ปทส.จับหนุ่มชาวเอมิเรตส์คาสนามบินสุวรรณภูมิ ลักลอบขนลูกเสือดาว ลูกเสือดำ ลูกหมี และสัตว์ป่าคุ้มครอง ยัดใส่กระเป๋าเดินทางเตรียมบินไปดูไบ จนท.สืบทราบเข้าตรวจค้นและพบสัตว์ดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบลูกสัตว์ป่าถูกซ่อนไว้ภายในห้องน้ำสนามบิน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างไม่รู้เรื่องบอกเพียงมีคนเอามาฝากไว้
วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อเวลา 04.00 น. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ พ.ต.อ.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ รองผู้บังคับการ บก.ปทส. พ.ต.ท.อรรถพล สุตสาย สว.กก.2, พ.ต.ท.สุทธินันท์ คงแช่มดี สว.กก.5, พ.ต.ต.สุรศักดิ์ สิทธิใหญ่ สว.กก.2 และเจ้าหน้าที่ บก.ปทส. ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แถลงผลการจับกุม นายนัวร์ มาห์มูดร์ (Noor Mahmoodmr) อายุ 36 ปี สัญชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมของกลาง ลูกเสือดาว 1 ตัว, ลูกเสือดำ 1 ตัว, ลูกหมี 1 ตัว, ลูกชะนี 1 ตัว และลิงมาโมเสด 1 ตัว โดยจับกุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พ.ต.อ.เกียรติพงศ์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ บก.ปทส.ได้ข้อมูลมาจากการสืบสวนว่าจะมีการลักลอบนำสัตว์ป่าคุ้มครองออกจากประเทศไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิไปยังดูไบในตอนเช้ามืดของวันที่ 13 พฤษภาคม 2554 จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ เมื่อพบผู้ต้องหาจนท.จึงได้แสดงตัวและขอตรวจค้นกระเป๋าเดินทาง (carry-on luggage) ที่ผู้ต้องหาหิ้วมา เมื่อเปิดภายในกระเป๋าออกมาพบลูกเสือดาว และลูกเสือดำ ชนิดละ 1 ตัว รวมเป็น 2 ตัว ถูกซ่อนอยู่ในตะกร้าและกรงพลาสติก เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดสัตว์ดังกล่าว
จากการสืบสวนก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดสัตว์ป่าได้อีกจำนวนหนึ่งจากห้องน้ำภายในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสัตว์ป่าที่ยึดได้จากห้องน้ำมีจำนวนทั้งสิ้น 5 ตัว โดยเป็นลูกเสือดาว 1 ตัว, ลูกเสือดำ 1 ตัว, ลูกหมี 1 ตัว, ลูกชะนี 1 ตัว และ ลิงมาโมเสด 1 ตัว จนท.จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางออกจากสนามบินเพื่อไปทำการสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจราชาเทวะ
พ.ต.อ.เกียรติพงศ์กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธบอกไม่รู้เรื่องกับสัตว์ป่าดังกล่าว โดยอ้างว่ามีชายคนหนึ่งนำกระเป๋ามาฝากไว้เพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งผู้ต้องหาก็ยอมรับฝากไว้ แต่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาขอตรวจค้นกระเป๋าและเจอสัตว์ป่าดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล้าวหาต่อผู้ต้องหาว่าการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 20, 23 และ 24 ระวางโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท