กรมศุลฯจับเรือประมงดัดแปลงลักลอบบรรทุกไม้พะยูงส่งออก มูลค่ากว่า 8 ล้าน ควบคุมกัปตัน-ลูกเรือชาวกัมพูชา 3 ราย พร้อมยอมรับนายจ้างกัมพูชาสั่งให้เข้ามารับไม้พะยูงส่งเข้าเขมร
วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายวิศาล วุฒิศักดิ์ศิลป์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร และนายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม นายนิมิต แสงอำไพ รักษาการผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 แถลงการจับกุมไม้พะยูงลักลอบส่งออก จำนวนมาก รวมมูลค่า 8 ล้านบาท
นายวิศาล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พ.ค.เวลา 23.00 น.ต่อเนื่องวันที่ 20 พ.ค.เวลา 04.50 น.นายนิมิต แสงอำไพ รักษาการผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 นำโดยนายอรุณ เดชปรีชากุล หัวหน้างานสืบสวนปราบปรามที่ 3 ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 และ นายเกรียงศักดิ์ จันทร์ทิม หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงเรือตรวจการณ์ศุลกากร 1001 ออกจากท่าเรืออ่าวอุดม จังหวัดชลบุรี แล่นมุ่งหน้าจอดลอยลำ ซุ่มสังเกตการณ์ด้วยเรดาห์ประจำเรือบริเวณกลางทะเลห่างจากเกาะจิกนอก ปากแม่น้ำเวฬุ ประมาณ 3 ไมล์ทะเล และห่างจากเกาะช้างประมาณ 9 ไมล์ทะเล พิกัดแลตติจูด 12 องศา 14 ลิปดา 222 ฟิลิปดาเหนือ ตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ซึ่งมีการประสานแจ้งความเคลื่อนไหวของผู้กระทำผิดตลอดเวลา และจากการตรวจการณ์ด้วยเรดาห์ พบว่ามีเรือต้องสงสัยแล่นออกจากปากแม่น้ำเวฬุ มุ่งหน้าเกาะช้าง จนถึงจุดที่เจ้าหน้าที่ซุ่มตรวจการณ์อยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนขอตรวจค้นเรือลำดังกล่าว ซึ่งมีนายลี ซก อายุ 42 ปี เป็นผู้ควบคุมเรือ พร้อมด้วย นายเฟีย อาน อายุ 22 ปี ช่างเครื่อง และนายซาง ซก อายุ 25 ปี กะลาสี ทั้งหมดมีสัญชาติกัมพูชา ยินยอมให้ตรวจค้นแต่โดยดี โดยจากการตรวจค้นพบเป็นเรือประมงดัดแปลงขนาดความยาวประมาณ 10 วา มีระวางบรรทุกขนาดใหญ่ภายในบรรจุไม้พะยูงและไม้หวงห้ามอื่นๆ ลักษณะเป็นแผ่น ท่อน และเหลี่ยม จำนวนประมาณ 200 ชิ้น มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท
นายวิศาล กล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนบุคคลทั้ง 3 ให้การว่า ได้รับคำสั่งจากนายจ้างชาวกัมพูชา ให้นำเรือแล่นจากน่านน้ำกัมพูชาเข้ามารับไม้จำนวนดังกล่าวภายในแม่น้ำเวฬุ เพื่อนำไปส่งที่ประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า พยายามลักลอบนำสินค้าดังกล่าว ซึ่งเป็นของต้องอากรขาออกและเป็นของต้องจำกัดในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบกับมาตรา 16,17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมยึดเรือและไม้ของกลางทั้งหมดส่งกรมศุลกากร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
