พยานชี้มือบึ้ม พธม.ยืนหัวสะพานก่อนปา-ตร.เจอชิ้นส่วน จยย.ฮอนด้าเวฟตกอยู่

ตร.เจอชิ้นส่วนหน้ารถต้องสงสัยใกล้ที่เกิดเหตุบึ้มหลังเวทีพันธมิตรฯ เป็นของรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ ขณะที่พยานบอกคนร้ายไม่ได้สวมหมวกกันน็อก และขับรถมาคนเดียวแล้วยืนอยู่บนหัวสะพานก่อนปาระเบิดเข้ามา

วันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายปาระเบิดใส่หลังเวทีพันธมิตรฯ ใกล้เคียงกับจุดจอดรถจักรยานยนต์บนสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นระเบิดที่พบกระเดื่องคล้ายเป็นชนิดเอ็ม 26 โดยน่าจะเอาหลายส่วนมาประกอบกัน โดยไม่ใช่ระเบิดสังหารเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ไม่มีสะเก็ดระเบิด มีแต่ควันและฟอสฟอรัสจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้ไฟไหม้ โดยเป็นการสร้างสถานการณ์ ส่วนพยานที่เห็นเหตุการณ์ได้นำตัวมาสอบสวนแล้วพบว่าคนร้ายขับรถมาและยืนอยู่บนหัวสะพานฯ ก่อนขว้างเข้ามา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ลักษณะระเบิดตรงกับที่ผ่านมาหรือไม่ ผบก.น.1 กล่าวว่า ไม่ตรงเลย โดยฝ่ายสืบสวนได้เรียกประชุมเวลา 10.00 น.ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน (บก.สส.) ส่วนตนก็จะเตรียมเรียกประชุมเพื่อดำเนินการเรื่องเทคนิคต่างๆ ส่วน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. จะเรียกประชุมเมื่อใดยังไม่ชัดเจน แต่ก็พร้อมจะประชุมร่วมอีกครั้ง สำหรับรถต้องสงสัยที่พบเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ เพราะรถของคนร้ายมีชิ้นส่วนหน้ารถตกอยู่ แต่ยังไม่เห็นทะเบียน โดยกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดอยู่ ซึ่งพยานบอกว่าคนร้ายไม่ได้ใส่หมวกกันน็อก และมาคนเดียว ซึ่งจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดอีกครั้ง สำหรับคนเจ็บที่บาดเจ็บนั้นได้รับบาดเจ็บจากแรงอัดไม่ใช่สะเก็ดระเบิด โดยแรงระเบิดทำให้สิ่งของกระเด็นไปโดนคนเจ็บ

"สุเมธ" ชี้ ระเบิดชนิด 82-2 ผลิตในจีนไม่มีใช้ในราชการ
ทางด้าน พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.) ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนนครบาล ติดตามความคืบหน้าในการหาตัวคนร้าย โดยกล่าวว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นระเบิดชนิด 82-2 ผลิตในประเทศจีนไม่มีใช้ในราชการ ซึ่งมีขนาดเท่ากับลูกมะนาว ความรุนแรงจะไม่เท่ากับระเบิดทั่วไป และไม่พบสะเก็ดระเบิดโดยรอบ โดยเบื้องต้นได้ให้ชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามปลายทางแล้ว