแห่ง
นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ชื่อ นายสุเทพ สานยิ้ม อายุ 35 ปี ซึ่งขับแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีส้ม ทะเบียน ทม 2885 กทม.ไล่ตามคนร้ายไปหลังก่อเหตุ และถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถหลายนัด ถูกที่ประตูหลังด้านคนขับ 1 นัด ไฟท้ายข้างซ้าย 1 นัด กระสุนเฉี่ยวเข้าที่เอวข้างขวาของ นายสุเทพ แพทย์โรงพยาบาลบางนา 2 ได้ให้การรักษาจนอาการปลอดภัยก่อนให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบเพียงชื่อเล่น ชื่อ นายแขก ซึ่งเป็นหัวหน้าคุมวินแท็กซี่หน้าเทราวิช นายจ่อย และ นายหมึก ที่เป็นลูกน้องของนายแขก หลังก่อเหตุนายหมึกได้ขับรถมารับทั้งสองหลบหนีไป
จากการสอบสวน นายวรายุทธ จันปะทัด อายุ 25 ปี รปภ.ซึ่งอยู่ด้านหน้าลานจอดรถที่เกิดเหตุได้ให้การว่าก่อนเกิดเหตุว่าพบเห็นรถแท็กซี่ของผู้ก่อเหตุ คือ นายแขก และ นายจ่อย ได้ขับรถมาจอดตรงจุดที่เกิดเหตุ ก่อนที่ นายแขก จะเปิดประตูเดินลงจากรถ เพื่อที่จะเข้าไปยืนหลบแดดข้างทางใกล้อาคารที่กำลังก่อสร้างอยู่ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ตายขับรถแท็กซี่เข้ามาพอดีและขับเข้าไปเฉี่ยวแขนของนายแขก ผู้ก่อเหตุ จากนั้นผู้ตายและนายแขกได้มีปากเสียงกัน ก่อนที่นายแขกจะชักอาวุธปืนไม่ทราบขนาดแบบลูกโม่ออกมายิงใส่ผู้ตาย จำนวน 2 นัด ก่อนที่จะวิ่งมาขึ้นรถเพื่อที่จะหลบหนี แต่กระสุนถูกท่อนแขนของผู้ตายไม่เข้าจุดสำคัญ ผู้ตายจึงได้คว้าเอามีดสปาร์ต้าที่อยู่ในรถออกมากระหน่ำฟันใส่นายแขก ที่กำลังจะสตาร์ทเครื่องเพื่อขับหลบหนี ซึ่งทำให้นายจ่อย ที่นั่งมาอยู่ในรถได้เปิดประตูด้านซ้ายออกมา และวิ่งอ้อมมาทางท้ายรถแล้วชักอาวุธปืนลูกซองสั้น ออกมายิงใส่ผู้ตาย 1 นัด จนล้มฟุบเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ นายหมึก ได้ขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ไม่ทราบทะเบียนเข้ามารับ นายแขก และ นายจ่อย ขับหลบหนีออกไปทางถนนบางนา-ตราด ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับ นายสุเทพ ขับรถผ่านมาเห็น จึงได้ขับรถไล่ตามผู้ก่อเหตุทั้งหมดไปได้ประมาณ 1 กิโลเมตร และพยายามจะขับปาดหน้า เพื่อให้รถคนร้ายหยุด แต่กลับถูก นายแขก ใช้อาวุธปืนแบบลูกโม่ไม่ทราบขนาดยิงใส่รถหลายนัด จนตัวเองได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมหลักฐานในการติดตามจับกุม นายแขก นายจ่อย และ นายหมึก ที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนสาเหตุทราบว่าผู้ตายซึ่งเป็นแท็กซี่ของวินชมรมบางเสาธง ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นแท็กซี่ของวินบางบ่อ ซึ่งทั้งสองวินมีปัญหากันเรื่องที่จะมาแย่งกันเปิดวินใหม่ที่หน้าวิวพลอยคอมเพล็กซ์ ซึ่งทำให้ทั้งสองวินมีเรื่องกันกันอยู่ประจำจนกระทั่งมาเกิดเหตุร้ายแรงในวันนี้