ตำรวจห้วยขวางล่อซื้อยาไอซ์จากเอเยนต์รายย่อย นัดส่งของกันที่คอนโดฯ ในซอยลาดพร้าว 71 พอบุกเข้าจับก็พบทนายความที่ จ.เชียงราย กับสาวท้อง 8 เดือนนั่งร่วมวงเสพยาอยู่ด้วยกัน ยึดของกลางได้กว่า 100 กรัม ยาอี 80 เม็ด เจ้าของห้องสารภาพรับยาจากสาวไทยเมียชาวไนจีเรียที่ย่านบางใหญ่ แล้วเอามาขายปลีกในราคากรัมละ 1,700 บาท พร้อมเปิดห้องให้ลูกค้าเสพด้วย
เมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้ (20 พ.ค.) ที่สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.ปิติพันธ์ กฤดากร ณ อยุธยา สว.อก.สน.จรเข้น้อย รรท.สว.สส.สน.ห้วยขวาง ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ โชว์สูงเนิน ร.ต.ท.ณรงค์ชัย คุณบัวลา รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายษัฑวัต หรือเอก เรือนมา อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 8 ต.ป่าแฝก อ.แม่ใจ จ.พะเยา น.ส.พิมพ์ลภัทร์ หรือซา อัครเศษฐานันท์ อายุ 31 ปี อย่บ้านเลขที่ ก47/54 ถนนตัดใหม่ ร.ร.ปากน้ำโพเดิม ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ น.ส.กัญญารัตน์ หรือมิก ชูหนู อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 8 ต.บ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรสาศ จ.สุโขทัย นายปัญญา หรือเปี๊ยก ผิวดำ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 283 หมู่ 23 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.สุโขทัย น.ส.นริศรา พรมโศ อายุ 23 ปี และ น.ส.จิราพร อสุชีวะ อายุ 28 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนักรวม 102.9 กรัม ยาอี 80 เม็ด เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง จานเซรามิกสีดำ 1 ใบ พร้อมช้อนตัก 1 คัน อุปกรณ์การเสพจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือแบล็กเบอร์รี 1 เครื่อง สมุดบัญชีรายชื่อลูกค้า จำนวน 1 เล่ม และซองพลาสติกแบบรูดปิด-เปิด 200 ซอง
พ.ต.ท.ปิติพันธ์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 20.00 น.วานนี้ (19 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายษัฑวัตเป็นเอเยนต์จำหน่ายาไอซ์และยาอีให้กับลูกค้ารายย่อย จึงวางแผนจับกุมด้วยการติดต่อล่อซื้้อจากนายษัฑวัต จำนวน 10 กรัม ในราคา 20,000 บาท โดยนายษัฑวัต นัดหมายให้ไปรับยาไอซ์ที่ห้องพักเลขที่ 302/709 อาคารบ้านสวนคอนโดมิเนียม ซอยลาดพร้าว 71 แขวงและเขตวังทองหลาง จึงนำกำลังไปดักซุ่มเพื่อรอจับกุม
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปเคาะห้องดังกล่าว น.ส.กัญญารัตน์ได้เปิดประตูห้องออกมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบในห้องพักดังกล่าวก็พบนายษัฑวัต นายปัญญา ซึ่งเป็นทนายความของสำนักงานรชต ใบเกษม ทนายความ จ.เชียงราย และน.ส.พิมพ์ลภัทร์ ซึ่งกำลังตั้งท้องอยู่ 8 เดือน กำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ภายในห้อง นอกจากนี้ยังพบของกลางยาไอซ์ และยาอี พร้อมอุปกรณ์การเสพอีกจำนวนมากวางเรียงรายอยู่ตามพื้นห้อง และยังพบบัตรประชาชนและใบขับขี่ปลอมที่นายษัฑวัตนำรูปตัวเองไปใส่ในชื่อบุคคลอื่นอีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงยึดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไปสอบปากคำที่ สน.ห้วยขวางนั้น ได้มี น.ส.นริศรา พรมโศ อายุ 23 ปี และ น.ส.จิราพร อสุชีวะ อายุ 28 ปี เข้ามาเคาะประตูห้องดังกล่าวเพื่อติดต่อขอซื้อยาไอซ์จากนายษัฑวัต เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาที่ สน.ห้วยขวางด้วยพร้อมกัน ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาทั้งหมดพบว่าเป็นสีม่วงจำนวน 5 คน ยกเว้นนายปัญญาคนเดียวที่ไม่มีสีม่วง
จากการสอบสวนนายษัฑวัตให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยถูกจับกุมคดียาเสพติด ถูกจำคุกอยู่นาน 4 ปี เพิ่งพ้นโทษมาได้ไม่นาน จากนั้นก็ไปรับยาไอซ์และยาอีทั้งหมดมาจาก น.ส.เมย์ ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุล ซึ่งมีสามีเป็นชาวไนจีเรีย พักอาศัยอยู่ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี ในราคา 150,000 บาท จากนั้นก็จะนำมาขายปลีกให้กับลูกค้าที่มาติดต่อขอซื้อในราคากรัมละ 1,700 บาท โดยทำมาแล้วประมาณ 2 เดือน ด้านนายปัญญา ให้การปฏิเสธโดยอ้างว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดดังกล่าว โดยตนแค่เดินทางมาเยี่ยมนายษัฑวัตที่ห้องพักเท่านั้น แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมมาด้วย
พ.ต.ท.ปิติพันธ์กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายษัฑวัตนั้น ยังพบว่ามีหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลก เลขที่ 75/2554 ลงวันที่ 17 มี.ค.54 ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายติดตัวอยู่ หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก บุกจับกุมยาบ้าจำนวน 40,000 เม็ดพร้อมเพื่อนแต่เจ้าตัวหลบหนีมาได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์, ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย กับนายษัฑวัต นายปัญญา น.ส.กัญญารัตน์ และน.ส.พิมพ์ลภัทร์ ส่วน น.ส.นริศรา กับ น.ส.จิราพร นั้นแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เจ้าของพื้นที่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป