หนุ่มเมืองคอนทำทีเข้าไปของเลือกซื้อทองในห้างบิ๊กซีลาดพร้าว อาศัยจังหวะพนักงานคิดราคาให้ กำทองใส่มือแล้วรีบเผ่นออกมา แต่ถูกตำรวจจับได้ขณะกำลังคร่อม จยย.หนี อ้างตกงานไม่มีเงิน สงสารลูกเมียที่ไม่มีข้าวกินเลยเกิดอารมณ์ชั่ววูบตัดสินใจก่อเหตุ แต่ตำรวจตรวจประวัติพบว่าถูกออกหมายจับหลังก่อเหตุวิ่งราวทองที่บ้านเกิดเมื่อเดือนที่แล้ว คาดหนีเข้ากรุงมาก่อเหตุซ้ำ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (16 พ.ค.) พ.ต.ท.จิตพล เอื้อยฉิมพลี สวป.สน.โชคชัย ร.ต.อ.นิคม จุลลศรี รอง สว.สส.ช่วยราชการ จร. ร.ต.ท.มนตรี ขอดเตชะ รอง สวป. นำกำลังเข้าจับกุม นายนิรุตติ์ กลิ่นสุวรรณ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/29 หมู่ 3 ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 1 เส้น มูลค่า 66,500 บาท โดยจับกุมได้จากบริเวณลานจอดรถจยย.หน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล สาขาลาดพร้าว แขวงและเขตลาดพร้าว หลังก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำจากร้านเพชรทองออโรล่า ตั้งอยู่ชั้นล่างของโซนบิ๊กซีซูเปอร์มาร์เก็ต
พ.ต.ท.จิตพลเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุนายนิรุตติ์ได้ทำทีเข้ามาขอเลือกซื้อสร้อยคอทองคำที่ร้านดังกล่าว จากนั้นเจ้าตัวได้ชวนนางเตือนใจ ขวัญนอน อายุ 29 ปี พนักงานขายของร้านคุยพร้อมทั้งสอบถามราคาทองคำอยู่หลายเส้น เมื่อสบโอกาสช่วงที่พนักงานของร้านกำลังคิดราคาทองให้อยู่ นายนิรุตติ์ก็คว้าสร้อยคอทองคำเส้นของกลางกำใส่มือแล้วรีบวิ่งหนีออกมาทางหน้าห้างดังกล่าว พนักงานของร้านจึงรีบประสานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและตำรวจจราจร สน.โชคชัย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าห้างเข้าสกัดจับเอาไว้ได้ขณะกำลังขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์เพื่อหลบหนี ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายนิรุตติ์ให้การรับสารภาพว่า ไม่มีงานทำ อยู่ที่บ้านใน จ.นครศรีธรรมราช ต่อมาได้พาภรรยาและลูกสาวอายุ 10 เดือนมาขออาศัยอยู่กับพี่สาวที่กรุงเทพฯ ย่านรามอินทรา เพื่อหางานทำแต่ก็ยังหางานไม่ได้จนถูกพี่สาวไล่ออกจากบ้าน หลังจากนั้นก็ย้ายมาพักอยู่กับน้องสาวที่ย่านพหลโยธิน แต่ตนก็ยังไม่มีเงิน ด้วยความสงสารเมียกับลูกที่ยังไม่ได้กินข้าว จึงทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบมาเดินที่ห้างตั้งแต่ช่วงเที่ยง ก่อนตัดสินใจก่อเหตุวิ่งราวทองแต่ก็ถูกจับกุมจนได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ เพราะจากการตรวจสอบประวัติของนายนิรุตติ์พบนั้นว่าเจ้าตัวมีหมายจับของ สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เลขที่ 119/2554 ลงวันที่ 26 เม.ย. 2554 ในคดีวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทติดตัวอยู่ จึงคาดว่าหลังก่อเหตุที่ จ.นครศรีธรรมราช แล้วก็ได้หลบหนีเข้า กทม.มาก่อเหตุซ้ำอีก จึงแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป