ตีนแมวก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านพักของ อดีต ผช.ผู้ว่าการ ธปท.แต่ถูกตำรวจจับได้ ขณะปีนรั้วหนี้ พร้อมของกลางหลายรายการมูลค่าหลายแสนบาท อ้างไม่มีเงินค่าเช่าห้อง
วันนี้ (18 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.วีระศักดิ์ คงเกิด สวป.สน.ศาลาแดง ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ ภายในบ้านของ นายศิริ การเจริญดี อายุ 60 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย บ้านเลขที่ 44/2 ถ.บางแวก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ บริเวณด้านหลังบ้านซึ่งเป็นพงหญ้า พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านกำลังช่วยกันควบคุมตัว นายสมานะ ปิดตาทะลา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 3 ต.พังทุย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาได้พร้อมกลางกระเป๋าสีดำ จำนวน 2 ใบ ภายในมี แบงก์ 100 ดอลล่าร์ 7 ใบ แบงก์ 10 ดอลล่าร์ 4 ใบ แบงก์ที่ระลึกราคา 500 บาท 78 ใบ แบงก์ 100 บาท 4 ใบ แบงก์เงินปอนด์ 50 ปอนด์ 10 ใบ เงินปอนด์ 20 ปอนด์ 23 ใบ แบงก์ 5 ปอนด์ 1 ใบ พระพุทธรูป 3 องค์ พระเครื่อง 80 องค์ ทองรูปพรรณพร้อมจี้ 1 บาท รวมมูลค่าหลายแสนบาท พร้อมอุปกรณ์งัดแงะ ประกอบด้วย ไขควง 2 อัน มีดปลายแหลม 1 ด้าม
สอบปากคำ นายสมานะ ให้การว่า เพิ่งขโมยของครั้งแรกแต่ขาดเงินค่าเช่าห้อง เมื่อผ่านมาเห็นบ้านเงียบจึงปีนเข้าไปในบ้านเพื่อขโมยของ โดยพักอาศัยอยู่ห้องเช่าแถวแยกทศกัณฐ์ ย่านบางไผ่ ใกล้กับที่เกิดเหตุ เคยทำงานขับรถบรรทุก และขับรถแท็กซี่แต่ตอนนี้ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ทั้งนี้เมื่อตรวจประวัติพบเคยถูกจับคดียาเสพติดที่ สน.ศาลาแดง และเชื่อว่า ผู้ต้องหาน่าจะเคยก่อเหตุมีแล้วเนื่องจากมีอุปกรณ์งัดแงะจำนวนมาก
ด้าน นายศิริ กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่กับ นางผุสดี การเจริญดี อายุ 55 ปี ภรรยา พร้อมคนรับใช้ ก่อนเกิดเหตุขณะตนกับภรรยาออกไปนอกบ้าน มีเพียงเด็กเฝ้าบ้านอยู่ ก่อนเกิดเหตุเด็กที่เฝ้าบ้านได้ยินเสียง เหมือนคนขึ้นต้นไม้ทางด้านหลังบ้าน ตอนแรกนึกว่าเป็นตัวตะกวด เพราะแถวบ้านจะมีตัวตะกวดเยอะ แต่เห็นเสียงดังอีกผิดสังเกต จึงขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ก็พบว่าที่ห้องพระ และที่ห้องของตนถูกรื้อค้น เมื่อออกไปดูทางหน้าต่าง ก็เห็นคนร้ายกำลังปีนกำแพงหลบหนี จึงรีบแจ้งตำรวจ จนสามารถจับกุมคนร้ายได้
วันนี้ (18 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.วีระศักดิ์ คงเกิด สวป.สน.ศาลาแดง ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ ภายในบ้านของ นายศิริ การเจริญดี อายุ 60 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย บ้านเลขที่ 44/2 ถ.บางแวก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ บริเวณด้านหลังบ้านซึ่งเป็นพงหญ้า พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านกำลังช่วยกันควบคุมตัว นายสมานะ ปิดตาทะลา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 3 ต.พังทุย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาได้พร้อมกลางกระเป๋าสีดำ จำนวน 2 ใบ ภายในมี แบงก์ 100 ดอลล่าร์ 7 ใบ แบงก์ 10 ดอลล่าร์ 4 ใบ แบงก์ที่ระลึกราคา 500 บาท 78 ใบ แบงก์ 100 บาท 4 ใบ แบงก์เงินปอนด์ 50 ปอนด์ 10 ใบ เงินปอนด์ 20 ปอนด์ 23 ใบ แบงก์ 5 ปอนด์ 1 ใบ พระพุทธรูป 3 องค์ พระเครื่อง 80 องค์ ทองรูปพรรณพร้อมจี้ 1 บาท รวมมูลค่าหลายแสนบาท พร้อมอุปกรณ์งัดแงะ ประกอบด้วย ไขควง 2 อัน มีดปลายแหลม 1 ด้าม
สอบปากคำ นายสมานะ ให้การว่า เพิ่งขโมยของครั้งแรกแต่ขาดเงินค่าเช่าห้อง เมื่อผ่านมาเห็นบ้านเงียบจึงปีนเข้าไปในบ้านเพื่อขโมยของ โดยพักอาศัยอยู่ห้องเช่าแถวแยกทศกัณฐ์ ย่านบางไผ่ ใกล้กับที่เกิดเหตุ เคยทำงานขับรถบรรทุก และขับรถแท็กซี่แต่ตอนนี้ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ทั้งนี้เมื่อตรวจประวัติพบเคยถูกจับคดียาเสพติดที่ สน.ศาลาแดง และเชื่อว่า ผู้ต้องหาน่าจะเคยก่อเหตุมีแล้วเนื่องจากมีอุปกรณ์งัดแงะจำนวนมาก
ด้าน นายศิริ กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่กับ นางผุสดี การเจริญดี อายุ 55 ปี ภรรยา พร้อมคนรับใช้ ก่อนเกิดเหตุขณะตนกับภรรยาออกไปนอกบ้าน มีเพียงเด็กเฝ้าบ้านอยู่ ก่อนเกิดเหตุเด็กที่เฝ้าบ้านได้ยินเสียง เหมือนคนขึ้นต้นไม้ทางด้านหลังบ้าน ตอนแรกนึกว่าเป็นตัวตะกวด เพราะแถวบ้านจะมีตัวตะกวดเยอะ แต่เห็นเสียงดังอีกผิดสังเกต จึงขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ก็พบว่าที่ห้องพระ และที่ห้องของตนถูกรื้อค้น เมื่อออกไปดูทางหน้าต่าง ก็เห็นคนร้ายกำลังปีนกำแพงหลบหนี จึงรีบแจ้งตำรวจ จนสามารถจับกุมคนร้ายได้