ปส.รวบหนุ่มอิหร่านลักลอบขนยาไอซ์ซุกซ่อนในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน มูลค่า 21 ล้าน เตรียมส่งลูกค้ามาเลเซีย ขณะที่ตำรวจชี้ขบวนการค้ายาเสพติดจะใช้วิธีลำเลียงอำพรางการจับกุมโดยซ่อนยาไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า ก่อนนำใส่กระเป๋าเดินทางแล้วโหลดเข้าใต้เครื่องบินโดยไม่ผ่านเครื่องเอกซเรย์
วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผกก.1 บก.ปส.3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 ร่วมกันแถลงการจับกุม นายเมห์ดี นิคซัด อายุ 27 ปี สัญชาติอิหร่าน พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 6.8 กิโลกรัม มูลค่า 21 ล้านบาท คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง เครื่องนวดไฟฟ้า 3 เครื่อง พัดลมไฟฟ้าสำหรับโน้ตบุ๊ก 2 ตัว หม้อแปลงไฟฟ้า 1 เครื่อง กระป๋องสเปรย์ 4 กระป๋อง กระเป๋าเดินทางแบบลาก 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสดจำนวน 500 ดอลลาร์ และนาฬิกาข้อมืออีก 1 เรือน
พล.ต.ท.อติเทพเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากหลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปส.3 และเจ้าหน้าที่ บช.ปส. ประจำ นปส.สุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีชายชาวอิหร่านลักลอบขนยาเสพติดจากเมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขึ้นเครื่องบินสายการบินอิติฮัติ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่อีวาย 402 ผ่านเข้ามาในประเทศไทย เพื่อนำไปส่งที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
พล.ต.ท.อติเทพกล่าวต่อว่า ต่อมาเวลา 08.00 น.ของวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบผู้ต้องหาเดินลากกระเป๋าเดินทาง ซึ่งลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นพบยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ อย่างละ 1-2 ถุง รวมทั้งสิ้น 13 ถุง จึงยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ โดยเบื้องต้นเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่ารับจ้างขนยาเสพติดให้กับพวกชาวผิวดำเพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่ประเทศมาเลเซีย โดยเมื่อเดินทางไปถึงให้เปลี่ยนซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ให้มาด้วย แล้วโทร.ติดต่อผู้ว่าจ้างอีกครั้งก่อนจะนำยาไอซ์ไปส่งแล้วค่อยไปรับค่าจ้าง
พล.ต.ท.อติเทพกล่าวด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าครั้งนี้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดได้เปลี่ยนวิธีลำเลียงยาเสพติดมาในรูปแบบใหม่ โดยใช้วิธีซุกซ่อนยาไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เครื่องนวด หม้อแปลงไฟฟ้า ก่อนจะนำใส่กระเป๋าเดินทางแล้วโหลดกระเป๋าเข้าใต้เครื่องบินโดยไม่ผ่านเครื่องเอกซเรย์ ซึ่งหากผ่านเครื่องเอกซเรย์ไปแล้วก็อาจจะตรวจไม่เจอก็เป็นได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและนำเข้าเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผกก.1 บก.ปส.3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 ร่วมกันแถลงการจับกุม นายเมห์ดี นิคซัด อายุ 27 ปี สัญชาติอิหร่าน พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 6.8 กิโลกรัม มูลค่า 21 ล้านบาท คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง เครื่องนวดไฟฟ้า 3 เครื่อง พัดลมไฟฟ้าสำหรับโน้ตบุ๊ก 2 ตัว หม้อแปลงไฟฟ้า 1 เครื่อง กระป๋องสเปรย์ 4 กระป๋อง กระเป๋าเดินทางแบบลาก 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสดจำนวน 500 ดอลลาร์ และนาฬิกาข้อมืออีก 1 เรือน
พล.ต.ท.อติเทพเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากหลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปส.3 และเจ้าหน้าที่ บช.ปส. ประจำ นปส.สุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีชายชาวอิหร่านลักลอบขนยาเสพติดจากเมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขึ้นเครื่องบินสายการบินอิติฮัติ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่อีวาย 402 ผ่านเข้ามาในประเทศไทย เพื่อนำไปส่งที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
พล.ต.ท.อติเทพกล่าวต่อว่า ต่อมาเวลา 08.00 น.ของวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบผู้ต้องหาเดินลากกระเป๋าเดินทาง ซึ่งลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นพบยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ อย่างละ 1-2 ถุง รวมทั้งสิ้น 13 ถุง จึงยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ โดยเบื้องต้นเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่ารับจ้างขนยาเสพติดให้กับพวกชาวผิวดำเพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่ประเทศมาเลเซีย โดยเมื่อเดินทางไปถึงให้เปลี่ยนซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ให้มาด้วย แล้วโทร.ติดต่อผู้ว่าจ้างอีกครั้งก่อนจะนำยาไอซ์ไปส่งแล้วค่อยไปรับค่าจ้าง
พล.ต.ท.อติเทพกล่าวด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าครั้งนี้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดได้เปลี่ยนวิธีลำเลียงยาเสพติดมาในรูปแบบใหม่ โดยใช้วิธีซุกซ่อนยาไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เครื่องนวด หม้อแปลงไฟฟ้า ก่อนจะนำใส่กระเป๋าเดินทางแล้วโหลดกระเป๋าเข้าใต้เครื่องบินโดยไม่ผ่านเครื่องเอกซเรย์ ซึ่งหากผ่านเครื่องเอกซเรย์ไปแล้วก็อาจจะตรวจไม่เจอก็เป็นได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและนำเข้าเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
